Translate

วันพุธที่ 30 พฤศจิกายน พ.ศ. 2554

เฮือนใจ๋ยอง อาหารเมือง(ยอง) ... เชียงใหม่


 " เฮือนใจ๋ยอง "  ... อาหาร  เมืองแบบชาวยอง  ... บนถนนสันกำแพงตัดใหม่  ... เชียงใหม่
















                               เมื่อประมาณ 200 ปีที่แล้ว    " คนยอง "   (คนไทยทางภาคเหนือ ที่มีเชื้อสายมาจาก ชาวไทลื้อ)  ที่อาศัยอยู่ใน รัฐฉาน ของประเทศพม่า ได้อพยพ โยกย้ายถิ่นฐานครั้งใหญ่  ... ลงมาอยู่ทางตอนเหนือของประเทศไทย   แถวๆ เมืองลำพูน นี่เองครับ
" ชาวยอง "    เป็นชนเผ่า  ที่มี  ศิลปะ และ วัฒนธรรม อันสวยงาม  และ ยังคงสืบทอดวัฒนธรรม  ศิลปะ  รวมไปถึง การดำรงชีวิต แบบดั้งเดิมไว้อย่างดี  ...  และ โชคดีที่ยังมีลูกหลานสืบทอด  สิ่งเหล่านี้  ต่อกันมาหลายชั่วอายุคน
คนท้องถิ่นที่อาศัยอยู่ทางเหนือในอดีต  จะเรียก คนกลุ่มนี้ว่า
" ชาวไทยอง "  หรือ  " คนยอง "
คนยอง มีการถ่ายทอดประเพณี และ วัฒนธรรม สืบต่อมาอย่างดี  จาก รุ่นสู่รุ่น  .... ไม่ว่าจะเป็น งานประเพณี และ การใช้ชีวิตประจำวัน  รวมไปถึง  การรับประทานอาหารของชาวยอง  ที่มี รสชาติ และ การทำอาหาร ใกล้เคียงกับ อาหารเมืองของชาวเหนือ   ....   แต่รสชาติ ออกจะจัดจ้าน และเข้มข้นกว่าเล็กน้อย ครับ















                           วันนี้ ผมขอแนะนำ  ร้านอาหารเมือง ในแบบฉบับ ของ ชาวยอง  ...  ร้านโปรดของผมครับ  ....  " เฮือนใจ๋ยอง "  ....    ที่  ถนนสันกำแพงตัดใหม่  ครับ ....
การเดินทางมาร้านนี้ไม่ยากครับ ... ถ้ามาจากสนามบิน ก็ขับรถตรงมาตลอดครับ  จนข้ามสพานลอย ถนนซุปเปอร์ (แยก ดอนจั่น)  .. มุ่งหน้า อำเภอ สันกำแพง ..  ขับตรงมาตามถนน เรื่อยๆ  พอเลย แยก ดอนจั่น มาแล้วเค้าเรียกว่า  " สันกำแพงตัดใหม่ "  (ขับรถระวังหน่อยนะครับ .. ถนนกำลังขยายอยู่ครับ  ครับ)   ... จากสนามบิน  วิ่งไป  ร้านเฮือนใจ๋ยอง  ระยะทางประมาณ  14 ก.ม.     ก็จะถึงทางแยกทางเข้าอำเภอ สันกำแพง อยู่ซ้ายมือ ... อย่าเลี้ยวนะครับ  ...  ชิดขวา กลับรถมาเลยครับ ..  กลับรถมาซัก  100 กว่าเมตร  ที่หลัก ก.ม.ที่ 14   ก็จะเห็นป้ายชื่อร้าน  เฮือนใจ๋ยอง  สังเกตุง่ายๆ จะมี ต้นก้ามปูใหญ่ อยู่ปากซอย
เลี้ยวเข้าไปเลยครับ ก็จะเห็น ร้านอยู่ขวามือ รูปทรงเป็นบ้านแบบพื้นเมือง  แบบชาวยองดั้งเดิม เป็นบ้านไม้สองชั้น  ... ปรกติถ้าคนไม่เยอะ เค้าก็จะทานกันที่ใต้ถุนบ้าน(ชั้นล่าง) แบบชาวบ้านยอง แท้ๆ ... โต๊ะเก้าอี้ ง่ายๆ แบบมีสไตลส์  จานชามก็ง่ายๆ แต่สอาดสอ้าน  ห้องน้ำก็ทำไว้ดีทีเดียว แยกหญิงชาย ... มีที่ล้างมือ (เวลาทานข้าวนึ่งให้อร่อย ควรเปิปด้วยมือครับ)  ... ที่อ่างล้างมือ เค้าก็เตรียม ผ้าลูกไม้   สำหรับเช็ดมือไว้ให้ครับ (น่ารักมาก) ... พนักงานเสิร์ฟ ก็เป็นลูกๆ หลานๆ ของเจ้าของร้าน ...  มี  " คุณนก "  เจ้าของร้าน คอยยิ้มแย้มต้อนรับเป็นกันเองทุกวันเลยครับ   (ถ้าไม่ยุ่ง)


















                          อาหาร ที่นี่ มีมากมายหลายชนิด ไม่ว่าจะเป็น  ลาบคั่ว  .. ไส้อั่ว  .. หมูทอด .. แกงฮังเล .. แกงโฮ๊ะ  ..  น้ำพริกหนุ่ม  ..  น้ำพริกอ่อง .. น้ำพริกปลา  ..  แกงผักกาดจอ  ... ฯลฯ
อาหารทุกชนิด  เสิร์ฟในจานไม่ใหญ่มากนัก  ทานกับแบบที่ชาวยองทานในชีวิตประจำวัน   ที่สำคัญ  เมื่อเรา  เทียบ  ราคา  กับ  คุณภาพ และ รสชาติ ของอาหารแล้ว แล้ว ต้องบอกว่า  สุดคุ้มครับ
อาหารจานโปรด  ที่ผมสั่งทานเป็นประจำ  (อาจจะชอบไม่เหมือนคนอื่นนะครับ)   ก็จะมี

ส้าผักกาดน้อย    ........    แปลเป็นไทยว่า   "ยำผักกาดน้อย"  (ผักกาดต้นเล็ก)
จานนี้หาทานยากครับ  ไม่ค่อยมี  ร้านอาหารเมืองทั่วๆไปเค้า ทำขายกันครับ
ที่นี่ เค้าใช้  .. ผักกาด ต้นน้อยๆ  ..  ยอดมะม่วง  .. ยอดมะกอก .. ผักจ้ำ .. ผักปู่ย่า  .. ฯลฯ
ปรุงเครื่อง ด้วย  พริกชี้ฟ้าย่าง , หอมแดง , กระเทียม , ต้นหอม , กะปิ , ปลาร้าต้ม หรือ ถั่วเน่า  ...   แล้ว  โรยหน้า  ด้วย  หอมแดงทอด และ แค๊บหมูชิ้นเล็กๆ
รสชาติสุดยอดเลยครับ   ทานแล้วทำให้รู้สึกว่า  นี่แหละคือสิ่งที่ ร่างกายผมต้องการ เลยครับ   ...   มาร้านนี้ทีไร ก็ต้องสั่ง ส้าผักกาดน้อย จานนี้  2 จาน เป็นอย่างน้อย  ทุกเที่ยวเลยครับ

ไก่เมืองนึ่ง   ..........   ไก่เมือง (ไก่บ้าน)   ตัวน้อยๆ  นึ่งด้วยสมุนไพร  หอมกลิ่นขมิ้นโชยมาแต่ไกล  ... หอมอร่อย  ...  ไก่นุ่มเหนียวกำลังดี  เครื่องเทศเข้าเนื้อ ...  แค่ซดน้ำไก่นึ่ง  ที่ออกมาจากไก่ ก็ ต้องร้อง .. โอววววว เลยทีเดียวเชียว ครับ ...  จานนี้แนะนำว่า  ถ้าไปทานในวันหยุด ควรจะโทรไปจองก่อนไป  นะครับ   เพราะ เปิดร้านขายแป๊ปเดียว  ก็มักจะหมดเป็นอย่างแรก  อยู่เรื่อยเลยครับ

แกงผักหวาน  (ใส่ไข่มดแดง)  ..........    " ไข่มดแดง "   จะมีตามฤดูกาลเท่านั้นนะครับ  ประมาณช่วงต้นปีของทุกปี  หรือ ช่วงปลายหน้าหนาวนั่นเองครับ  ...  สำหรับท่านที่ไม่เคยลองทาน ไข่มดแดง  ก็ต้องแนะนำให้มาลองที่ร้านนี้ นี่เลยครับ  ...  ต้องขอบอกว่า   " อร่อยๆๆ  อร่อยๆๆ  มาก มาก มากๆๆๆๆ ครับ "   ...   ช่วงที่ไม่มีไข่หมดแดง ก็มีแกงผักหวานใส่ปลาแห้ง  ก็อร่อยไม่แพ้กันครัย

แกงหน่อ    ..........    จานนี้ เป็นอีกจานที่อร่อย แบบพลาดไม่ได้เช่นกันครับ  ...   แกงหน่อแบบเมืองๆ  ต้องใส่ปลาแห้ง กับ น้ำปู๋ (น้ำที่ตำมาจาก ปูนา)  แบบที่ร้านนี้  รสชาติกลมกล่อมดีครับ
แต่ถ้าอยากทาน  หน่อไม้สดๆ อ่อนๆ อร่อยๆ  ที่หวานอร่อยในตัว  ก็ต้องรอ ตอนช่วงเริ่มมีฝนตกใหม่ๆ หน่อยนะครับ

แกงโฮ๊ะ   ..........    " แกงโฮ๊ะ "    มีต้นตอมาจาก การนำเอา อาหารที่ใช้จัดเลี้ยงตามงานมงคลต่างๆ ของชาวเหนือ ...  เมื่อกับข้าวที่ทำเลี้ยงกัน แล้วเหลือ จะนิยม เอามาคลุกเคล้ารวมกัน  ... โดยจะต้องมี  แกงฮังเล  และ วุ้นเส้น เป็นหลัก ...
แต่ที่ร้านนี้  เค้าทำใหม่หมดนะครับ ....   ไม่ได้ไปเอาของเหลือที่ไหนครับ  ....  รสชาติครบรส  กลมกล่อม  ...  ที่สำคัญไม่หวานมาก  เหมือน แกงโฮ๊ะ ทั่วๆไปด้วยครับ

จิ้นส้มนึ่ง  ...........    จิ้นส้ม  แปลว่า  แหนม  ครับ ...  จานนี้คือ  แหนมนึ่ง  (ที่ทั้งใส่ และ ไม่ใส่ไข่)  เมื่อเอาแหนมไปนึ่ง ก็ยิ่งเพิ่มความอร่อยครับ   รสชาติจัดจานขึ้นมาทันทีครับ  ....   เสิร์ฟมาพร้อม ถั่วลิสง และ พรกขี้หนู กระเทียม ครับ   .

















                               นอกจากนั้น  ยังมีอาหารจานเด็ด  อีกมากมายครับ  เช่น   น้ำพริกปลาจี่  ...  หมูทอด  ... ไส้อั่ว  ...   ลาบปลา  ...   ลาบคั่ว     และ อื่นๆอีกมากมาย  ที่เหมือนตามเมนู ร้านอาหารเมืองทั่วๆไปครับ  ....  ต้องบอกว่า  อาหารทุกจาน ที่ผมเคยทาน ที่ร้านนี้   อร่อยทุกจานครับ
ที่สำคัญ  ...  มี ผักสด ที่เค้าปลูกเอง ในแปลงหลังร้าน แบบปลอดสารพิษ  ให้เราทาน แกล้มกับอาหารยอง   อย่างอิ่มหนำสำราญ แบบไม่อั้น  .....   ส่วนเครื่องดื่ม มีให้เลือกมากมาย    แต่ที่ผมชอบที่สุด คือ น้ำแครอทมะนาว   มันช่างตัดกันกับรสชาดิอาหารยอง   ดีซะเหลือเกิน ครับ
                              ขนมหวานก็มีทั้งเฉาก๊วย และ ลอดช่อง และยังมี ขนมไทยๆ ขายหน้าร้าน  ...   สำหรับใครที่  ต้องเดินทาง และ นั่งรถเที่ยวต่อ   มีของดี  ที่หน้าร้านนี้  ที่ต้องแนะนำอีกอย่างนึงครับ  ....   ที่ร้่านนี้มีขาย   " ยาดม อารมณ์ดี "   ...  ยาดม  ที่ใคร ดมแล้ว น่าจะสบายใจ  และ อารมณ์ดี ขึ้นมาทันทีนะครับ   ... ผมดมทีไร  ก็ อารมณ์ดีทุกทีเหมือนกันครับ


                                        














                   มา เชียงใหม่เมื่อไหร่.....อยากทานอาหารพื้นเมืองแบบยอง แล้วละก็  ลองไปชิมที่ร้านนี้ดูนะครับ รับรองว่า คุณมาถึงเมืองเชียงใหม่ จริงๆ  ครับ
สอบถามเส้นทาง , สั่งอาหาร , จองโต๊ะ   .....    โทร  086-671-8710  




แผนที่ร้านอาหารทั้งหมด ที่ผมเขียนแนะนำไว้ใน   " แนะนำ ร้านอาหารอร่อย โดย ป๋าปึกส์ "
https://mapsengine.google.com/map/edit?authuser=0&hl=en&mid=zi7qOsZPeff0.kmjHpvkh5cmM   





ป๋าปึกส์
24/09/2553
ขอแนะนำ ร้านโปรดของผู้เขียน
 : http://restaurantaroi.blogspot.com/2010/11/tengoku-1.html
 : http://restaurantaroi.blogspot.com/2010/11/tengoku-2.html
 : http://restaurantaroi.blogspot.com/2011/05/tengoku-de-cuisine.html

ติดตาม คอลัมน์ แนะนำร้านอาหารอร่อย โดย ป๋าปึกส์ ได้ทุกวันใน  Facebook
ได้ที่  : http://www.facebook.com/SuebsaengSun


วันอังคารที่ 29 พฤศจิกายน พ.ศ. 2554

ข้าวซอยเกาะคา ... ลำปาง


ข้าวซอยเกาะคา  ...  ที่ อำเภอเกาะคา ย่าน เซรามิค  ... ลำปาง


                เมื่อวาน ผมไปลำปาง เพื่อหาซื้อ ถ้วยชามสวยๆ เพื่อมาใช้ในร้านอาหาร ของผมเอง .... ซึ่งผมก็ไปโรงงานเดิมๆ ที่ซื้อกันมาเป็นประจำอยู่แล้วครับ  ไม่ใช่ที่ไหนอื่น ก็  Eatrh and Fire  โรงงานที่ทำ เซรามิค ส่งออกไปประเทศญี่ปุ่น มากที่สุดแห่งของของเมืองไทยเลยละครับ  อยู่แถว อำเภอเกาะคา จังหวัดลำปาง นี่เองครับ ... วันนี้ก็เลย พาภรรยามาด้วย ถือโอกาสพาชิมอาหารอร่อยๆ ด้วยกันซะเลยครับ
                ร้านที่จะแนะนำวันนี้ เป็นร้าน ข้าวซอย อันลือชื่อของอำเภอเกาะคา ครับ  ชื่อเสียงเรียงนามก็บอกยี่ห้อและตำแหน่งชัดเจนเลยครับ   " ข้าวซอยเกาะคา "  อยู่ตรงกลางย่านชุมชน ริมน้ำวังที่อำเภอเกาะคาเลยครับ  ถ้าขับรถมาจากเชียงใหม่ก็ เลี้ยวเข้ามาทางอำเภอเกาะคา ซึ่งเป็นทางที่ไปทะลุ โดยไม่ต้องผ่านตัวเมืองลำปาง เวลาเดินทางกลับเข้ากรุงเทพฯ  ร้านนี้อยู่เลยทางเข้าวัดเจดีย์หลวงมาอีกครับ พอเริ่มเข้าเขตุชุมชนของอำเภอ ก็ใกล้ถึงเลยละครับ















                  ร้านนี้ด้านหน้าก็เป็นบ้านติดถนนแบบตึกแถวชั้นเดียวทั่วไปครับ พอเดินเข้าไปด้านใน ก็จะเป็นระเบียงยื่นเข้าไปอยู่ริมน้ำวัง ร่มเย็นเห็นทิวทัศน์ สบายตาดีครับ มีโต๊ะวางอยู่บนระเบียงที่มีหลังคาปกคลุม  อยู่ซัก 6 โต๊ะ  บรรยากาศริมน้ำ สวยเชียวครับ  ร้านนี้ทำกันแบบครอบครัว  คุณป้าเป็นคนลวกเส้น ตักแกง คุณลุงก็ คอยบริการ เทคออร์เดอร์ และ เสริฟอาหาร  น่ารักดีครับ
                 แน่นอนครับ  ร้านนี้ ชื่อร้านบอกชัดเจนอยู่แล้ว ว่า ขายข้าวซอย  ....  จานเด็ดของที่นี่ก็ต้องเป็นข้าวซอยแน่ๆ ครับ แต่ข้าวซอยเองก็ทำกันในหลายจังหวัดใน ภาคเหนือครับ แต่ละอำเภอ แต่ละจังหวัดก็แตกต่างกันไปด้วย รสชาต  ... ร้านนี้ที่ผมติดใจก็คือ ความกลมกล่อมของน้ำแกง ที่แทบไม่ต้องปรุงรสเลยครับ(อาหารอะไร ที่ไหนก็ตาม ถ้าลูกค้า บอกว่า แทบไม่ต้องปรุง .. รับรองว่า ขายดีแน่นอนครับ) ... มาทีไรก็ ต้องข้าวซอยเนื้อ ทุกทีไปครับ เค้าทำได้เปื่อยดีครับ  แค่เติมผักกาดดอง กับ หอมแดง บีบมะนาวซักนิดนึง  ก็อร่อยโฮก โฮก แล้วครับ








               ที่ร้านนี้นอกจากข้าวซอย แล้ว ยังมีรายการอาหารอีกมากมายหลายชนิด เขียนติดบอร์ดอยู่ที่ผนัง แต่ผมเองชิมไปไม่กี่อย่างครับ  ที่ติดใจเป็นอันดับสองเห็นจะเป็น ก๋วยเตี๋ยวเส้นเล็กแห้งเนื้อตุ๋น ใส่เอ็นเยอะๆ แล้วขอน้ำซุปมาชุ่มคอซักถ้วยครับ ... อีกจานนึงที่ทานประจำทุกเที่ยวก็ เกาเหลาน้ำเงี้ยวครับ (ที่สั่งเกาเหลาก็เพราะ ทานเข้าไปหลายอย่างไม่มีพื้นที่สำหรับ เส้นหนมจีนอีกแล้วครับ) เท่าที่ทานมาทั้งหมด ต้องถือว่า รสมือ ของร้านนี้ น่าจะอยู่ในระดับแนวหน้า ของอำเภอเลยครับ
              มาจากกรุงเทพ หรือ จะเดินทางกลับกรุงเทพ  ผ่านเส้นทางนี้ก็ไม่ต้องไป รถติดในตัวเมืองได้ครับ  ถนนอาจจะเล็กกว่าหน่อย แต่ท่านจะผ่านชุมชน โบราณสถานอีกหลายแห่ง ไม่ว่าจะเป็น วัลำปางหลวง , วัดไหล่หิน , วัดปงยางคก และ ยังเรียงรายไปด้วย โรงงานเซรามิค ที่สามารถหาซื้อเป็นของฝากได้ครับ













                ผมเคยเขียนแนะนำร้านนี้มาแล้วครั้งนึงเมื่อปีที่แล้วครับ แต่ปรากฏว่า หาไม่เจอว่าอยู่ที่ไหน เลยต้องมาเขียนใหม่ครับ  แต่ก็ขาดเบอร์โทรศัพท์ และ วันเปิดปิด ของร้านนี้ไปครับ  จะพยายามหามาเติมให้ครับ  หรือ ใครผ่านไปทาน ก็ ฝากถามเจ้าของ แล้วมาบอกกันหน่อยนะครับ  จะได้เอามาลงให้เพื่อนๆ ได้รายละเอียดเพิ่มเติมครับ
                ผ่านไป เกาะคา ก็ลองไปชิมดูนะครับ



ป๋าปึกส์

ขอแนะนำ ร้านโปรดของผู้เขียน
 : http://restaurantaroi.blogspot.com/2010/11/tengoku-1.html
 : http://restaurantaroi.blogspot.com/2010/11/tengoku-2.html
 : http://restaurantaroi.blogspot.com/2011/05/tengoku-de-cuisine.html


ติดตาม คอลัมน์ แนะนำร้านอาหารอร่อย โดย ป๋าปึกส์ ได้ทุกวันใน  Facebook
ได้ที่  : http://www.facebook.com/SuebsaengSun

วันศุกร์ที่ 11 พฤศจิกายน พ.ศ. 2554

Hinlay Curry House ย่านวัดเกตุ ... เชียงใหม่

Hinlay  Curry  House  ... อาหารอินเดีย  ย่านวัดเกตุ ... เชียงใหม่














มีน้องๆ  โทรมาชวนผม  ไปชิมอาหารร้านใหม่ (ที่ผมยังไม่เคยไปทาน)
ผมก็ถามกลับไปว่า   " ร้านอะไรครับ "  
ก็ได้คำตอบว่า   " พี่คงยังไม่เคยมาร้านนี้แน่ๆ เลยอยากชวนมาชิมด้วยกัน  ชื่อร้าน  Hinlay  Curry House  "  
พอได้ยินชื่อ ก็จินตนาการ ไปว่า  คงต้องเป็น  ร้านอาหารแบบอินเดีย  หรือ   ไม่ก็ออกไปทาง พม่า แน่นอน  (อาหารอินเดีย ของโปรดผมเลยครับ)    
พอได้ยินเท่านั้น  ไม่รอช้า  รีบสอบถามเส้นทาง แล้วตามไปเจอ  ในทันใดเลยครับ














                                 
ร้านนี้อยู่ในย่านวัดเกตุ  ย่านชุมชนเก่าแก่ ริมฝั่งแม่น้ำปิง
ขับรถ เข้ามาใน  ถนนเส้นหลังวัดเกตุ   ชื่อซอยว่า    " ซอยหน้าวัดเกตุ "  ครับ
เอาง่ายๆครับ  ถ้าคุณมาแถวๆนี้ มองหา คอนโดที่มีความสูงที่สุด  ของเมืองเชียงใหม่  ...  ร้านนี้อยู่ติดกันเลยครับ  จะเข้ามาทาง ถนนแก้วเนาวรัตน์   ก็ได้ครับ
                                   
มองหน้าร้าน ดูเป็นบ้านโบราณ ธรรมดาธรรมดา
แต่  ถ้ามีโอกาส เดินมาตรงกลางสนาม  ข้างร้านนี้   ก็จะ ตะลึง กับความงาม ที่แสนจะงดงาม จนสะกด ให้ผมต้องยืนดูนิ่งๆ อยู่นาน ทีเดียวครับ
ผมยืนกลางสนาม  หันหน้าเข้าตัวบ้าน
ด้านหน้าของผม เป็นบ้าน 2 ชั้น ทรงโคโลเนียล อายุกว่า 165 ปี ครับ
สง่า  งดงาม   จนผมแทบไม่เชื่่อสายตาตัวเองครับ   ...  ผมยืนดูอย่าง  เพลิดเพลิน  ไปกับ เสน่ห์ และ มนต์ขลัง ของบ้านนี้  อยู่นานเลยครับ
ขอบคุณ ท่านเจ้าของ  ที่ได้รักษาบ้าน และ ทนุบำรุงบ้านหลังนี้ไว้อย่างดี  ให้ได้เห็น ศิลป วัฒนธรรม ของคนเมือง ในอดีต ที่สวยงาม จริงๆครับ
               














เรา มาว่ากันเรื่องร้านอาหารร้านนี้ดีกว่าครับ
เท่าที่ผมทราบ  ท่านเจ้าของร้าน และ บ้านหลังนี้    ลงมือเข้าครัวทำอาหารเองเลยครับ  
ลงทุน ข้ามน้ำ ข้ามทะเล  ไปเรียนทำอาหารอินเดีย จากคนอินเดีย ใน สิงค์โปร์เลยครับ  
หลังจากนั้น  ก็เอาวิชาความรู้  มาดัดแปลงตามความตั้งใจของเค้าเองครับ  ...

พอได้โต๊ะนั่ง  ...  ผมก็ขอดูเมนูแล้ว ก็หันไปบอกเจ้าของร้าน  ให้ช่วยกรุณาจัดรายการอาหาร ที่เป็นจานที่เลื่องชื่อ และ จานแนะนำ ของร้านนี้  มาให้ครบทุกอย่างเลยแล้วกันนะครับ
นั่งซักพักเดียวครับ เด็กที่ร้านก็ยกมาทีละจานครับ


" Chicken Tikka Masala "    
อาหารจานนี้  ดูรูปร่างหน้าตา แบบเผินๆ  จะ คล้ายๆกับ แกงกระหรี่ไก่
แต่ ใส่เครื่องเทศ ที่แตกต่างกันไป  บางเจ้าก็ใช้  นมสด หรือ โยเกิร์ต แทนกะทิ
มาซาล่า ของที่ร้านนี้  ใส่เครื่องเทศมาซะ กลิ่นหอมฉุยเลยครับ  ...  สีสัน ก็เข้มข้น น่าทาน  
รสชาติกลมกล่อม  แต่ไม่เผ็ด  สัมผัสได้ถึง ความร้อนแรง  ของเครื่องเทศแบบอินเดีย
จานนี้  ทานกับ นาน  หรือ ข้าวหมก สีเหลืองแบบอินเดีย อร่อยดีครับ

 " Hinley Curry "  
แกงกระหรี่ ชื่อ  เดียวกับร้าน ...  ถึงแม้จะเป็นไก่ อีกจานนึง  ก็ต้องสั่งมาลองครับ
จานนี้น่า  น่าจะเป็นอาหารจานโปรด ของเจ้าของร้าน เลยตั้งชื่อเดียวกับร้าน เลยครับ
สีสันแกงกระหรี่ สีอ่อนกว่า มาซาล่า เล็กน้อย เครื่องเทศหอมจูงใจเหลือเกินครับ    
รสชาติ  กลมกล่อม ไม่เผ็ด  ทานง่าย  ...   อร่อยแบบ ต้องลอง เลยครับ

" Pumpkin Curry "    
แกงกระหรี่ฟักทอง  ....   น้ำแกงเข้มข้นสะใจ  ฟักทองก็สุกกำลังดี  ไม่เละ แบบฟักทองต้ม
เหมาะสำหรับคนที่ชอบทานอาหาร  Vegetarian

และ อีกอย่างนึง  ซึ่งผมจำชื่อไม่ค่อยได้ครับ  เป็นคล้ายแกงกะหรี่ไก่แบบเข้มข้น  และ  จานสุดท้ายที่ขาดไม่ได้    โรตี    (ที่หนาและทอดได้ดี   ต่างจาก  "นาน"  ของอินเดีย)

พออาหาร มาเสริฟบนโต๊ะ เรียบร้อย ทุกคนหันมามองแล้วก็บอกว่า 
" ป๋าปึกส์ ชิมก่อนเลย  แล้ว วิจาร์ณ ให้ฟังหน่อยซิ "
พูดจบผมก็เริ่มตักชิม ทุกจาน โดยทุกคนรอฟังไม่ยอมทานครับ .... ผมก็ทำหน้ากรุ้มกริ่ม แล้วก็บอกว่า
" อืมมม ...  ไม่จัดจ้าน และ กลิ่นแรง  แบบอินเดียแท้ๆ นี่  ...  ผมว่า เป็นอาหารอินเดีย  ที่เอาใจ คนไทย และ ฝรั่ง  ดีน้ะ "

พูดจบน้องๆ ก็ถามว่า มันยังไงกัน ผมก็อธิบายไปตาม ประสพการ์ณ  ที่เป็นคนชอบอาหารอินเดีย  และ โปรดปราณการทานอาหารอินเดีย  ว่า
" พ่อครัวเค้าน่าจะเอาใจตลาดที่นี่  เลยลดความจัดจ้าน และ เข้มข้น ลง  ...  โดยลดปริมาณเครื่องเทศลง    แต่ก็ยัง  ได้กลิ่นไอ ของอาหารอินเดียอยู่เต็มๆ  เลยทีเดียว "  
พอเราเริ่มลงไม้ลงมือกัน   ไม่เกิน 5 นาที ทุกอย่างที่วางบนโต๊ะ  หมดไม่มีเหลือให้    น้องๆที่ร้านต้องลำบากในการล้างจานเลยครับ

** นั่นแสดงว่า สิ่งที่พ่อครัวเค้าตั้งใจ ก็ได้รับการตอบรับจากลูกค้า อย่างพวกเรา โดยดี **














                             
ทราบมาว่า   ทางเจ้าของร้านเค้า  ตั้งใจทำให้ รสชาติ และ ความเข้มข้น  ออกมาเป็นอย่างนั้น  ซึ่งก็อร่อยถูกใจผมดีครับ  และ ผมว่าถูกใจฝรั่งมังค่า รวมไปถึง นักทานชาวไทย  ด้วยหละครับ  
ก็ ตอนผมมาถึงร้านนี้   ผมเห็นมีคนไทยรวมคณะผมแล้ว ก็เพียง 2 โต๊ะเองครับ ที่เหลือ ฝรั่ง เต็มร้านครับ   ...   เอาเป็นว่า รอคิวกันเลยละครับ
                             
บรรยากาศไม่ต้องพูดถึงครับ   สอาดสอ้าน   โปร่งโล่ง  เย็นสบายครับ   แค่นั่งมองบ้านที่สุด   คลาสสิค อายุกว่า 165 ปี  ...    ก็มีความสุขแล้วครับ
                             
ลองแวะไปชิมกันดูนะครับ ผมว่าน่าจะ  ถูกปาก ถูกใจ ทุกคนครับ

Hinlay  Curry House 
  .. เลขที่ 8/1   หน้าวัดเกตุ ซอย 1
โทร    053-242-621      หรือ      081-952-3155


แผนที่ ร้านอาหารทั้งหมด ที่เขียนแนะนำไว้ใน   " แนะนำร้านอาหารอร่อย โดย ป๋าปึกส์ "
https://mapsengine.google.com/map/edit?authuser=0&hl=en&mid=zi7qOsZPeff0.kmjHpvkh5cmM 



ป๋าปึกส์

ขอแนะนำ ร้านโปรดของผู้เขียน
 : http://restaurantaroi.blogspot.com/2010/11/tengoku-1.html
 : http://restaurantaroi.blogspot.com/2010/11/tengoku-2.html
 : http://restaurantaroi.blogspot.com/2011/05/tengoku-de-cuisine.html


ติดตาม คอลัมน์ แนะนำร้านอาหารอร่อย โดย ป๋าปึกส์ ได้ทุกวันใน  Facebook
ได้ที่  : http://www.facebook.com/SuebsaengSun