Translate

วันจันทร์ที่ 11 ตุลาคม พ.ศ. 2553

ต้อยส้มตำ ... ที่ กำแพงดิน เชียงใหม่


 " ต้อยส้มตำ "   ... แซ้บอีหลี  ที่ กำแพงดิน    เชียงใหม่



" ไก่ย่าง ส้มตำ "    ไม่ว่าอยู่จังหวัดไหน ภาคไหน ...  ไปทานอาทิตย์ละกี่ครั้ง ก็ไม่มีวันเบื่อครับ

อาหาร  ที่ ไม่มีการแบ่งชนชั้น ไม่ว่าจะเป็น ..  ไฮโซ  หรือ  โลโซ  หรือ  บอดี้แสลม (5555  เกี่ยวกันมั้ยเนี่ยะ)   ก็แห่กันกินส้มตำ กันจนเหงื่อตกเหงื่อแตน กันถ้วนหน้าครับ


                                 











วันนี้  ขอแนะนำ   ร้านไก่ย่าง ส้มตำ และ อาหารอิสาน กลางเมืองเชียงใหม่ อีกร้านนึงครับ
" ต้อยส้มตำ "   ที่ย่าน กำแพงดิน ครับ
หากเอ่ยชื่อ    " กำแพงดิน "   .. คนรุ่นนี้อาจจะ งง  กันเล็กน้อย ว่า กำแพงดินคืออะไร  อยู่ตรงไหน  มีอะไร  ...  ไม่เห็นจะมีอะไรน่าสนใจเลย
แต่ถ้า ลองไปถาม ชายฉกรรจ์  มีอายุ วัย 40 ปีขึ้นไป  ..   ก็น่า จะพอมีเรื่องเล่า และ อธิบาย  ถึงเรื่องราวความเป็นมา ในการใช้ชีวิตกลางคืน ของ คนในอดีต ของ ย่าน   " กำแพงดิน "   ได้ดีขึ้นครับ

ร้านนี้  ...  เปิดมานานหลายปีแล้วครับ
และ  ผู้ที่เป็นคนแนะนำ ให้ผมรู้จักร้านนี้   ก็คือ ภริยาของอดีตผู้ว่าราชการ จังหวัด เชียงใหม่  เลยทีเดียวครับ
คุณนายผู้ว่า  ท่านเป็นนักชิมตัวยงเลยครับ  ..  ชอบไปเสาะหาอะไรอร่อยๆ  ทานเป็นประจำครับ  ...  ผมมีโอกาส  เจอท่าน เมื่อไหร่  ท่านก็มักจะมาเล่าให้ผมฟัง  ถึง ร้านโน้น ร้านนี้  ว่า ร้านไหนมีอะไรอร่อยบ้าง  จนผมจำได้ว่า  มี ร้านอาหารกว่า 10 ร้าน ที่ผมไปทาน จากการแนะนำ ของท่านเลยทีเดียวครับ

" ร้าน ต้อยส้มตำ "  ...   เป็นอีกหนึ่งร้านที่ท่านแนะนำให้ผมมาลอง  และ ท่านได้ให้คำจำกัดความ ว่า    " เล็กพริกขี้หนู "    ....  โดยท่านอธิบายไว้ว่า
ที่บอกว่า  เล็ก   ...   หมายถึง  ตัวร้าน ที่เป็น ห้องแถวเล็กๆ เก่าแก่ ห้องเดียว
ส่วน  พริกขี้หนู  ...   หมายถึง ความ แซ้บจัดจ้าน  ของ รสมือ ของ แม่ครัวร้านนี้นี่เองครับ  .
แค่ฟังท่านเล่าอย่างเดียว  คงไม่พอแน่เลยครับ  ....    วันนั้น ผมไม่รอช้าครับ  ตรงไปร้านนี้ ทันทีเลยครับ



                     



   






ร้านนี้หาไม่ยากครับ   ขับรถเข้าเมืองเก่า  โดยข้าม  สพานนวรัฐ   มุ่งหน้าเข้าเมือง
โดยใช้เส้นทาง  " ถนนท่าแพ "   ...  ขับมาไม่ไกลครับ ประมาณ  300  เมตร  จนเห็น  ตึก AIS     ก็เลี้ยวซ้าย ตรงก่อนถึงตัวตึก
ตรงเข้ามา ในซอยเลยครับ   (ซอยนี้  ชื่อ  กำแพงดิน ครับ)
ขับไปจนถึง   " วัดช่างฆ้อง "   ที่อยู่ด้านขวามือ  ก่อนถึงสี่แยกเล็กๆ  ...  เดิมทีแถวนี้ มีแต่ ช่างที่ตี  " ฆ้อง "   เพื่อขาย (ข้อมูลนี้จาก น้องๆชาวเชียงใหม่ ที่มาด้วยกันเล่าให้ผมฟังนะครับ .. ไม่ทราบว่าจริงเท็จแค่ไหน)
ผมขอ แนะนำ  ให้เลี้ยวเข้าไปจอดใน วัดช่างฆ้อง เลยครับ  จอดเสร็จ   ก็มีตู้ให้หยอดทำบุญ  หน้าวัด มีอยู่ 2 ตู้
ตู้แรกเขียนว่า    "ค่าน้ำค่าไฟของวัด"    ดูดีเชียวครับ
ส่วนอีกตู้นึง   เค้าเขียนว่า   " ไว้ชำระหนี้ของสงฆ์ "
ก็เลือกหยอดตู้   กันเองตามสบาย นะครับ   ...  แล้วแต่ใคร จะถวายปัจจัย ให้ พระสงฆ์ ไปในแนวทางไหน
จอดแล้ว ก็เดินออกจากวัด  เลี้ยวขวา    เดินไปอีกประมาณ   50 เมตร เดินไปจนถึง  ตรงที่ มี ควันปิ้งย่าง  ลอยฟุ้งอยู่ข้างทาง นั่นแหละครับ  
เหลือบดู ป้ายบนร้าน ซักนิด  ถ้ามี    " ต้อยส้มตำ "  ก็เลี้ยว ปร๊าด เข้าไปเลยครับ  ร้านไม่ใหญ่นัก แต่ก็สอาดสอ้าน ใช้ได้ทีเดียว  ...  ก่อนทาน หรือ หลังทาน ก็มี  อ่างล้างมือ  ไว้ให้เรียบร้อยครับ
















ร้านนี้ เป็นแบบ กึ่งบริการตนเองครับ
เรา  ต้องลุกไปหยิบ .. จาน , ชาม , ช้อน , ซ่อม , แก้วน้ำ  และ  ตักน้ำแข็ง เอง
และ  สามารถเลือก ผัก  ที่ล้างไว้อย่างสอาด มาเป็นเครื่องเคียงแกล้ม  กับ  อาหารรสแซ้บ ของ ป้าต้อย  ... ได้ตามสบาย  (แต่กรุณา หยิบเอามาแค่พอทาน นะครับ  หมดสามารถเติมได้อีกครับ .. ผมเห็นหลายคน เอามาเกินกว่าที่ตัวเองทานแล้วเหลือพูนจาน  ซึ่งทางร้านเค้าต้องทิ้ง  ..  น่าเสียดายครับ)
ผักแกล้ม ที่ปลูกจากยอกดอย ของเมืองเชียงใหม่ สดกรอบ น่าทานที่สุดครับ  

ทานอาหารที่นี่  ก็มีรายการอาหาร ที่ผมขอแนะนำ  และ ไม่ควรพลาดเลยก็คือ ...

ไก่ย่าง  .........   ไก่ย่าง ร้านนี้   เป็น ไก่ย่างแบบเสียบไม้  (ย่างด้วยเตาถ่าน)  มีให้เลือก  ทั้ง  ปีก , น่อง  ...  หมักเครื่องเทศมาแบบเข้าเนื้อดีครับ  ..   กลิ่นหอมฉุย  รสชาติ ดีเลยครับ
ที่สำคัญ   น้ำจิ้มแจ่ว  ที่เสิร์ฟมาพร้อมกับไก่ นี่ซิครับ (เปรี้ยวเค็มเผ็ด พอดีเป๊ะ)  ...  บอกได้คำเดียวว่า  " อร่อยเข้ากัน แบบ เว่อร์ ดี จริงๆครับ "

ส้มตำ   .........   ส้มตำ ที่ร้านนี้  เค้าใช้มะละกอสับ ครับ (เดี๋ยวนี้ หลายๆร้าน ใช้ที่ขูด  ทำให้ เส้นมะละกอช้ำ และ  ไม่กรอบ)  ...  มีให้เลือก  ครบสูตร ครับ  ไม่ว่าจะเป็น  ตำไทย  .. ตำปู  .. ตำปลาร้า  ..  ตำแตง  มีหมดทุกประเภทครับ
เลือกสั่ง  ได้ตามสบาย จะใส่   ไม่ใส่อะไร บอกเด็กได้หมดครับ  ไม่ต้องห่วงเรื่อง รสชาติ ...  อร่อยแบบ อีสานแท้ๆ  เลยครับ

ลาบ (อีสาน)   .........   ที่ต้อง วงเล็บว่า อีสาน  ก็เพราะ ลาบทางเหนือ รสชาติ แตกต่างกับ ทางอีสานโดยสิ้นเชิงครับ  .... ลาบร้านนี้  เครื่องเคราครบครัน  ข้าวคั่วหอมฉุย  ..  ใส่เครื่องในมาด้วยเล็กน้อย
อร่อยลงตัว แบบ อิสานแท้ๆ   ........    " แซ้บอีหลีตั้ว "  เลยครับ

ตับหวาน  .........  จานนี้ คนชอบกิน ตับ  พลาดไม่ได้เลยครับ
ร้านนี้ เค้าทำ  ตับ   ได้สุกกำลังดีเลยครับ  รสชาติกลมกล่อมจัดจ้าน   ...  อร่อยจน ผมเอาข้าวนึ่ง กวาดน้ำลาบ ในจานจนเกลี้ยง แบบไม่ต้องล้างจานเลยครับ

ซุปหน่อไม้   .........   หน่อไม้ดอง อย่างดี  ไม่มีกลิ่นฉุนของน้ำดอง  ... ได้อารมณ์เหมือนทาน หน่อไม้สดๆ  ซะด้วยซ้ำครับ
ปรุงรส มาแบบ สุดแซ้บ   โรยมาด้วย ข้าวคั่ว มาหอมฉุย  สัมผัสได้ถึง ความเป็น  อีสานแท้ๆ  ครับ

ต้มแซ้บเครื่องใน   ..........   จานนี้ ไม่ควรพลาดโดยเด็ดขาดครับ เครื่องใน(หมู)   ที่ ตุ๋นสมุนไพร  มาจน หอมกลิ่นสมุนไพร ทั้งตะไคร้ ข่า โหระพา  โชยมาตั้งแต่ ยกมาเสิร์ฟ เลยครับ
รสชาติ  เปรี้ยว , เค็ม , เผ็ด  กำลังดี  กลมกล่อมเลยครับ
จานนี้ อร่อย  จนผมต้องสั่ง มาทาน เป็น สมบัติส่วนตัว 1 ถ้วยพิเศษทุกครั้ง  (จะได้ไม่มีใครแย่ง ครับ)

ยังมีอีกมากมาย หลากหลายรายการครับ   แต่เท่าที่ทานมา อร่อยทุกจานครับ
หากมองหา  ร้านอาหารอีสาน  รสอีสานแท้ๆ   ในย่านกลางเมืองเชียงใหม่    แนะนำว่า  ลองแวะมาทาน ที่ร้านนี้ซิครับ    รับรองไม่ผิดหวังครับ
ขอบคุณครับ 



แผนที่ร้านอาหารทั้งหมด ที่ผมเขียนไว้ใน    " แนะนำ ร้านอาหารอร่อย โดย ป๋าปึกส์ " 





ป๋าปึกส์
11/10/2553

ขอแนะนำ ร้านโปรดของผู้เขียน
 : http://restaurantaroi.blogspot.com/2010/11/tengoku-1.html
 : http://restaurantaroi.blogspot.com/2010/11/tengoku-2.html


ติดตาม คอลัมน์ แนะนำร้านอาหารอร่อย โดย ป๋าปึกส์ ได้ทุกวันใน  Facebook
ได้ที่  : http://www.facebook.com/SuebsaengSun

1 ความคิดเห็น: