Translate

วันอังคารที่ 15 มกราคม พ.ศ. 2556

Casa Antonio อาหารอิตาเลี่ยน ที่ เชียงใหม่


Ristorante   Antonio   อาหารอิตาเลี่ยน รสชาติอิตาเลี่ยนแท้ๆ  ที่  เชียงใหม่








            








                                 หนึ่งใน  ร้านอาหารอิตาเลี่ยน  ในเชียงใหม่  ที่ผมไปบ่อยที่สุดร้านนึงครับ  ... ร้านนี้เป็นเจ้าของเดียวกับ  Giorgeo    ร้านอิตาเลี่ยน  ร้านดัง ต้นถนนช้างคลาน ...  ซึ่งร้านเดิมค่อนข้างมี ลูกค้าเนืองแน่นเกือบทุกวัน  เอาเป็นว่า  ขนาดวันธรรมดา  จันทร์ ถึง พฤหัสฯ โทรไปจองยังหาที่นั่งได้ยากเย็นเลยครับ ... ไม่สงสัยเลยครับ  ว่าทำไมเจ้าของร้านถึง ต้องขยายกิจการ  เปิดร้านใหม่ขึ้นมาอีกร้านนึงครับ ...  ร้านใหม่ที่ว่านี้ก็  ห่างกันนิดเดียวครับ  ถ้าเราขับรถผ่าน ไน้ท์บาร์ซา มาจนถึง 4 แยกไฟแดง ที่หน้า พันธ์ทิพย์ พลาซ่า  ก็ตรงมาครับ ผ่านร้านเก่าที่อยู่ด้านขวามือ  ตรงมาจนถึงโรงแรมเอ็มเพรส พอสุดรั้วเอมเพรสก็เลี้ยวซ้ายเข้าซอย เลยครับ (ซอยเจริญประเทศ  12)   เข้าซอยมาก็หาที่จอดรถริมถนน หรือ จะเข้ามาจอดในร้านด้านขวามือ (ที่จอดในร้าน จอดได้ประมาณ 4 คันครับ)   ร้านนี้อยู่ด้านขวามือ ห่างจากปากซอยประมาณ ไม่ถึง 100 เมตร
















                                  ร้าน  Ristorante    Antonio    เป็นบ้านอายุเก่าแก่ รูปทรงสวยงาม  แล้วมาตกแต่งดัดแปลงให้เป็นร้านอาหาร สไตลส์   Vintage    คล้ายๆ ร้านอาหารอิตาเลี่ยน  ในต่างจังหวัดของอิตาลีนั่นแหละครับ  ...  ร้านนี้เจ้าของร้านเป็นชาวอิตาเลี่ยน  ที่เป็นเชฟเองด้วยในตัว  ก็เลยได้ถ่ายทอดวิชาให้ เชฟไทยของร้าน มีฝีมือพัฒนา รสชาติ จนค่อนข้างถูกปาก ชาวอิตาเลี่ยน เลยหละครับ  ...  รายการอาหารมากมายนับร้อยอย่างเลยครับ  แต่ผมไปทีไร ก็สั่งจานโปรดมาทานเป็นประจำ  ฉะนั้นขอแนะนำ เฉพาะที่สั่งทานประจำแล้วกันนะครับ
                                  วิธีทานอาหารแบบผม ไม่ได้สั่งอาหาร ของใครของมัน แบบฝรั่ง  ...  เราสั่งอาหารกันแบบ  สไตลส์ไทยๆ  เลยครับ  ...   สั่งอาหาร  หลายๆอย่าง  แล้วมา แชร์ กัน เพื่อให้ทุกคนที่มาด้วยได้ชิมอะไรหลายๆอย่าง    เช่นเดียวกับวันนี้    มากันทั้งหมด 5 คน ก็เลยสั่งเยอะหน่อยครับ
 



 










ขออนุญาตเขียนรายการอาหารเป็น ภาษาไทย นะครับ  (ไม่ได้จดมา กลัวสะกดผิด ครับ  .. 5555)

เห็ดผัดกระเทียม    ..........   โดยปรกติใน อิตาลี เค้าจะให้เห็ดในท้องถิ่น อย่างพวก เห็ดแชมปริยอง  แต่ในบ้านเราหา แชมปริยองสดๆ ค่อนข้างยาก   ส่วนมากเป็นแบบกระป๋อง  ...  ที่ร้านนี้เลยเลือกใช้ เห็ดฟาง คัดขนาด  มาผัดแทน  ซึ่งก็อร่อยกว่า ต้นตำรับซะด้วยซ้ำครับ

ผักขมผัดกระเทียม   ............    ผักขมที่ผัดมาแบบสุก กำลังดี  รสชาติไม่ต้องพูดถึงครับ  อร่อยเสมอต้น เสมอปลายครับ  ...  จานนี้เวลาผมมาทุกร้านนี้   สั่งมาทานทุกเที่ยวเลยครับ

ผักย่าง    ............    ผักสไตลส์อิตาเลี่ยน นานาชนิด อย่าง   ซูคินี่  ,  พริกหวาน ทั้ง เขียว เหลือง แดง  ,  มะเขือม่วง  ย่างแบบสุกกำลังดี   เหยาะด้วยน้ำมันมะกอก  โรยเกลือ พริกไท  ...  หากต้องการแซ้บ จัดจ้านขึ้นมาอีก  ซักกหน่อย  ก็ขอ  บาซามิค วีนิกการ์  เหยาะลงไปซักนิดนึง รับรองอร่อยชื่นใจครับ

พาร์ม่าแฮม กับ แคนตาลูบ   ..........   พาร์ม่าแฮม สั่งตรงจากเมือง พาร์ม่า ในอิตาลี  ...  สไลดค์ มาบางๆ  เสิร์ฟมาพร้อม  แคนตาลูบ รสหวานกำลังดี   ช่างเข้ากัน   ซะจริงๆ ครับ
                           
สปาเก็ตตี้ แอนโชวี่ พริกกระเทียม    ............   สปาเก็ตตี้ ร้านนี้ไม่ต้องห่วงเรื่อง การลวกเส้น เลยครับ  ...   เส้นสุกกำลังดีทุกครั้งครับ  ...  จานนี้ใส่ ปลาเค็มตัวเล็กๆ ที่เรียกว่า แอนโชวี่  ผัดกับ  พริก และกระเทียม  กลมกล่อมหอมอร่อยดีครับ

รีซอตโต้ ซีฟู้ด    ...........    ข้าวอิตาเลี่ยน   arborio  ข้าวเมล็ดกลมๆ  ป้อมๆ   ปรุงรสด้วย ซ้อสซีฟู้ด  แบบมะเขือเทศ และ ไวน์ขาว  ผัดแบบฉ่ำน้ำแล้ว เอาเข้าเตาอบ  ....  อาจจะดูแฉะๆ  แต่อร่อยกลมกล่อมดีจริงๆครับ     (รีซอตโต้ ของร้านนี้  จะแฉะๆ  ตามสไตลส์อิตาเลี่ยนแท้ๆ)
















ทีโบน สเต็ก   ...........    จานนี้ ถ้าคุณไม่แน่จริง  อย่าสั่งมาทานคนเดียวโดยเด็ดขาดนะครับ  ... ใหญ่จริงๆครับ   ลองดูในรูปด้านล่างซิครับ   เต็มจานเลยครับ   เนื้อนุ่ม  รสชาติดี  ผมต้องช่วยกันถึง สามคนกว่าจะหมดครับ

Osso Buco   ...........     
กระดูกหน้าแข้งลูกวัว  ตุ๋นและอบ  ด้วยซ้อสมะเขือเทศ   Osso Buco   ในภาษาอิตาเลี่ยน แปลว่า  กระดูกส่วนที่มี รู   ก็เลยต้องใช้ส่วนที่เป็นหน้าแข้งมาตุ๋นแล้วอบ  ราดด้วยซ้อสที่ผัดมาจากมะเขือเทศ   อร่อยนุ่มนวล เลยครับ เสิร์ฟพร้อมมันบด ...  ร้องโอววววววว  เลยครับสำหรับจานนี้

                                 ยังมีอีกหลายอย่างที่อร่อยนะครับ  เผอิญวันนี้ เราทั้ง 5  ไม่สามารถเอาอะไรลงไปในร่างกายเราได้อีกแล้วครับ  .... สถานที่ร้านนี้ นั่งสบายดีครับ  มีทั้งในร้านที่มีแอร์ และ ด้านหน้าร้าน ที่มีหลังคาคลุม เหมาะที่จะนั่งสูดอากาศเย็นๆ ในหน้าหนาวนี้จริงๆ ครับ  ...  ไวน์ที่ร้านนี้มีให้เลือกเยอะครับ ไม่ต้องหิ้วกันไปให้เมื่อยมือครับ ....  ราคาอาหารและไวน์ ไม่แพงครับ สมเหตุสมผลครับ  ....  ลองแวะไปชิมกันดูนะครับ

ที่อยู่ : 11/1 ถ.เจริญประเทศ 12 ต.ช้างคลาน อ.เมือง จ.เชียงใหม่ 50100

เบอร์โทรศัพท์  :  053-233-160   ,   087-184-9107
เปิดบริการ :
เวลากลางวัน   วันอังคาร - วันอาทิตย์    เวลา  11.00  - 14.30
เวลาเย็น           วันจันทร์ - วันอาทิตย์     เวลา  18.00 - 22.30

เวปไซด์ : http://giorgiochiangmai.com/casaantonio.php




แผนที่  ทางไปร้าน  Casa  Antonio









  1. ที่อยู่: Charoenprathet 12 Rd., Muang Chiang Mai, ตำบล หายยา จังหวัด เชียงใหม่ 50100
    โทรศัพท์:053 233 160






ป๋าปึกส์
15/01/2556

ขอแนะนำ ร้านโปรดของผู้เขียน
 : http://restaurantaroi.blogspot.com/2010/11/tengoku-1.html
 : http://restaurantaroi.blogspot.com/2010/11/tengoku-2.html
 : http://restaurantaroi.blogspot.com/2011/05/tengoku-de-cuisine.html

ติดตาม คอลัมน์ แนะนำร้านอาหารอร่อย โดย ป๋าปึกส์ ได้ทุกวันใน  Facebook
ได้ที่  : http://www.facebook.com/SuebsaengSun


วันจันทร์ที่ 14 มกราคม พ.ศ. 2556

ข้าวซอยห้าดาว สามแยกน้ำพุร้อนสันกำแพง ... เชียงใหม่

" ข้าวซอยห้าดาว "    สามแยก ปากทางเข้า  น้ำพุร้อนสันกำแพง  ...  เชียงใหม่


                          " ข้าวซอย "  ในปัจจุบัน กลายเป็น อาหารพื้นเมืองทางภาคเหนือของประเทศไทย ไปซะแล้ว ... เดิมที มีชื่อเรียกว่า  " ก๋วยเตี๋ยวฮ่อ "   ...  เป็นอาหารที่คล้ายเส้นบะหมี่  ในน้ำซุป ที่ใส่เครื่องแกง รสจัดจ้าน  ...  มีเครื่องเคียงได้แก่  ผักกาดดอง , หอมแดง และ เครื่องปรุงรส เช่น พริกผัดน้ำมัน , น้ำมะนาว , น้ำปลา และ น้ำตาล
ในตำรับดั้งเดิมของ  " ก๋วยเตี๋ยวฮ่อ "     เลือกใส่เนื้อสัตว์ เฉพาะ  เนื้อวัว และ เนื้อไก่ เท่านั้น
แต่ปัจจุบัน ร้านอาหารหลายแห่ง เพิ่ม  อาหารทะเล , หมู , ปลา , ลูกชิ้น , เต้าหู้  เป็นส่วนประกอบ  เพื่อเอาใจลูกค้า  ในแต่ละท้องถิ่น    ขึ้นอยู่กับความนิยม รับประทานของ บริเวณนั้นๆ
                         " ข้าวซอย "    มีต้นกำเนิดจาก  ชาวจีนเชื้อสายมุสลิม  ที่อพยพมาอยู่ทางภาคเหนือของ ประเทศไทย และ ประเทศลาว  ... แต่เดิม  ข้าวซอย ไม่มีกะทิเป็นส่วนประกอบ เรียกว่า   " ข้าวซอยน้ำใส "  ..  ต่อมาได้มีการเพิ่มกะทิเข้าไป  จนเป็นที่นิยมอย่างมาก และ กลายเป็นลักษณะข้าวซอย แบบที่เรารู้จักกันในปัจจุบัน  ... ข้าวซอย จึงเป็นผลลัพท์ของการผสมผสาน ระหว่าง อาหารจีน อาหารตะวันออกกลาง และ อาหารเอเชียอาคเนย์




                                                                




                            ร้าน  " ข้าวซอย "    ที่ผมเอามาแนะนำในวันนี้ เป็น  ร้านเล็กๆ  เป็นเพิง  แบบร้านข้างทางในชนบท  ...  หลังคามุงสังกะสี   เก้าอี้ในร้านก็เป็น  เก้าอี้แบบ นั่งในโรงอาหารในโรงเรียนในชนบท  ... บางส่วน ก็เป็น เก้าอี้แบบม้าหิน  ....  เป็น  ร้านข้าวซอย ที่เปิดขาย มานานร่วม 10 ปีเห็นจะได้  (ผมไม่ได้ถามเค้านะครับ)
เล็กๆ  .. ดิบๆ ..  บ้านๆ  แบบนี้   ...  แต่ .. แต่  ... เป็น ร้านข้าวซอยร้านโปรดของผม เลยหละครับ
ก็อย่างที่ผมเคยเขียนไว้ว่า  ผมแนะนำร้านอาหารทุกระดับ ไม่ว่าจะเป็นเพิง หรือ หรูหราในโรงแรม ห้าดาว  ... ขอเพียงแต่  ร้านเหล่านั้น  อร่อย .. สอาด .. ไม่ดูถูกลูกค้า  ...  ผมก็จะเอามาแนะนำใน  Blog ของผมทั้งหมดครับ
                           
ร้าน   " ข้าวซอยห้าดาว "    อยู่ห่างจากสามแยก ที่จะเลี้ยวเข้าไปทาง น้ำพุร้อนสันกำแพง  เข้ามาประมาณ 100 เมตร  ทางด้านซ้ายมือ ...  ก่อนเข้าไปเที่ยวน้ำพุร้อน หรือ ไปเที่ยวมาแล้ว  จะแวะออกมาทาน ข้าวซอยร้านนี้ รับรองไม่ผิดหวังครับ  ...  ข้าวซอย เป็นอาหารกลางวันยอดนิยม ของนักท่องเที่ยวที่มาเยือน ภาคเหนือ  เกือบทุกหมู่บ้าน เกือบทุกตำบล  ทุกอำเภอ ในภาคเหนือตอนบน  หาทานข้าวซอยได้ไม่ยากครับ ... ด้วยความนิยมรับประทาน ทำให้ข้าวซอยแต่ละแห่ง รสชาติไม่เหมือนกันครับ  ขึ้นอยู่กับว่า คนในท้องถิ่นนั้นๆ ชอบหรือนิยมรสชาติยังไง














ข้าวซอย   ..........   ข้าวซอย ร้านนี้ มีทั้งไก่ และ เนื้อ ครับ
เครื่องแกงของข้าวซอยร้านนี้ ตำเองสดๆ ทุกวันครับ   หอมกลิ่นสมุนไพรนานาชนิดที่ผสมผสานลงไป ตามสูตรที่ได้รับ การถ่ายทอดมา รุ่นสูรุ่น ครับ  ....  น้ำแกงที่ราดมา สีสวยเข้ม แตกมัน  แทบไม่ต้องปรุงอะไรเลยครับ  ไม่ใส่กะทิ มากเกินไป  .. สัมผัสได้  ถึงรสชาติ และ ความเป็นมาของ   " ก๋วยเตี๋ยวฮ่อ "     รสเดิมๆ จาก บรรพบุรุษเลยครับ  ... เส้นข้าวซอยลวกมาสุกกำลังดี   เนื้อวัวก็เปื่อยทานง่าย  ...  ส่วน ไก่  ก็สุกกำลังดีไม่เปื่อยยุ่ย  ...  หมี่กรอบเส้นใหญ่ ทอดมาสวยน่าทานนัก  ....  ตักผักกาดดอง  หอมแดง  บีบมะนาวเล็กน้อย  ...  ถ้าชอบแบบ เร้าใจ  ก็ลองใส่    " พริกผัดน้ำมัน "   ลงไปซักช้อนนึงครับ
" พริกผัดน้ำมัน "  ร้านนี้ หอมอร่อย  ตอนทานเข้าไปไม่รู้สึกว่าเผ็ดเท่าไหร่ครับ  แต่ซักพักเดียวเท่านั้นครับ  เหงื่อออกมาเต็มศรีษะ เลยหละครับ    ....  อร่อยแบบ   " ออริจิน้อน "     เลยครับ













ร้านนี้นอกจากมี ข้าวซอย แล้ว  ยังมีก๋วยเตี๋ยวเนื้อ ขายด้วยครับ
ผมเคยลอง ก่วยเตี๋ยวเนื้อแล้ว  พอใช้ได้  แต่น้ำซุปออกหวานไปนิดนึงครับ   ... เลยขอแนะนำแค่  ข้าวซอย  อย่างเดียวเท่านั้นพอ ครับ
ร้านนี้เปิดบริการทุกวัน แบบไม่มีวันหยุด  เริ่มขายก็ สายๆหน่อยครับ  ประมาณ เกือบ 10 โมงเช้าก็เปิดแล้วครับ  กว่าจะปิดร้านก็  บ่ายๆเลยครับ  บ่าย 3 บ่าย 4  ขึ้นอยู่กับ วันไหน หมดเร็ว หมดช้า ครับ
ใครผ่านเส้น น้ำพุร้อนสันกำแพง หรือ ไปเที่ยวน้ำพุร้อน  หรือ ไปเล่น กอล์ฟ  แถวๆนั้น  ลองแวะไปชิม ข้าวซอย ร้านนี้ดูซิครับ ....    " แซ้บอีหลีตั้ว "     เลยครับ

แผนที่  ร้านอาหารทั้งหมด ที่เขียนแนะนำไว้ใน   " แนะนำร้านอาหารอร่อย โดย ป๋าปึกส์ "
https://mapsengine.google.com/map/edit?authuser=0&hl=en&mid=zi7qOsZPeff0.kmjHpvkh5cmM


ป๋าปึกส์ 
14/01/2556

ขอแนะนำ ร้านโปรดของผู้เขียน
 : http://restaurantaroi.blogspot.com/2010/11/tengoku-1.html
 : http://restaurantaroi.blogspot.com/2010/11/tengoku-2.html
 : http://restaurantaroi.blogspot.com/2011/05/tengoku-de-cuisine.html
ติดตาม คอลัมน์ แนะนำร้านอาหารอร่อย โดย ป๋าปึกส์ ได้ทุกวันใน  Facebook
ได้ที่  : http://www.facebook.com/SuebsaengSun







วันอาทิตย์ที่ 13 มกราคม พ.ศ. 2556

CHIANGDAO NEST ใกล้ๆ ถ้ำเชียงดาว ที่ เชียงใหม่

" CHIANGDAO NEST "    สุดยอดอาหารฝรั่ง  ใกล้ๆ ถ้ำเชียงดาว  ที่ เชียงใหม่ 


ถาม  :   ถ้าไปเที่ยวถ้ำเชียงดาว ... จะแวะทานอะไรที่ไหนดี ?
ตอบ  :   " ขาหมูเชียงดาว "    ไงล่ะ   (อีกแล้ว เหรอ)  ..
ถามต่อ  :   ไปทานบ่อยแล้ว  แทบทุกเที่ยวเลย  ...  ไม่มีอย่างอื่น ให้ทาน อีกเลยเหรอ ?
ถาม  :   ร้านอาหารฝรั่ง  อร่อยๆ   มีมั่งมั้ย ?
ตอบ  :   มีครับ 
ถาม  :   อาหารฝรั่ง  ที่ เชียงดาว นี่อะน๊ะ  ...   อยู่แถวไหนล่ะ ?  
ตอบ  :   อยู่ที่ รีสอร์ทกลางป่า  เลยหละครับ  เลยถ้ำเชียงดาวเข้าไปอีก !!!   ...  เลยปากทางเข้าถ้าเชียงดาว ไปอีกหน่อยเดียวครับ   ชื่อร้าน     " CHIANGDAO  NEST "    ครับ
















ผมจำได้ว่าเคยไปร้านนี้ เมื่อ 5 - 6 ปีที่แล้ว  ...  มีเพื่อนเป็นนายทหาร  อยู่แถวๆเชียงดาว   ชวนไป สักการะ     พระสถูปเจดีย์ สมเด็จพระนเรศวรมหาราชานุสรณ์  
ซึ่งตั้งอยู่บริเวณที่ซึ่ง พระองค์ได้เสด็จฯกรีธาทัพ และ พักแรมก่อนจะไปตี  เมืองอังวะ ประเทศพม่า เมื่อ  พุทธศักราช ๒๑๔๘
ตอนนั้น พระยาอังวะ  ยกทัพไปตีเมืองนาย  และ  จะไปตีเมืองแสนหวี  อันอยู่ในพระราชอาณาจักรสยาม  
สมเด็จพระนเรศวร   จึงได้กรีฑาทัพ  ขึ้นมายังเมืองเชียงใหม่ประทับ ณ เมืองเชียงใหม่ เดือนนึง ...  แล้วจึง ยกทัพมุ่งไป เมืองหาง   ...  และ ทรงโปรดให้ตั้งค่าย ตั้งทัพ ณ  ตำบลเมืองงาย
ที่นี่เอง เป็นที่ตั้ง  พระสถูปเจดีย์ตั้งอยู่ปัจจุบัน ...   แล้วเสด็จยกทัพหลวง  ไปที่   ตำบลทุ่งแก้ว (ปัจจุบันอยู่ในเขตสหภาพพม่า)  แล้วพระองค์ท่าน ทรงประชวร เป็นละลอก ที่ พระพักตร์กลายเป็นพิษ   ...  และ เสด็จสวรรคต   เมื่อวันจันทร์ ขึ้น ๘ ค่ำเดือนหก ปีมะเส็ง พ.ศ.๒๑๔๘   รวมพระชนมายุได้ ๕๐ พรรษา และเสวยราชได้ ๑๕ พรรษา  (คัดลอกจาก ข้อความบนแผ่นหินอ่อนด้านข้าง พระสถูปเจดีย์)

พอเที่ยวชม และ สักการะพระสถูปเจดีย์ แล้ว .... ก็เริ่มได้ยินเสียงท้องร้อง  จ๊อก จ๊อก เลยครับ
แต่ก็ยังไม่ได้เวลาอาหารครับ  ก็เลยไปเที่ยวกันต่อที่  ถ้ำเชียงดาว  งดงามทีเดียวครับ ... พอ ออกจากถ้ำเชียงดาว เพื่อนผม ก็เอ่ยปากถามผมว่า   ...   " ป๋าครับ ไปทานอาหารฝรั่งกันมั้ย ? "
ผมรีบตอบในทันทีเลยครับ   " ป๊าดด ถ้อ  ...  เอาเลยครับ  ผมไม่ไหวหละ ไม่อยากนั่งรถเข้าเมือง "  (ผมตอบไปเพราะหิว จนไม่สามารถนั่งรถ ต่อไปไหน ได้อีกแล้ว)
ร้านอยู่แถวนี้เองครับ เลยเข้าไปอีกไม่ถึง กิโลครับ  (เพื่อนผมเล่าต่อ)
" เฮ้ยยย  อะไรกัน จะบ้าเหรอ  อาหารฝรั่งกลางป่า "  (ผมอุทานไปด้วย สีหน้า อันเย้ยหยัน)  
" เอา !!  เอาไงก็เอา ไปกันเถอะหิว แล้ว "     
(ในใจนึกว่าอร่อย หรือ ไม่อร่อยก็กินแล้วหละ)

ผมจำได้ว่า พอไปทานครั้งนั้น  ก็ติดอก ติดใจ ขึ้นมาทันทีทันใดเลยครับ  ...  แต่สมัยนั้น  ผมยังไม่ได้เขียนแนะนำร้านอาหาร  ใน Blog แบบทุกวันนี้
แต่ก็แนะนำ คนโน้น คนนี้ ที่มักจะถามอยู่เรื่อยว่า ไปเชียงดาว ทานอะไรดี ที่ไม่ใช่  ข้าวขาหมู
ผมว่า ผมแนะนำผู้คนไปร้านนี้ หลายสิบรายเลยทีเดียวครับ
วันนี้แหละครับ ได้เขียนแนะนำร้านนี้อย่างเป็นเรื่องเป็นราวซักที














มาเที่ยวนี้ เมื่อวานซืนนี้เองครับ (11/1/2556)  ... ผมมากันเองครับ  พา ภรรยา และ ลูกชายมาด้วยครับ  มาเชียงดาว  เพื่อกลับมา ชิมอาหารร้านนี้ โดยเฉพาะเลยครับ ร้านนี้อยู่ไม่ไกลจากตัวอำเภอเท่าไหร่ครับ  ... เลยทางเข้าถ้ำเชียงดาวไปนิดเดียวครับ
สมัยตอนมาที่นี่ ครั้งแรก  ยังเป็นรีสอร์ทเล็กๆ มีร้านอาหารอยูู่ไม่กี่โต๊ะเองครับ
เดี๋ยวนี้ ขยายใหญ่ และ ทำใหม่  มีร้านอาหารสองแห่ง ด้วยกันครับ
ร้านแรก  ที่อยู่ต้นทาง  เป็นร้านอาหารไทย ครับ  ...   เลยร้านแรกเข้าไปอีกซัก 500 เมตร เป็นร้านอาหารฝรั่ง ครับ  .....    ที่  Chiangdao Nest  เป็นรีสอร์ท ที่มีนักท่องเที่ยว ทั้งยุโรป และ ชาติอื่นๆ  ไปพักค่อนข้างเยอะเลยครับ    เพราะนอกจากถ้ำเชียงดาวแล้ว  ... รีสอร์ทนี้เอง  ยังตั้งอยู่ในมุมที่ สามารถนั่ง (จากร้านอาหารฝรั่ง)   แล้วมองเห็น  " ดอยหลวง "   ตั้งเด่น เป็นสง่า  อย่างสวยงามชัดเจน 
ดอยหลวง
   เป็น ภูเขาสูงใหญ่มหึมา  ที่ตั้งตระหง่าน เป็น  Landmark  ของเมืองเชียงดาวเลยครับ

ร้านนี้อยู่ใน รีสอร์ท แบบธรรมดาๆ  ที่สร้างด้วยไม้ หลังคามุงจาก น่ารักดีครับ  มีลำธารเล็กๆ  ไหลผ่านทั่วบริเวณ  อากาศเย็นสบายดีครับ ...   ขนาดไปตอนเที่ยง  ของเดือนมกราคม  ผมยัง  ต้องหาที่นั่ง ที่มีแสงแดดส่องถึง  เพื่อให้อบอุ่นขึ้นมาหน่อยเลยครับ ...  พอเรามาถึงร้านอาหาร  ก็รีบนั่งเลยครับ  หิวมาเลยครับ  ... พนักงานที่นี่ บริการดีมากครับ (ผมว่าดีกว่าร้านอาหารฝรั่งหลายร้านในเมืองซะอีกครับ)   แถมพนักงานเกือบทุกคน  พูดภาษาอังกฤษ แบบสื่อสารกับฝรั่ง กันรู้เรื่องดีเลยครับ ...  ตอนมาถึง  มีฝรั่งนั่งอยู่สองโต๊ะ  นั่งสักพักเดียว ทยอยมาไม่ขาดสายเลยครับ  เต็มภายในพริบตาครับ














                               เอาหละครับ  มาว่าถึง อาหาร  กันซักทีครับ ...  นั่งโต๊ะกันเรียบร้อย เดินไปอ่านเมนูประวันวัน ที่เขียนอยู่บนกระดานดำเรียบร้อย  ก็จัดแจงสั่งอาหารกันเลยครับ ... เราไปกัน 4 คน เลยสั่งมา แชร์กันครับ   เริมต้นกันด้วย อาหารเรียกน้ำย่อย กันก่อนครับ

Bruchetta  ..........   อาหารเรียกน้ำย่อย  สไตลส์ อิตาเลี่ยน  ที่มี  ผักสารพัดชนิด หั่นเล็ก คลุก  Vinegar และ  Olive oil  และ  ชีส    ...   วางบนขนมปังหนากรอบ  รสชาติ  เข้มข้นลงตัว  อร่อยดีครับ

Cesar Salad   ..........   ที่นี่อาจได้เปรียบ ร้านในตัวเมือง ก็ตรงที่ ย่านนี้อากาศดีมาก ปลูกผักสลัดเองได้ โดยไม่ใช้สารเคมี แม้แต่น้อยเลยครับ   ผักสดกรอบดีจังเลยครับ  ..  คลุกเคล้า มาด้วย น้ำสลัดซีซาร์ และ พามาซานชีส  และ เบคอนทอดกรอบ ชิ้นน้อยๆ  อร่อยกลมกล่อมอีกเช่นกันครับ  ...  ขอบอกว่า อร่อยไม่แพ้ หรือ อาจจะอร่อยกว่า ร้านอาหารฝรั่ง  หลายๆร้าน ในตัวเมืองเชียงใหม่ เลยทีเดียวครับ

ซุปฟักทอง  ..........  โอวววว ๆๆๆๆ   ....  แค่พอตักชิมคำแรก  ผมหันไปบอกทุกคนว่า  ไม่ธรรมดา  เลยครับ  ....  เพราะปรกติ ซุปฟักทอง ส่วนใหญ่ มักจะมีรสชาติ  ออกรสหวานนำ  มากไปหน่อยครับ   น่าจะมาจาก ความสุก  ที่สุกเกินไปของ ฟักทอง  ...  แต่ที่นี่ รสชาติของซุปฟักทอง  กำลังดีเลยครับ ไม่หวานเกินไปครับ  ...  คงเป็นเพราะความสด และ การเลือกใช้ฟักทอง ทีมีความสุก ที่ไม่มากเกินไปครับ  ...   จานนี้อร่อยจนต้องสั่งเพิ่มกันเลยหละครับ

                             ทานอาหารฝรั่ง แบบไม่รีบไปไหน ก็ต้องสั่ง ไวน์มาแกล้ม  กันซะหน่อยครับ  ...   ไม่น่าเชื่อว่า  ร้านอาหารอยู่กลางป่าแบบนี้   มีไวน์ที่เจ้าของร้านเค้าเลือกแล้วว่า   เข้ากับอาหารของเค้าได้ดีเลยครับ   แถมเลือกไวน์ที่ราคาไม่แพงมากซะด้วย  ...  ไม่ต้องหิ้วไวน์ไปเองนะครับ  ที่ร้านเค้ามีขายครับ














                                 พอทาน Starter  เรียกน้ำย่อย  ...  ก็เงยหน้า มองดูวิว ของ ดอยหลวง ... โอววววว  เหมือนนั่งอยู่บนสวรรค์ครับ  ...   ธรรมชาติที่นี่ ช่างทำให้  ซักวันนึง ผมคงต้องกลับ  มาทานมื้อเย็นแล้ว มานอน  ในกระท่อมกลางป่า ซักรอบ  ท่าจะดีครับ  ....  คราวนี้มาถึงรายการอาหารหลักครับ

New Zealand Fillet Steak   ..........  สเต็กเนื้อนิวซีแลนด์   ราดด้วย ซ้อสเห็ดป่า และ ไวน์แดง  ...  เนื้อสเต็ก หั่นหนา   แบบร้านในต่างประเทศเลยครับ   ผมสั่ง  Midium Rare   ...  ก็สุก ได้ตามที่ผมสั่งครับ  ...   เนื้อดี  แต่ที่ดีกว่าก็ตรง  เกรวี่  หรือ น้ำราดสเต็กนี่ซิครับ    ...  อร่อยกลมกล่อมดีจังเลยครับ

Slow cook Lamb Shank  ..........   ขาแกะตุ๋น  จานนี้ดูจากรูปร่างหน้าตา  ออกเป็นแบบสไตลส์อังกฤษ ครับ  ...  ขาแกะ  ชิ้นใหญ่  ตุ๋นจนนุ่ม  ราดมา  ด้วยซ้อสไวน์ขาว   ก็อร่อยครับ   เนื้อนุ่มดีครับ

Chicken Fillet marinated in whole grain mustard   .......... ไก่อบ  ราดซ้อส มาสตาด  ...  จานนี้ตอนที่สั่งมา  ไม่ได้คาดหวังว่า จะอร่อยมากนัก  เพราะปรกติเวลาผมไปทานอาหารฝรั่ง  มักจะไม่ค่อยสั่งไก่มาทานนัก   แต่พอได้ลิ้มรส  จานนี้เข้าไป  ...   ต้องขอบอกสั้นๆ ง่ายๆ ว่า  ไม่ควรพลาดจานนี้ โดยเด็ดขาด   อร่อยยังไงไม่ขออธิบายครับ ... ไปลองเอากันเองครับ ... เพราะ ผมตักเข้าปากแล้ว ได้แต่ร้องว่า  ... โอววว  โอวววววว    อย่างเดียวเลยครับ

Oven Baked Salmon  fillet  ..........  ปลาแซลม่อน  ห่อแป้งอบ  ...  จานนี้ตอนสั่งมา ก็กลัวจะเบื่อเหมือนกันครับ  เพราะผมทานแซลม่อนบ่อยมากครับ (ก็ผมมีร้านอาหารญี่ปุ่น ของตัวเอง นี่ครับ)    แต่ ภรรยาอยากทานปลา  ก็เลยลองสั่งมาครับ ... อร่อยแบบคาดไม่ถึง เช่นกันครับ  ทั้งรสชาติของปลา และ แป้งที่ห่อแล้วเอาไปอบ  ...  ลงตัวทั้งรสชาติ และ การตกแต่งอาหารเลยครับ















ต่อจากนั้นก็ ต่อท้ายด้วยของหวานครับ  ...  ผมเป็นคนที่ ไม่ค่อยถนัดเรื่องของหวานครับ   เลยยกให้เป็นหน้าที่ของ ภรรยา และ แฟนสาวของลูกชายครับ  เค้าสั่ง  Creme  Brulee  (เครมบรูเล่)   และ   Cheese Cake  (ชีสเค้ก)  มาทาน  ..  อร่อยทั้งคู่ครับ  ...  ทานเสร็จทุกอย่างดูนาฬิกา  ...  โอววว นี่เรานั่งทาน  เพลินๆ ดูวิวสวยๆ ไป 2 ชั่วโมงกว่า  แล้วครับ
ช่างเป็น 2 ชั่วโมงกว่า ที่ สุขสันต์ ซะเหลือเกินครับ  ... อากาศ อาหาร กลางเขากลางป่า แบบนี้ พูดได้คำเดียวครับว่า   " เพอร์เฟค "  ครับ
ราคา  ไม่เกินมาตรฐาน   ครับ  ...  ผมและครอบครัว รวม 4 คน  ทานอาหารไป  7 อย่าง ของหวาน 2 อย่าง รวมไวน์ ด้วยอีกหนึ่งขวด และ เครื่องดื่ม   ....  ชำระ ค่าเสียหายไป   3,700  ครับ
                       
ใครมาเที่ยวแถวเชียงดาว  หรือ อยู่เชียงใหม่ ก็เดินทางมาไม่ไกลครับ  ประมาณ ชั่วโมงครึ่ง จากตัวเมืองเชียงใหม่ครับ  ...  โทรมาจองก่อนก็ดีนะครับ  หน้านี้คนเยอะมากครับ

Chiangdao Nest  :  053-456-242     ,   086-017-1985

หรือจะเข้าไปดู ใน  Facebook : http://www.facebook.com/chiangdaonest




แผนที่ ร้านอาหารทั้งหมด ที่ผมเขียนแนะนำไว้ ใน   " แนะนำร้านอาหารอร่อย โดย ป๋าปึกส์ "
(รวมร้านนี้ ด้วยนะครับ)
https://mapsengine.google.com/map/edit?authuser=0&hl=en&mid=zi7qOsZPeff0.kmjHpvkh5cmM 





ป๋าปึกส์ 
13/01/2556

ขอแนะนำ ร้านโปรดของผู้เขียน
 : http://restaurantaroi.blogspot.com/2010/11/tengoku-1.html
 : http://restaurantaroi.blogspot.com/2010/11/tengoku-2.html


ติดตาม คอลัมน์ แนะนำร้านอาหารอร่อย โดย ป๋าปึกส์ ได้ทุกวันใน  Facebook
ได้ที่  : http://www.facebook.com/SuebsaengSun


วันพุธที่ 9 มกราคม พ.ศ. 2556

ส้มตำหลวงพระบาง ... ที่ ป่าตัน ... เชียงใหม่

" ส้มตำหลวงพระบาง " ...  ที่ ป่าตัน ... เชียงใหม่


                            ถ้าถามว่า   " ส้มตำ "   เป็นอาหารของ ชนชาติใด ? ... คงต้องค้นหาความจริงกันยืดยาวเลยทีเดียวเชียวครับ  ...  เพราะถ้าเป็น ส้มตำ ที่ใช้ มะละกอทำก็ยิ่งต้อง ดูกันอย่างละเอียดลงไปอีกครับ ... ที่กล่าวอย่างนี้่ก็เพราะ  เจ้า มะละกอ  นี่แหละครับ ...
                   " มะละกอ "   เป็นพืชที่มีถิ่นกำเนิดใน อเมริกากลาง และ ถูกนำเข้ามาปลูกใน ทวีปเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ โดย ชาวสเปน และ โปตุเกส ในยุคต้นของกรุงศรีอยุธยา ... ในสมัย สมเด็จพระนารายณ์มหาราช  มีบันทึกไว้ว่า ทูตชาวฝรั่งเศสผู้มาเยือนกรุงศรีอยุธยา คือ  นิโคลาส์ แชรแวส  และ  เดอ ลาลูแบร์  ต่างพรรณาว่า ในเวลานั้น มะละกอ ได้กลายเป็นพืชพื้นเมืองชนิดหนึ่งของสยามไปแล้ว  แถมยังกล่าวถึง  กระเทียม , มะนาว , มะม่วง , กุ้งแห้ง , แตงกวา , น้ำตาลที่ทำจากมะพร้าว , แตงกวา ... ซึ่งล้วนแล้วแต่ ส่วนประกอบที่สามารถใช้ทำส้มตำได้ทั้งนั้น ... ขณะเดียวกันก็ได้เขียนบันทึกไว้ว่า  ในขณะนั้น สยาม ไม่มี กระหล่ำปลี  ฯลฯ ....  บันทึกเหล่านี้ พอจะพิจารณาได้ว่า  " ส้มตำ "  ที่ทำจาก มะละกอ  น่าจะเกิดขึ้น ในดินแดน  สยาม  ก่อนประเทศใดๆ  (ขอบคุณข้อมูลจาก สารานุกรม วิกีพีเดีย)
       














                           กล่าวถึง ที่มาที่ไปของส้มตำ มาซะยืดยาวเลยนะครับ  ก็เพราะวันนี้จะแนะนำร้านอาหารที่มีชื่อ ส้มตำ นำหน้าครับ ... " ส้มตำหลวงพระบาง "  ครับ ... ถ้าเราขับรถมาตาม ถนนซุปเปอร์ไฮเวย์ มุ่งหน้าออกนอกเมือง  พอผ่านแยกข่วงสิงห์ ก็ชิดซ้ายออกทางคู่ขนาน ผ่านหน้าโรงพยาบาล ลานนา ... ตรงไปจนเกือบสุด แม่น้ำปิง มีถนนทางด้านซ้ายมือ เลี้ยวซ้ายเลยครับ  ย่านนั้นเค้าเรียกว่า ป่าตัน ครับ ขับรถเข้ามาไม่ถึง กิโล ก็จะเห็นร้านนี้อยู่ทางซ้ายมือครับ
                           จริงๆแล้ววันนี้ ตั้งใจจะไปชิมอีกร้านนึงครับ ที่เพิ่งเปิดใหม่ชื่อ  Cafe de Ping  ร้านอาหารไทยเจ้าของเดียวกันกับ  Cafe de Nimman  นั่นเองครับ  แต่เผอิญผมไม่ได้เช็คก่อนครับ ว่า เค้าปิดตอนกลางวัน  ...  พอมาถึงหน้าร้านปรากฏว่า  ร้านปิด เลยอดชิมเลยครับ (เดี๋ยวต้องกลับมาใหม่ครับ มีคนกระซิบมาว่า อร่อย ครับ)  ...  พอร้านไม่เปิดก็ขับรถเลยมานิดนึง  เห็นป้ายร้าน  ส้มตำหลวงพระบาง อยู่ใกล้ๆกันนี่เองครับ  ผมหันไปถาม น้องๆที่ทำงาน ที่มาด้วยว่า  " ลองร้านนี้เลยแล้วกันนะ คนเยอะดี "  ... ไม่มีคำตอบจากใครเลยครับ  แต่ทุกคนทำท่า ซื๊ดดดดปาก แบบเปรี้ยวปากสุดๆ เลยครับ  
















                           เข้ามาในร้านนี้ตอนเที่ยงกว่าๆ ... โอวววว  เต็มทุกโต๊ะ เลยครับ  เห็นลูกค้านั่งปั้นข้าวนึ่ง จิ้มส้มตำ แล้วแทบทนไม่ไหวครับ ... รีบสั่งอาหารโดยทันทีครับ  :  ส้มตำหลวงพระบาง  , ส้มตำปู ปลาร้า  ,  ป่นปลา  ,  ปลาร้าทรงเครื่อง  ,  ไส้อั่วหมู แบบลาว  ,  ปีกไก่ทอดน้ำปลา  ,  ปลาทับทิมทอดกระเทียม , แกงส้มปลา  พร้อม ข้าวนึ่ง คนละ ติ๊บ ครับ  ... สั่งเสร็จ น้องคนเสิร์ฟก็ออกตัวไว้ก่อนเลยครับ ว่า   " วันนี้คนแน่นหน่อย  อาหารอาจช้าซักนิดนึง นะค๊ะ "    น่ารักดีนะครับ ทำให้เราไม่รู้สึกหงุดหงิดกับการรอ อาหารที่สั่งไปครับ  แถมรู้สึกว่า  แป้บเดียวอาหารก็มาแล้วครับ  (ร้านอื่นๆ ก็เอาไปใช้ได้นะครับ )
                          ครู่เดียวเท่านั้นครับ  อาหารจานแรกยกมาแล้วครับ   " ส้มตำหลวงพระบาง "  ครับ ... ผมจำได้ว่าผมเคยไปหลวงพระบาง มาแล้วกว่า 10 ครั้งเลยครับ ไปจนเคยคิดจะไปเปิดกิจการร้านอาหารที่นั่น  แต่ในที่สุดก็ไม่ได้ทำครับ .. ทุกครั้งที่ไปหลวงพระบางก็ เมนูนี้ แหละครับ  ที่หลวงพระบางเค้าจะใช้ มะละกอ ที่ฝานเป็นแผ่นบางๆ กว้างประมาณซักนิ้วนึง  แล้วที่แตกต่างจากส้มตำบ้านเราก็คือเค้าใส่มะกอกน้ำ ลงไปตำด้วยครับ นอกนั้นก็ปรุงแบบคล้ายๆบ้านเรานั่นแหละครับ ปลาร้า อะไรต่อมิอะไร ไม่ได้ต่างกันเท่าไหร่ครับ  ...  แต่พอได้ตักลิ้มรส แล้วถึงกับต้องอุทานในใจดังๆ จนเสียงออกมาได้ยินทั้งโต๊ะเลยครับ  ... โอวววววว  แม่เจ้าโว๊ย   " แซ้บอีหลีตั้ว "    อร่อยแบบหลวงพระบางจริงครับ  ...  ทานไปได้ซักคนละคำเท่านั้น ผมก็ถามน้องๆว่า   " เบิ้ล มั้ย "  ... ไม่มีคำตอบครับ  ทุกคนซับเหงื่อแล้วพยักหน้า  อืมมม อืมมม  ... ว่าแล้วก็จัดมาอีก 2  ที่ครับ
















                             ซักพักเดียวครับ  อาหารมาเป็นชุดครับ  ... ส้มตำ ปู ปลาร้า  (แบบอีสาน บ้านเฮา)  โอววว   แซ้บอีหลี เด้อครับ  ... ถัดมา  " ปลาร้าทรงเครื่อง "  พอตักเข้าปากเท่านั้นผมร้อง โอวววว อีกแล้วครับ ผมขอ ยืนยัน นั่งยัน  นอนยันว่า  ปลาร้าทรงเครื่อง  ที่นี่ อร่อยไมแพ้ใครเลย  นับตั้งแต่ลองทาน ปลาร้า มากว่า 30 ปีครับ  (ไม่เว่อร์นะครับ)   ... ต่อมา  " ป่นปลา " ครับ ... อยากจะเขียนว่าร้อง โอววว ก็กลัวหาว่าซ้ำแล้วซ้ำอีก  แต่ก็ขออีกทีนะครับ  โอววววววววววววว   อร่อยมากครับ (ป่นปลา คล้ายๆกับน้ำพริกปลาของคนเมืองครับ)  ...  แกงส้มปลา  อร่อยคล้ายต้มแซ้บครับ  ปลากระพงขาวสดมากครับ  ... ไส้อั่วหมู  ไส้อั่วที่ร้านนี้ทำแบบในลาวเลยครับ  ไม่จัดจ้านเหมือนไส้อั่วทางเหนือของเราครับ  ... ปลาทับทิมทอดกระเทียมพริกไท  น่าทานเลยครับ  แต่น้องๆเค้าสั่งมา ผมไม่ได้ชิมหรอกครับ  เพราะผมไม่ทาน ปลาทับทิม ครับ
                           ทั้งหมดมาพร้อม ข้าวนึ่ง คนละ กระติ๊บ ... ชั่วพริบตาเท่านั้นครับ  บนโต๊ะเหลือแต่ความว่างเปล่าครับ  อร่อยทุกจานที่สั่งครับ















                            ใครที่ชอบส้มตำ  และ อาหารสไตลส์แบบอีสานแล้วละก้อ  ไม่ควรพลาดร้านนี้โดยเด็ดขาดครับ  ...  " ส้มตำหลวงพระบาง "   ที่ตำบล ป่าตัน  อำเภอเมือง  เชียงใหม่ครับ ลองแวะไปลิ้มรสกันดูนะครับ

พิกัด GPS  : 18.81321,99.001562 (แผนที่จาก Google Map)
โทร   :  053-211-670
เวลาเปิด-ปิด  :  10:00 น. – 22:00 น.

ป๋าปึกส์
9/1/2556

ขอแนะนำ ร้านโปรดของผู้เขียน
 : http://restaurantaroi.blogspot.com/2010/11/tengoku-1.html
 : http://restaurantaroi.blogspot.com/2010/11/tengoku-2.html
 : http://restaurantaroi.blogspot.com/2011/05/tengoku-de-cuisine.html


ติดตาม คอลัมน์ แนะนำร้านอาหารอร่อย โดย ป๋าปึกส์ ได้ทุกวันใน  Facebook
ได้ที่  : http://www.facebook.com/SuebsaengSun


วันศุกร์ที่ 4 มกราคม พ.ศ. 2556

ข้าวมันไก่ เอื้องคำ ... ย่านบวกครกหลวง ... เชียงใหม่

ข้าวมันไก่  " เอื้องคำ "   ... ย่านบวกครกหลวง  ปากซอย ดาราเทวี  ... เชียงใหม่



                               ร้านนี้เป็นร้านแรกของปี  2556  ที่เขียนแนะนำครับ  ...  ไม่ใช่ร้านใหม่ ที่เพิ่งเปิดขายนะครับ  ...   ร้านนี้เป็นร้านที่เปิดมานานกว่า  15 ปีแล้วครับ   แต่เพิ่งย้ายร้าน จากที่เดิมที่อยู่มา  เป็นการย้ายร้านเป็นแห่งที่  3  ในรอบ  15 ปีแล้วครับ 
                               อาจจะไม่แปลกสำหรับคนที่ไม่สังเกตุ  แต่สำหรับผมแล้ว  ผมชอบศึกษาวิธีการ และ เทคนิค แปลกๆของร้านอาหารเก่าแก่ หลายๆร้าน ที่เค้าทำอะไรๆ  ที่เป็นเรื่องยาก ให้เป็นเรื่องง่ายๆได้ แบบธรรมดาๆ ที่สุดครับ
                               เท่าที่เห็นการ   " ย้ายร้าน "     ของร้านอาหารในปัจจุบัน หลายๆร้าน หลายๆเมือง ไม่ว่าจังหวัดไหนของประเทศไทยก็ตาม     " การย้ายที่ตั้งร้าน ค่อนข้าง สุ่มเสี่ยง  กับการหายไปของลูกค้า ซะเหลือเกินครับ "     ...  แต่ร้านนี้ เป็นร้านที่ผมทานประจำมาตั้งแต่  สมัยที่อยู่ใกล้ ธนาคารออมสิน  ที่อยู่แถวสี่แยกหนองประทีป ต้นถนน เชียงใหม่ - สันกำแพง ... แล้วย้ายมา  อยู่ ตึกแถว ใกล้ๆร้าน  ก๋วยเตี๋ยวเนื้อ นครปฐมโอชา เลยที่ตั้งร้านเดิม มาประมาณ 500 เมตร ...  เมื่อไม่นานมานี้ ไม่ถึง  6  เดือนที่ผ่านมานี่เองครับ  ย้ายถอยหลังเข้ามาในย่าน บวกครกหลวง  เลยร้านที่เพิ่งย้ายมา อีก 500 เมตรครับ  ....  ย้ายมา 3 แห่ง โดยลูกค้าไม่ตก และ ตามมาทานเนืองแน่น กว่าเดิมซะอีกครับ ....  ต้องศึกษากันเลยหละครับ  















                                  ปัจจุบัน ร้านข้าวมันไก่ เอื้องคำ  ตั้งอยู่ในตึกแถว แถวปากซอย ทางเข้า วัดบวกครกหลวง และ โรงแรมดาราเทวีครับ  บนถนน เชียงใหม่ - สันกำแพง  ห่างจากแยกหนองประทีป (แยก Makro)  มาประมาณ  1,300  เมตรครับ  ถ้าเข้ามาทางสี่แยกหนองประทีป ร้านนี้จะอยู่ขวามือ ครับ
                                  " เอื้องคำ "  เป็นร้านข้าวมันไก่แบบไทยๆ ครับ ... ที่กล่าวว่าแบบไทยๆก็คือ  ลักษณะของ ไก่ตอน  ที่ร้านนี้ทำ  จะไม่มัน และเหลืองสวยแบบ สไตลส์ ไหหลำ  เหมือนหลายๆร้านที่ผมชอบทาน  ...  ที่นี่จะต้มไก่แบบธรรมดาๆ ทั่วไปแต่ก็มีข้อดี  สำหรับ คน วัยฉกรรจ์ ที่ ฟันฟางไม่ค่อยดีอย่างผมเลยครับ  เนื้อไก่นุ่ม เคี้ยวง่าย ..  หาก ชอบไก่ตอน แบบ หนืดเหนียวเด้งดึ๋ง แบบไหหลำละก้อ สั่งส่วนที่เป็น สะโพก หรือ น่อง ก็พอได้อารมณ์ แบบไหหลำ  เหมือนกันครับ ...  ส่วนน้ำจิ้ม  ไม่ต้องบ่น  ไม่ต้องคอมเพลน เลยครับ   เพราะที่นี้เค้าเตรียม  ส่วนประกอบของน้ำจิ้มให้คุณ ปรุงรสชาติกันเองเลยครับ ..  โดยทางร้านเตรียม  เต้าเจี้ยวปรุงรส ไว้ให้ในเครื่องพวง และ ประกอบด้วย  พริกขี้หนู , ขิง , ซีอิ้วดำ  ให้ลูกค้าได้ปรุงแตงรสชาติ กันตามชอบใจตัวเองเลยครับ














                                 นอกจาก ไก่ตอน ไก่ต้ม  แล้ว ... ก็ยังมี ไก่ทอด  ที่ช่างเข้ากับข้าวมัน  ร้านนี้ซะเหลือเกินครับ  ข้าวมันที่นี่ ผมก็ชอบครับ  ตรงที่  ไม่มันมากเกินไปครับ  ...  ส่วน ไก่ทอด ก็มีให้เลือกหลายส่วนเหมือนไก่ตอนครับ  จะเลือกเอา สะโพก , หน้าอก , ขา  ก็เลือกกันตามชอบเลยครับ  ..  ส่วน น้ำจิ้มไก่ทอด  รสชาติก็กลมกล่อมดีครับ ....
                                 แต่ทีเด็ดที่สุดของร้านนี้ซิครับ ... ทีเด็ดอยู่ที่   " น้ำซุป "   ครับ ... ใหญ่โต สะใจดีครับ  ... ไม่ต้องมาขอซ้ำ ขอซาก ให้รำคาญใจครับ  ...  เวลาผมไปทาน  ร้านไหน ร้านไหน  ก็ต้องขอ น้ำซุป เพิ่มอยู่เรื่อยครับ  ผมเป็นคนชอบซดน้ำซุป ในร้านข้าวมันไก่มากครับ   เวลาไปทานข้าวมันไก่ ไม่ว่าร้านไหน ก็มักจะให้น้ำซุปมา ถ้วยใหญ่กว่าถ้วยน้ำจิ้ม นิดเดียวครับ ...  บางครั้งผมขอเพิ่ม 4-5 ถ้วย จนเด็กในร้าน เริ่มหงุดหงิด ทีเดียวเชียวครับ  ...  แต่ที่  " เอื้องคำ "  ให้  น้ำซุปแบบ สะใจผมจริงๆครับ  เต็มชามก๋วยเตี๋ยวใหญ่ๆ เลยหละครับ  ...  เป็น น้ำซุปต้มโครงไก่ ใส่ฟักเขียว อร่อยกลมกล่อม เลยครับ  (นึกถึง ต้มฟัก โครงไก่ ของอาจารย์ของผม อย่าง ท่านสมัคร ทุกครั้งที่มาทานร้านนี้เลยครับ)

 











                                " เอื้องคำ "   อาจจะไม่ถูกใจ  คนที่ชอบ ข้าวมันไก่แบบไหหลำ  ... แต่เป็นข้าวมันไก่  ที่อร่อยไม่แพ้ใครเลยหละครับ  ...   ผ่านมาเส้น  เชียงใหม่ - สำกำแพง  ละก้อ ... ลองแวะมาชิมกันซิครับ  เข้ามาทาง แยกหนองประทีป  1,300 เมตร จากสี่แยก  อยู่ฝั่งขวามือ  ตรงข้ามร้านขาย  ปลาสวยงาม  Fish Mania   ...  ก่อนถึงซอยเข้า   โรงแรม  Mandarin Oriental Dhara Dhevi  ..ครับ
                                ผมจำไม่ได้ว่า ร้านปิดวันไหน  เปิดกี่โมง   ลองติดต่อกันเองใน  Facebook  ของร้านนี้นะครับ      http://www.facebook.com/AuangKham

                             

ป๋าปึกส์
4/1/2556

 ขอแนะนำ ร้านโปรดของผู้เขียน
 : http://restaurantaroi.blogspot.com/2010/11/tengoku-1.html
 : http://restaurantaroi.blogspot.com/2010/11/tengoku-2.html
 : http://restaurantaroi.blogspot.com/2011/05/tengoku-de-cuisine.html