Translate

วันเสาร์ที่ 18 มิถุนายน พ.ศ. 2554

รสดีเยี่ยม โคขุน ... ก๋วยเตี๋ยวเนื้อ ... เชียงใหม่


 รสดีเยี่ยม โคขุน .. ก๋วยเตี๋ยวเนื้อ  ....   ย้ายร้าน อยู่ที่ใหม่  


จากร้านก๋วยเตี๋ยวเล็กๆ  ที่เพิ่งเปิด  เมื่อเดือน  กุมภาพันธ์ (2554)   แต่ด้วย   ความกล้าที่จะทำ .. ความพยายาม .. ความใฝ่รู้ ใฝ่เห็น ..  ความมุมานะ .. การรักษาคุณภาพ และ ความตั้งใจที่แน่วแน่    ทำให้ ร้านก๋วยเตี๋ยวเล็กๆ ร้านนึง  ที่เพิ่งเปิดได้ประมาณ 3 ปี  ..  เปิดขายอยู่ใน ตึกแถวชั้นเดียวห้องเล็กๆ   ริมถนน รัตนโกสินท์
ร้านก๋วยเตี๋ยว ที่ชูธง ขาย    " เนื้อโคขุน สามชั้น ตุ๋น "    รายการอาหารในร้านก๋วยเตี๋ยว ที่เพียงแค่ได้ยินชื่อ  ก็ แอบกลืนน้ำลาย   " เอื๊อกๆ "    กันเลย หละครับ 

จาก พนักงานธนาคาร หน้าเคาเตอร์ ฝากถอน ธรรมดาๆ  คนนึง  ...  ที่เค้าเฝ้าจับตามอง  คนที่ทำธุรกิจร้านอาหาร   แล้วนำเงินมาฝากที่ธนาคาร ทุกวัน
เลยมีความฝันว่า ...  " ซักวันนึง เค้าจะหาทางเปิดร้านอาหาร  ให้ประสพความสำเร็จให้จงได้  จะได้เดินมาฝากเงิน ที่ธนาคารทุกวัน แบบลูกค้า ที่เค้าเห็น  นำเงินมาฝาก แทบทุกวัน "
และแล้ว  เค้า ไม่ได้หยุด เพียงแค่คิด ครับ
หนุ่มน้อยคนนี้  เริ่มเสาะหา  เริ่มเรียนรู้  ด้วยการไปเรียนรู้    การต้มน้ำซุป   จน สูตร และ วิธี  มาจาก  ญาติผู้ใหญ่ ท่านนึง

ส่วน  เนื้อตุ๋น ...  ก็อาศัย ครูพักลักจำ  มาจากญาติผู้ใหญ่  อีกหลายคนที่เค้าทำกัน  
แล้ว  ก็เอาทุกอย่างมา ทดลองทำ และ ดัดแปลง เพิ่มโน่น ลดนี่  เพื่อ  ให้เป็นเอกลักษณ์ และ สไตลส์  ของเค้าเอง
จนในที่สุด  เค้ามั่นใจว่า  พอจะสู้กับ ร้านก๋วยเตี๋ยว ประเภทเดียวกันได้ แล้ว  
ก็เลยตัดสินใจ ลาออกจากการเป็นพนักงาน ธนาคาร  มาเปิด ร้านก๋วยเตี๋ยว ร้านนี้   เมื่อเดือน กุมภาพันธ์ (2554) นี้เองครับ

หลังจากการเปิดกิจการ มาตลอด 3 ปี  ได้รับการสนับสนุน จากลูกค้าที่ชอบทานเนื้อวัว เป็นอย่างดี   จนในที่สุด วันนี้  พนักงานธนาคาร ที่ฝันอยากเป็นเจ้าของร้านก๋วยเตี๋ยว  คนนี้  ....   ได้ สานฝัน ของเค้า  จนเป็นจริงแล้วครับ
และแล้ว  เค้า ก็ขยับขยายกิจการ  ด้วยการเดินกลับเข้าไปในธนาคาร เพื่อ ขอวงเงินสินเชื่อ เพื่อเดินสู่ก้าวต่อไป  ด้วยการซื้อตึกแถว 2 ห้อง เพื่อขยายกิจการให้ลองรับ ลูกค้าได้มากขึ้น  ครับ

วันนี้เค้า ย้ายร้านมาอยู่  ในตึกแถว 2 ห้อง  บนถนนรัตนโกสินท์  กลางซอย  ตรงข้าม ด้านข้างโรงเรียน ปริ๊นซ์  ครับ













มาร้านนี้  ...  แน่นอนครับ   ก็ต้องทานเมนู ดั้งเดิมที่ทำให้ ร้านนี้ขายดิบขายดี จนขยายกิจการได้

เกาเหลาเนื้อโคขุน สามชั้นตุ๋น     ..........     เนื้อโคขุน สามชั้น แผ่นใหญ่เต็มแผ่น  ตุ๋นด้วยไฟอ่อนๆ พร้อมเครื่องยาจีน และ สมุนไพร  กลิ่นหอมฟุ้ง ลอยมา ตั้งแต่เดินเข้าร้านแล้วครับ  ...  ผมสั่ง แบบ ใส่ทุกอย่าง  ...  ทั้งเนื้อเปื่อยธรรมดา  , ลูกชิ้น , ผ้าขี้ริ้ว , ตับ  , ไส้  ..  ฯลฯ  เอาเป็นว่า ใส่ทุกอย่างที่มีในร้านเลยครับ  ....  ชามใหญ่สะใจดีครับ
ตักชิมคาำแรก ก็ โดนแล้วครับ  .....   น้ำซุปกลมกล่อม ครบรส หอมกลิ่นเครื่องเทศและสมุนไพร
เนื่อยเปื่ย แบบ เปื่อยกำลังดี  ... เครื่องในสอาดไม่มีกลิ่นสาบเนื้อ
เหยาะ น้ำส้มพริกตำ  ซัก 2-3 ช้อน  พริกป่นซักช้อน  น้ำปลาซักช้อนก๋วยเตี๋ยว  ...  แกล้มกับ ข้าวสวยร้อนๆ  .....   โอววววววววววว   ...  เอาสเต็กมาแลก ยังเมิน เลยครับ

ต้องขออภัย ผู้อ่านด้วยนะครับ  ที่ไม่ได้เขียนแนะนำอย่างอื่นในร้านนี้เลยครับ  ...  ผมจบวงจรการกินมื้อกลางวัน ด้วยเกาเหลาจานนี้จานเดียว แบบ อยู่หมัดเลยหละครับ

แต่ระหว่าง ที่ผมนั่งรอ  ก็สอดส่ายสายตา ค้นหาทั่วบริเวณ   เห็นมีป้ายเขียนไว้แถวเครื่องพวง (พวงเครื่องปรุง)  ว่า    " พริกป่นคั่วเองเผ็ดมาก "     ทราบว่าเจ้าของร้าน  ตั้งใจทำ โดยการไปเลือกซื้อพริกแห้ง แบบเผ็ดจัดมาคั่วเองเลยทีเดียวครับ  ทั้งกลิ่น และ ความเผ็ด เข้ากับ เนื้อตุ๋นดีครับ
แล้ว ผมก็หยิบถ้วย   พริกน้ำส้ม    ขึ้นมาดู ... สีสวยเลยครับ เห็นพริกตำใส่น้ำส้มสายชู กลิ่นหอมฉุยเลยครับ  ....   ผมมักบอกกับ น้องๆ เพื่อนๆ พี่ๆ เสมอว่า  ...

หัวใจที่สำคัญ ลำดับ ต้นๆ แห่งความสำเร็จ  ของ กิจการ ร้านก๋วยเตี๋ยว ต้องมี 2-3  อย่าง ด้วยกันครับ   ...
อันดับแรก   ......   น้ำซุป ต้องอร่อย ... อร่อยขนาดที่  ลูกค้าเอ่ยปากว่า " แทบไม่ต้องปรุง "   ...  
อันดับสอง  ......   เครื่องปรุง ต้องพิถีพิถัน  โดยเฉพาะ   " พริกน้ำส้ม "    (ที่ต้องหอมและรสชาติ กลมกล่อม ไม่ใช่ แค่เอาพริกหั่น แล้ว น้ำส้มสายชูเทลงไป)     
และ   " พริกป่น "    (ควรเลือกที่มีคุณภาพ และ เอกลักษณ์ ของตัวเอง)  ...

ส่วนองค์ประกอบอื่นๆ   เช่น เนื้อสด เนื้อเปื่อย ลูกชิ้น เครื่องใน  ต้องคัดสรร และ ต้องมีคุณภาพ ที่ สำคัญ รสชาติ ต้องอร่อย ด้วยครับ













หลังจากผมได้ทาน ได้ชิม ลิ้มรส เนื้อตุ๋น ร้านนี้แล้ว  ...  ผมเองยังแอบบคิดไปว่า รสชาติ ของน้ำซุป และ คุณภาพของ เนื้อตุ๋นโคขุน ดีๆ ขนาดนี้  ...  ไม่ใช่แค่ สู้เค้าได้หรอกครับ ....  ผมว่าอีกไม่นาน จะหาคนอื่นสู้แกไม่ได้ นั่นซิครับ ...   ก็แกบอก จะปรับสูตรพัฒนาของแกเอง  ... อีกไม่นาน ความพยายาม  และ ความตั้งใจ ของเจ้าของร้านนี้  คงจะขึ้นไปอยู่ในระดับแนวหน้า แน่ๆเลยหละครับ  
         
ร้านนี้เปิด ตั้งแต่เช้าประมาณ  10 โมง จนถึง  4  โมงเย็นครับ  ทุกวันครับ
         
ลองแวะไปทานดูนะครับ  ร้านอร่อยๆ จะได้อยู่ กับ นักทานอย่างพวกเราไปอีกนานครับ

เพิ่มเติมซักหน่อยนะครับ  ....    เกาเหลา  ชามพิเศษ  ราคา ชามละ  100  บาท
มหึมาเลยครับ  เนื้อเป็นเนื้อ  อร่อยเหมือนเดิมครับ   




แผนที่  ร้านอาหารทั้งหมด ที่ผมเขียนแนะนำไว้ใน    " แนะนำร้านอาหารอร่อย โดย ปาปึกส์ "
https://mapsengine.google.com/map/edit?authuser=0&hl=en&mid=zi7qOsZPeff0.kmjHpvkh5cmM 



ภาพร้านเก่า
ร้านเก่า (ร้านแรก) ที่ ถนนรัตนโกสินท์
ร้านเก่า (ร้านแรก) ที่ ถนนรัตนโกสินท์
















ป๋าปึกส์
18/06/2554

ขอแนะนำ ร้านโปรดของผู้เขียน
 : http://restaurantaroi.blogspot.com/2010/11/tengoku-1.html
 : http://restaurantaroi.blogspot.com/2010/11/tengoku-2.html
 : http://restaurantaroi.blogspot.com/2011/05/tengoku-de-cuisine.html

ติดตาม คอลัมน์ แนะนำร้านอาหารอร่อย โดย ป๋าปึกส์ ได้ทุกวันใน  Facebook
ได้ที่  : http://www.facebook.com/SuebsaengSun



วันพุธที่ 15 มิถุนายน พ.ศ. 2554

ก๋วยเตี๋ยวเนื้อสามย่าน ใกล้ ส.ภ. ช้างเผือก (เชียงใหม่)

 


                      โชคดีสำหรับคนชอบทานเนื้ออย่างผม  ที่มีร้านก๋วยเตี๋ยวเนื้ออร่อยๆ มาเปิดใกล้ๆบ้าน เพิ่มขึ้นอีกร้านนึงครับ   ร้านนี้อยูใกล้ สถานีตำรวจ ช้างเผือก นี่เองครับ ถ้าขับรถมุ่งหน้าไปแม่ริม เริ่มต้นจากแยกข่วงสิงห์  พอถึงสามแยกไฟแดงอันแรกก็เลี้ยวซ้ายเลยครับ  ขับไปนิดเดียวจนถึงตึกแถวกลุ่มแรกทางด้านซ้ายมือ ก็หาที่จอดเลยครับ  ร้านนี้อยู่ตรงกันข้ามกับ สำนักงาน ทหารผ่านศึก  ครับ 
                      ร้านนี้ชื่อเต็มๆ ของร้านนี้ก็ชื่อว่า  " ก๋วยเตี๋ยวเนื้อสามย่าน (สาขาสันติธรรม) "  แต่ไม่ได้อยู่แถวสันติธรรมนะครับ  ที่นั่นเป็นอีกสาขานึงครับ  ร้านนี้ทำลูกชิ้น ขายเองครับ  นอกจากขายก๋วยเตี๋ยวแล้ว ก็ยังมีลูกชิ้นปิ้งขายด้วยครับ  ทั้งปลีกและส่ง  .. และยังรับ แฟรน์ชายน์  ด้วยนะครับ เผื่อใครอยากจะเอาไปทำทาน หรือ ไปเปิดสาขา ก็ลองติดต่อเค้าดูนะครับ


 





                    วันนี้ผมก็ตระเวณกลับไปใกล้บ้านกับ โอ๋ สถาปนิก คนเดิมอีกนั่นแหละครับ ผมขับผ่านเส้นนี้เกือบทุกวันครับ  เห็นตั้งแต่เค้า เริ่มขึ้นป้ายร้านแล้วละครับ แต่ไม่ตรงกับเวลาอาหารซักครั้งเดียว วันนี้ได้โอกาส มาถึงเกือบเที่ยงพอดีครับ  มาถึงร้านตั้งใจว่าจะทานแค่ชามเดียว ก็เลยสั่ง เส้นเล็กเนื้อสด ตับ และเครื่องใน ไม่ใส่ลูกชิ้น ส่วน คุณโอ๋ ก็ เกาเหลาทุกอย่างพิเศษ พร้อมข้าวเปล่า  ... เมื่อยกมาทั้งสองชาม  โอววว  หอมฉุย มาเลยครับ มาถึงชิมน้ำซุป ก็โดนเลยครับ หอมอร่อยเลยครับ พอหยิบพริกน้ำส้ม แค่เห็นสีพริกตำก็ทราบได้เลยครับ ว่าเค้าตั้งใจทำจริงครับ  น้ำส้มพริกตำก็หอมน่าทานเช่นกัน  ปรุงเปรี้ยวนิดเค็มหน่อย ตามที่ผมชอบ  ตอนแรกว่าจะทานชามเดียว เห็นเจ้าโอ๋ ทานเกาเหลา ก็เลยต้องสั่ง เกาเหลาตามตาโอ๋ไปอีกชามนึง  ... อืมมมม ...  ลูกชิ้น อร่อยจริงครับ เนื้อล้วนๆ ไม่มีแป้งครับ  แต่น่าเสียดายตรงที่ไม่มีพื้นที่ในกระเพราะเหลืออีกแล้ว  ไม่อย่างงั้น  ต้องกด ลูกชิ้นปิ้ง อีกซัก 5 ไม้ ...




                   ใครที่ชอบทานเนื้ออแล้วอยู่ทางไปแม่ริม  วันนี้ ท่านมีร้านก๋วยเตี๋ยวเนื้อ มาสนองความอยากของน้ำย่อย เพิ่มขึ้นอีกร้านแล้วครับ   ร้านนี้เพิ่งมาเปิด สาขานี้เมื่อไม่กี่วันก่อนนี้เองครับ  แต่ความอร่อยไม่ได้ใหม่เหมือนสาขาที่เพิ่งเปิดเลยครับ  อร่อยคงเส้นคงวาครับ  ใครผ่านมาแถว ส.ภ. ช้างเผือก ก็ลองแวะไปชิมดูนะครับ   ... อ้อ เกือบลืมไปครับ ติดๆกัน มีร้านโรตี  " อมตรส "  แสนอร่อย อยู่ติดกันเลยครับ (วันหลังจะเขียนถึงร้านโรตี ร้านโปรดร้านนี้ครับ)  ทานเสร็จก็มีของหวานกลับที่ทำงานอีกครับ   ผมไม่ได้ขอเบอร์ ร้านนี้ไว้  วันหลังจะเอามาลงให้นะครับ  ร้านนี้เปิดทุกวันครับ  ลองไปชิมนะครับ

ป๋าปึกส์
15/06/2554
ขอแนะนำ ร้านโปรดของผู้เขียน
 : http://restaurantaroi.blogspot.com/2010/11/tengoku-1.html
 : http://restaurantaroi.blogspot.com/2011/05/tengoku-de-cuisine.html


วันจันทร์ที่ 13 มิถุนายน พ.ศ. 2554

ระย้า ... อาหารปักษ์ใต้ ที่ ภูเก็ต

 " ระย้า "    ...  อาหารใต้ดีๆ   สไตลส์ ภูเก็ต



ทุกครั้งที่จะเดินทางไป ภูเก็ต ... ผมก็จะต้องย้อนมาเปิดอ่าน  รีวิวแนะนำร้านอาหาร ที่ผมเคยเขียนถึง  ร้าน    " ระย้า "   ที่กลางเมืองภูเก็ต ร้านนี้ .
เพื่อเป็นการปลุกอารมณ์ความอยาก  ของกระเพาะอาหารของตัวเองเป็นหลักครับ  
ร้านนี้เป็นร้านแรกในชีวิต ที่ผมเขียน Blog ในการแนะนำร้านอาหารของผมเอง   
สำหรับผมต้องถือว่า  ร้านนี้ เป็นแรงบันดานใจ ในการเขียนของผมเลยหละครับ   เพราะหลังจากนั้นมาจนกระทั่งทุกวันนี้  ก็เขียนแนะนำร้านอาหารต่าง  ที่ไปทานมา เกือบ  200  แห่งแล้วครับ
                         
ร้านนี้ผมไปทานเมื่อคราวที่ ไปเที่ยวกับ ครอบครัว และ น้องสาวที่น่ารักอีกสองคน  เมื่อเกือบ 3 ปีที่แล้วครับ  จากการแนะนำของ นายตำรวจใหญ่ท่านนึง ในภาคใต้  ท่านเคยพาผมไปทานร้านนี้เมื่อปี สองปีก่อนหน้านั้น   แล้วผมยังประทับใจในรสชาติอาหารร้านนี้อย่างไม่เคยลืมเลือน   รวมทั้งบรรยากาศของร้าน ซึ่งเป็นอาคารบ้านเก่าแก่ สไตลส์ โคโลเนียลแบบผสมผสาน 















                 
ร้านนี้ตั้งอยู่ใจกลางเมืองเก่าของภูเก็ต   ที่ชาวภูเก็ต หวงแหนและอนุรักษ์ บ้านเมืองไว้อย่างน่าชมเชยครับ  โดยเฉพาะ   ตึกแถวในย่านการค้าโบราณ สไตส์ ชิโนโปรตุกิส  ...
ร้านนี้ตั้งอยู่บน   ถนนดีบุกตัดใหม่  ....   เส้นกลางเมืองภูเก็ต  แถวนั้น การจราจร  เป็นการวิ่งแบบ   One Way   เกือบทุกเส้น   ผมอธิบายคงค่อนข้างลำบากครับ  ...  แต่ปัจจุบัน  ในรถเกือบทุกรุ่น หรือ แม้ในโทรศัพท์มือถือ  ก็มีระบบนำทางบรรจุอยู่   ลองเปิดดูแผนที่เอานะครับ  (ผมลง แผนที่ ร้านอาหารทั้งหมดที่ผมเขียนไว้ อยู่ด้านล่างของ หน้านี้ครับ)    หรือ  ถ้าไม่มี ก็ลองจอดรถ แวะถาม  คนพื้นที่ดูนะครับ  เ
                         
เมื่อมาถึงร้านนี้ทีไร   ผมมักจะมีความรู้สึกชื่นชม กับ   งานสถาปัตยกรรม ของคนในอดีต  ที่ผสมผสาน อย่างลงตัว   ระหว่างความสดวกสบายภายใน และ รูปทรงภายนอกอาคาร ของ   ร้าน   " ระย้า "  แห่งนี้ครับ
แต่ที่โดดเด่น และ  มีเสน่ห์ ไม่แพ้ อาคาร และ อาหาร ของร้านนี้  ก็เห็นจะเป็น  " คุณป้า กุหลาบ "   เจ้าของร้าน ขวัญใจของผมนี่เองและครับ
หากใครแวะไปทานที่  ร้าน ระย้า  แล้วเจอ คุณป้า กุหลาบ   ...  ลองให้คุณป้า แนะนำอาหาร และ ลองคุยกับคุณป้าดูซิครับ ...  ผมรับประกันว่า ท่านจะต้องกลับมาเยือน ร้านนี้ทุกครั้งที่ท่านมาเที่ยว ภูเก็ต   (เหมือนผมเลยครับ)

















                              อาหารร้านนี้ เป็นอาหารปักษ์ใต้ สไตลส์ภูเก็ต แท้ๆ  ... ขนาดผมเกิดที่ปักษ์ใต้ บางรายการของร้านนี้  เกิดมายังไม่เคยรับประทานเลยครับ  ...  ผมมาร้านนี้ไม่ต่ำกว่า 5 ครั้งเห็นจะได้ครับ  บางครั้งที่ไปภูเก็ต  ยังเคยทาน 2  มื้อติดกันเลยครับ  ....  อาหารจานโปรด ที่ไปทุกครั้งไม่เคยพลาด มากน้อยขึ้นอยู่กับสมาชิก  ว่ารวบรวมได้กี่คน  ไปกันเยอะๆจะดีกว่าครับ จะได้สั่งทานหลายๆอย่างครับ

-------------------------------

แกงปู   ..........   เมนูนี้ไปหาทาน ในจังหวัดอื่นในภาคใต้  ยังหาทานยากเลยครับ  ... ต้องมาทานที่  จังหวัดแถวๆ ชายฝั่งอันดามัน  หรือ  ภูเก็ต  เท่านั้นครับ   ถึงจะได้อรรถรสที่สมบูรณ์แบบครับ
สีสัน ของ แกงปู  เหลือง นวลสวยเลยครับ  แลดูคล้ายๆ กับ น้ำยาปักษ์ใต้ แต่ สีอ่อน และ นวลกว่า
รสชาติ  มี ความหวานของ หัวกะทิ แทรกออกมานำหน้าเล็กน้อย  เป็นเอกลักษณ์ของ  แกงปูแบบภูเก็ต  จริงๆครับ
ส่วน เครื่องแกง ก็สัมผัสได้ทั้ง รสและกลิ่น ที่ จัดจ้านด้วยสมุนไพร
" เนื้อปู "  ..   ใส่มาในแกง  แบบ เต็มๆเลยครัย   ...  กรรเชียงปู และ เนื้อปู  ล้วนๆ  ..  มาเป็น ชิ้นเบ้งๆ ลิ่มๆ  แบบไม่ต้องมานั่งแกะเปลือก ให้รำคาญใจครับ  
แกงปู  ระย้า  ...  รสชาติจัดจ้าน เข้มข้น  และ อมหวาน เล็กน้อย  จาก หัวกะทิ
จานนี้พลาดไม่ได้เลยครับ  ...  ทางร้านจะ เสิร์ฟมาพร้อมกับ เส้นหมี่ขาว  ...  เข้ากันดีจังเลยครับ

---------------------------------

แกงเหลืองปลาอินทรีย์ใส่คูน   ..........   ขึ้นชื่อว่า แกง ในอาหารปักษ์ใต้  ไม่ต้องห่วงเลยครับ  ไม่ว่าแกงอะไรก็ จัดจ้านเร้าใจ ทุกแกง ครับ
แกงเหลือง  ที่นี่ รสชาติ เข้มข้น จัดจ้าน หอมกลิ่น ขมิ้น  โชยมาเตะจมูก ตั้งแต่ ยกออกมาจากครัวเลยครับ
เนื้อปลาอินทรีย์ ชิ้นใหญ่ เนื้อเยอะ  และ สดมากๆเลย  ลอยหน้าบนแกงเหลือง แบบไม่ต้องไปควานหาเนื้อปลา แบบร้านทั่วๆไปเลยครับ  
คูน ...  ก็ สด กรุบกรอบ อร่อยดีครับ  
แกงเหลืองร้านนี้  เข้มข้นเร้าใจ มากครับ  ผมขอแนะนำว่า  ควรสั่งอะไรมาแกล้ม  แก้กัน กับ ความจัดจ้านของแกงเหลือง  เช่น ไข่เจียว  หรือ  หมูฮ้อง  ด้วยนะครับ
 
---------------------------------
น้ำพริกกุ้งเสียบ  ..........  เชียงใหม่ ทานข้าวซอย  ฉันใด  ไปภูเก็ต ก็ต้องทาน น้ำพริก กุ้งเสียบ ฉันนั้น  เลยครับ
กุ้งเสียบ ที่ทอด มาแบบ กรอบ  กำลังดี   ...  คลุกเคล้า มากับน้ำพริกกะปิ  รสกลมกล่อม เผ็ดไม่มาก  ...  เสิร์ฟมาพร้อมกับ   ถั่วงอกหัวโตดอง  ...  โอววววว   เขียนแล้ว คิดถึง ถั่วงอกหัวโตดอง ขึ้นมาทันทีครับ
จานนี้  อร่อย  จน ผม ต้องสั่ง  ถั่วงอกหัวโต  มาเบิ้ล  ทุกเที่ยวเลยครับ   ... มันช่างเข้ากันได้ดีจริงๆ  กับ น้ำพริกกุ้งเสียบ ครับ

----------------------------------

สะตอ ผัดกุ้ง ใส่กะปิ   ..........   มาปักษ์ใต้  ไม่ได้ทานสะตอ เหมือนมาไม่ถึงครับ
สะตอ สดๆ ที่เพิ่งเก็บจากสวน  สด ขนาดที่ ผัดมาแล้ว  สุกแล้ว  เวลา เคี้ยว  ยังได้อารมณ์ กรุบๆ  กรอบๆ  อยู่เลยครับ  
ผัด มากับ  กะปิอย่างดี ...  กลิ่นกะปิ หอมฉุย มาตั้งแต่ยังยกมาไม่ถึงโต๊ะเลยครับ  .
รสชาติกลมกล่อม ...  ขนาดแค่เอา น้ำผัด  ที่เสิร์ฟมาในจาน  ..  เอามาราด  บน ข้าวสวยร้อนๆ  ก็ยังอร่อยจนร้อง   " โอวววว "   เลยครับ   



















แกงไตปลา  ..........    อาหารที่มีอยู่ในร้านอาหารปักษ์ใต้  แทบทุกร้าน  ...   แต่ละจังหวัดใน ภาคใต้ ก็จะมีเอกลักษณ์ การแกง แกงไตปลาที่แตกต่างกันไป ครับ

(ไตปลา
 (ภาคกลาง) หรือ พุงปลา (ภาคใต้) เป็นการถนอมอาหารแบบหมักดองชนิดหนึ่ง โดยใช้กระเพาะของปลา เช่น ปลาทู  ,  ปลาลัง  หรือ  ปลาอื่นๆ  มาหมักกับเกลือ ... โดยนำ ขี้ และ ดี   ออกจากกระเพาะก่อน
หมักไว้ 10 -30 วันก็ใช้ได้
ไตปลาที่หมักได้ที่  จะเหลวและมีมันไหลออกมา   นำไปทำเป็นอาหารได้หลายชนิด เช่น ไตปลาที่เป็นเครื่องจิ้มคล้ายๆ น้ำพริก 
ของ ทางภาคกลาง   หรือ  แกงพุงปลา )

แกงไตปลา ที่ ระย้า  จะเป็น  แกงไตปลา แบบภูเก็ต แท้ๆ ครับ   .. ไตปลาเข้มข้น แต่ไม่เค็มมาก เหมือนในจังหวัดอื่น  เครื่องเคราก็ใกล้เคียงกันกับ  แกงไตปลาที่อื่นๆ  จะมีมากกว่าก็ ตรงมี  เม็ดมะม่วงหิมพานต์  ลอยหน้ามาด้วย  ...  และ  เนื้อปลา ที่ใส่มาในแกงไตปลา  ก็เป็น  ชิ้นเป็นอัน เลยครับ

--------------------------------

กุ้งผัดซ้อสมะขาม   ..........   กุ้งแชบ๊วย ตัวใหญ่  ...  ผัดมาสุกกำลังดี  ราดด้วยซ้อสมะขาม  รสชาติกลมกล่อม  ลงตัวดีครับ ...  อมเปรี้ยว อมหวาน มีเค็มแทรกเล็กน้อย
โรยหน้ามาด้วย หอมแดงทอด  ....   อร่อย และ เข้ากัน ดีจังเลยครับ

---------------------------------

ปลากระบอกทอดขมิ้น   ..........   ปลากระบอก ขนาดตัวกำลังดี   ยาวเกือบฟุตนึงครับ  ...  หมักขมิ้น แล้วทอดกรอบมาทั้งตัว   โรยด้านบนมาด้วย ขมิ้นซอยทอด  . ...  โอวววววว  ...  เจ้าขมิ้นซอย ที่ทอด โรยหน้า  มันช่างเข้ากันดี ซะเหลือเกิน ครับ  ... ขนาด นั่งเขียน ผมยัง นั่งกลืนน้ำลาย  เอื๊อก เอื๊อก  เลยครับ  ....  ตอนสั่ง อย่าลืมขอ ขมิ้นทอด โรยหน้าเยอะๆครับ  ...  หร๋อยจั่งหู๋ ครับ

---------------------------------

ใบเหลียงผัดไข่  ..........  ผักยอดนิยมของปักษ์ใต้ครับ   ผัดมากับไข่  แบแห้งดีครับ  ที่สำคัญ เหมาะสำหรับมาตัด  รสชาติอันร้อนแรง  ของแกงปักษ์ใต้ นานาชนิดเลยครับ

---------------------------------

หมูฮ้อง .......... หมูสามชั้น ต้มเค็ม .. รสชาติออก หวาน  นำเค็ม .. เนื้อเปื่อยทานง่าย  แก้เผ็ดดีนักแล  
จานนี้แนะนำว่า   ควรสั่งมาแกล้ม แก้เผ็ด กับ แกงไตปลา หรือ แกงเหลือง  ได้เข้ากันดีเหลือเกินครับ
ไม่ต้องไปกลัวอ้วน ครับ  ..  ทานไปก่อน แล้วค่อยไปออกกำลัง หลังทานเสร็จ แล้วกันนะครับ  ...  5555

----------------------------------

เท่าที่สั่งมา  แค่นี้  ก็ยังไม่รู้ว่า  จะทานกันยังไง ให้หมดเลยครับ
หากใครจะลองไปชิมร้านนี้ที่ ภูเก็ต  แนะนำว่า ควรมาที่ร้านนี้เร็วหน่อยครับ   จะได้มีเวลาย่อย นานๆ  เพราะไม่ว่ามากี่คน  ทั้งๆที่ตั้งใจว่าไม่ทานเยอะ  แต่ก็ไม่มีใคร สามารถห้ามใจตัวเองได้ซักคนเลยครับ

อาหารปักษ์ใต้อร่อยๆ   จัดจ้านอย่างงี้   ยิ่งทำให้เราต้องทานข้าวสวย  มากกว่าปรกติทุกทีไปเลยครับ   ...   รายการอาหาร  ยังมีให้เลือกอีกนับสิบอย่าง  แต่ผมก็ทานอยู่แค่นี้ละครับ  
ส่วน ของหวานที่ร้านนี้ ก็คงต้องสั่ง    สละลอยแก้ว   มาแก้อาการ เผ็ด ซะหน่อยครับ














 อย่าลืมนะครับ  การเดินทางไปเที่ยวภูเก็ต ของ ทุกท่านจะ สมบูรณ์แบบมากขึ้น  ถ้าท่านแวะไปลิ้มรส  อาหารปักษ์ใต้ สไตลส์ภูเก็ต แท้ๆ ที่ร้าน    " ระย้า " 

หรือจะโทรไปสั่งอาหารเพื่อ pack  ขึ้นเครื่องกลับบ้าน  ทางร้านเค้าก็ ชำนิชำนาญ ครับ .... ใครแวะไปก็ฝากความระลึกถึง ถึง  คุณป้ากุหลาบ    เจ้าของร้าน ด้วยนะครับ
                             
ร้าน  " ระย้า "   เปิดทุกวัน ครับ ตั้งแต่  11.00 น.  ถึง  23.00 น. 
แนะนำว่าควรจองที่นั่ง ไม่ว่าจะเป็น กลางวัน หรือ เย็น  ที่    076-218-155    ...
 


แผนที่ ร้านอาหารทั้งหมดที่เขียนแนะนำไว้ใน   " แนะนำร้านอาหารอร่อยโดย ป๋าปึกส์ "
https://mapsengine.google.com/map/edit?authuser=0&hl=en&mid=zi7qOsZPeff0.kmjHpvkh5cmM 





ป๋าปึกส์
13/06/2554 
(เขียนครั้งแรก กันยายน 2553)

ขอแนะนำ ร้านโปรดของผู้เขียน
 : http://restaurantaroi.blogspot.com/2010/11/tengoku-1.html
 : http://restaurantaroi.blogspot.com/2010/11/tengoku-2.html
 : http://restaurantaroi.blogspot.com/2011/05/tengoku-de-cuisine.html

ติดตาม คอลัมน์ แนะนำร้านอาหารอร่อย โดย ป๋าปึกส์ ได้ทุกวันใน  Facebook
ได้ที่  : http://www.facebook.com/SuebsaengSun
                 




วันศุกร์ที่ 10 มิถุนายน พ.ศ. 2554

O' Malley's Irish Pub ... เชียงใหม่


O' Malley's  Irish Pub  ...  ที่ กาดอนุสาร (แถว ไนท์บาร์ซ่า) ...  เชียงใหม่

  




                         วันนี้ไม่ได้ตั้งใจจะชวนใครไปทานเบียร์ทานเหล้านะครับ  ...  แต่เมื่อสองสามวันที่ผ่านมา ผมมีเพื่อนฝรั่ง พร้อมภรรยา ชวนผมและครอบครัวไปทานอาหารเย็น  ที่ร้าน Cote' Jarden (อาหารฝรั่งเศส อร่อยแบบใน ฝรั่งเศสชนบทเลยครับ ลองหาอ่านใน Blog นี้ดูครับ)   ...  เพื่อนฝรั่งท่านนี้เคยตั้งรกราก อยู่ที่ประเทศอังกฤษ  แล้วหลังจากที่มาอยู่เชียงใหม่  แกก็มาหลงรักเมืองเชียงใหม่ จนไม่ยอมกลับไปอังกฤษอีกเลย  แต่แกคงหลงรักเชียงใหม่มากกว่าผมนะครับ เพราะแกอยู่มา 20 ปีได้แล้วครับ
                         ระหว่าง ที่เรานั่งทานอาหารกัน ผมก็เล่าให้แกฟัง ว่า  ...  สมัยที่ผมไปเรียนหนังสือเมื่อเกือบ 30 ปีที่แล้ว   อาหารที่เป็นจานโปรดที่สุดของผม  บนเกาะอังกฤษ   ก็ต้องเป็น    
" Fish and Chips "    ที่ต้องเหยาะ    Malt Vinegar    เยอะๆ จนชุ่มมันฝรั่ง  แล้วโรยเกลือ
ที่สำคัญ ต้องซื้อแบบ   Take away   ....  เพื่อที่จะได้ให้ ทางร้านห่อหนังสือพิมพ์ให้    (ถ้าเป็นหนังสือพิมพ์ Daily Telegraph  จะยิ่งทำให้ อร่อยขึ้นไปอีก  .. สันนิฐานว่า หมึกพิมพ์ คงจะช่วยเพิ่มความอร่อยครับ  5555)





 




                          พอเล่าให้เพื่อนผม  คุณ David  กับ พี่ Wanna  ฟังจนจบ ...... คุณ David  รีบบอกผมเลยว่า  แกไปเจอร้าน  Fish and Chips   ที่อร่อยแบบในอังกฤษ ใน เชียงใหม่ มาร้านนึงแล้ว  อร่อยจนแกเป็นลูกค้าประจำร้านนี้มานานแล้ว  แกไม่รู้ว่าผมก็ชอบเหมือนแก  ว่าแล้วแกก็แนะนำร้านนี้ให้ผมทันที ครับ 
                          " O' Malley "  Irish Pub   อยู่ใจกลางเมืองเชียงใหม่เลยครับ  เลยตลาด   Night Bazarr   มานิดเดียวก่อนถึงสี่แยกแสงตะวัน  ก็จะเป็น ซอยเข้าไปซ้ายมือ มีร้านขายของ ร้านอาหารมากมาย  ในเวิ้งใหญ่ นี้เลยครับ ... ตรงนี้เค้าเรียกกันว่า   " ตลาดอนุสาร "   ครับ  เลยเข้าไปด้านในมีที่จอดรถครับ ... ส่วนร้านนี้ พอเข้ามาในซอย มองไปทางขวามือก็เห็นเลยครับ  ด้านนอกก็ดูเหมือนตึกแถว ธรรมดาๆ  ...   แต่เมื่อ ย่างเท้าเข้าไป คุณจะได้สัมผัส กลิ่นไอของบรรยกาศ    Pub   แบบ ไอริช แท้ๆเลยครับ   ....   มีเค้าน์เตอร์ยาว  มีเบียร์สด  Guiness   และ   อีกหลายยี่ห้อให้เลือกครับ  ลึกเข้าไปมี  โต๊ะพูล  ,  โต๊ะอาหารแบบโซฟา  ...  โอ่โถง จุได้เกือบ ร้อยคนเลยทีเดียวเลยละครับ  ...  มี TV จอใหญ่  ไว้ดูถ่ายทอดฟุตบอล หรือ  รักบี้  กีฬาโปรดของชาวเกาะอังกฤษ   แอร์เย็นฉ่ำ  ....   เปิดบริการตั้งแต่  09.00 น.  จนถึง   02.00 น. (ตี 2)  เลยครับ  ขายกันตั้งแต่อาหารเช้าไปจนดึกดื่นเลยครับ





 











                        กลางวัน วันนี้ผมก็เลยตลุยเดี่ยวเลยครับ  ...  กลางวันจอดรถง่ายกว่าเย็นครับ เพราะว่าเหล่าแผงลอยยังไม่ตั้งขบวนครับ เลือกจอดตรงลานหน้าร้านได้เลยครับ  ...  มาถึงก็ตรงเข้าไปนั่ง ดูเมนูทันทีครับ  และ ก็สอบถามพนักงานที่คล่องแคล่วทีเดียวครับ ว่า มีอะไรอร่อย ที่ใครๆมาต้องสั่งทานมั่ง  ...   เค้าตอบมาทันทีว่า     " Fish and Chips "   นี่แหละครับอร่อยที่สุด   เพราะที่นี่เค้าทำ  Chips  เอง สไตลส์อังกฤษ  ชิ้นใหญ่หน่อยแต่ไม่ปลอกเปลือก  ...  ส่วนรายการอาหารอื่นที่ ลูกค้านิยมสั่งก็มี   Pork Chop   ,   Steak    ,   Burger    ,   สตูว์ หลายชนิด   และ  อาหารอีกหลายๆอย่าง


Fish and Chips   ..........   ผมสั่งจานที่อยากทานมานานในทันทีครับ  .. ระหว่างรออาหาร ก็เดินถ่ายรูปไปจนทั่วร้าน  เสียดายไม่มีใครเล่นพูลด้วย   ...  ถ่ายเสร็จก็กลับมานั่งโต๊ะ เหลือบเห็นเครื่องปรุง ของโปรด   Malt Vinegar   วางอยู่ครบทุกโต๊ะ   ระหว่างรอก็นึกในใจ ...  เอ๊  ถ้าเรามาร้าน  Irish  แล้วไม่ดื่มเบียร์   Guiness   ซักแก้ว รูสึกเหมือนว่า มันจะไม่ถึง Pub  สไตลส์  Irish   แน่ๆ เลย ...  ว่าแล้วก็ สั่งมาซัก ไพนท์ นึง  ....  เล่นซะแต่หัววันเลยครับ
พอเค้ายก Fish and Chips  มา ...  แทบเกือบลืมถ่ายรูปเลยหละครับ   ... ปลาค๊อด ที่ชุบแป้งทอดมา สีเหลืองทอง สวยน่าทานนัก  ...  Chip  ชิ้นใหญ่กำลังดีแบบมีเปลือก  กลิ่นหอม ลอยนำหน้ามาเลยครับ  ....   ผมเหยาะ   Malt Vinegar   ลงบน   Chips   จนชุ่มฉ่ำ ไปทั้งจาน .. โรยเกลือซะหน่อย
พอตักเข้าปาก คำแรก เท่านั้น ...   เสียงครางเบาๆ ก็ออกมาโดยอัตโนมัติครับ  ...." โอวววววว  สวรรรรรรรค์ " ......   มันช่างได้อารมณ์ซะจริงๆครับ  


ส่วนจานอื่นๆ  วันนี้ผมไม่ชิมอะไรอีกเลยครับ เพราะพอผมทาน  Fish and Chip  ไปครึ่งจาน ก็หันไปบอกน้องๆในร้านว่า     " เอาเหมือนเดิม มาอีก 1 ที่ "   ..  55555  ....  อร่อยจนต้ง เบิ้ล ครับ  
เท่าที่ได้ชิมจานนี้แล้ว   พอจะ สันนิฐานได้ว่า  อาหารอีกหลายอย่าง  ก็น่าจะอร่อย  ด้วยครับ  ...... คราวหน้าจะมาลองอย่างอื่นบ้างนะครับ  .
ใครมาเชียงใหม่  หรือ เพื่อนๆที่เชียงใหม่อยากได้  อารมณ์  Pub  แบบไอริช ในเกาะ อังกฤษ    ก็ลองแวะไปดูนะครับ  ...  โดยเฉพาะ วันที่มีถ่ายทอดฟุตบอล หรือ รักบี้    ท่าทางจะมันส์ได้อารมณ์  จริงๆครับ    ถ้าให้แน่ใจก็ จองที่นั่งซะหน่อยครับ  ที่ โทร  053 - 271 - 921






ป๋าปึกส์
10/06/2554

ขอแนะนำ ร้านโปรดของผู้เขียน
 : http://restaurantaroi.blogspot.com/2010/11/tengoku-1.html
 : http://restaurantaroi.blogspot.com/2010/11/tengoku-2.html
 : http://restaurantaroi.blogspot.com/2011/05/tengoku-de-cuisine.html

ติดตาม คอลัมน์ แนะนำร้านอาหารอร่อย โดย ป๋าปึกส์ ได้ทุกวันใน  Facebook
ได้ที่  : http://www.facebook.com/SuebsaengSun