Translate

วันพฤหัสบดีที่ 25 กรกฎาคม พ.ศ. 2556

เป็ดพะโล้ บ้านยวม ... ต้นถนน สันกำแพงตัดใหม่ ... เชียงใหม่

เป็ดพะโล้ บ้านยวม  ...  ต้นถนน สันกำแพงตัดใหม่  ...  เชียงใหม่



ช่วงนี้ผมใช้เส้นทาง    " ถนนสันกำแพงตัดใหม่ "   เกือบทุกวันเลยครับ
สำหรับ ใครที่ไม่ได้เป็นชาวเมืองเชียงใหม่  อาจจะไม่ทราบว่า สันกำแพงตัดใหม่ คือ ถนนเส้นไหน
ขออธิบายง่ายๆ นะครับ ...  หากเราขับรถ ออกมาจาก สนามบินเชียงใหม่  มาถึงสพานลอย ที่ข้างเส้นทรัลแอร์พอร์ท  ตรงไปนะครับ ผ่านไฟแดง 2 ไฟแดง .. ไปตามถนนมหิดล  .. ตรงข้ามสะพานข้ามแม่น้ำน้ำปิง  ..  ผ่าน สำนักงาน ตำรวจภูธร ภาค5  ..  ข้ามสพานลอย ไปอีก 3-4 สพาน
ข้าม ถนนซุปเปอร์ไฮเวย์ ไป ก็ จะเป็นห้างเปิดใหม่  Promanada  อยู่ ซ้ายมือ
ตรงไปอีกครับ ผ่านไฟเขียวไฟแดง ที่มี อุโมงค์ ลอด  
นั่นแหละครับ ....    ถนนสันกำแพงตัดใหม่ ครับ 
ถนนเส้นนี้มุ่งหน้าไป  น้ำพุร้อนสันกำแพง  ...  ปัจจุบัน ถนนเส้นนี้ ขยายถนน ซะใหญ่โตเลยทีเดียวครับ  การขยายตัวของเมืองเชียงใหม่  มุ่งหน้ามาโซนนี้ เลยครับ  ...  หมู่บ้านจัดสรร , และ ที่อยู่อาศัยนานาประเภท   กำลังเติบโต ตลอด 2 ข้างทาง บน ถนนเส้นนี้  อย่างรวดเร็วมากเลยครับ

มีข่าวลือมากมาย ว่า  บนเส้นทาง ถนนสันกำแพงตัดใหม่ เส้นนี้  
จะเป็นที่ตั้ง   สถานีรถไฟฟ้าความเร็วสูง  และ  สนามบินใหม่ ในอนาคต
ความเจริญ และ การพัฒนา  บนสองฝากถนนเส้นนี้ เลยค่อนข้างจะ คึกคัก กว่าโซนอื่นๆ มากทีเดียวครับ

















ผมขับรถผ่าน ถนนเส้นนี้มานาน ตั้งแต่ยังไม่เจริญขนาดนี้เลยครับ
เผอิญผม มีที่ดิน ที่ทำสวน ปลูกพืช  เพาะเห็ด  ปลูกผักปลอดสารพิษ .. ฯลฯ  อยู่  ในเส้นทางสายนี้ด้วยครับ
จำได้ว่า เมื่อ 2-3 ปีก่อน ผมเคยเห็นมี   เพิงเล็กๆ ขาย  เป็ดพะโล้  และ เหล้าตอง  อยู่ใต้ต้นก้ามปู ..  ฝั่งเดียวกันกับ หมู่บ้านกุลพันธฺ์ 10  ...  ผมขับรถผ่านทุกวัน  แต่ก็ไม่เคยแวะทานซักที
แต่เห็น  รถยนต์จอดเรียงรายเต็มหน้าร้าน  ตั้งแต่  บ่าย 4 โมง  แทบทุกวัน
จนเริ่มรู้สึก ว่า  มีอะไรเริ่มดึงดูด ความสนใจของผม ได้พอสมควรเลยครับ
ผ่านทุกเย็น  ก็เห็นมีคนนั่งล้อมวง  อยู่หน้าร้าน  เป็ดพะโล้ ร้านนี้แทบทุกเย็นครับ
ผมนีกในใจเองว่า   ผู้คนที่แวะมา  คงแค่ มานั่งดื่มเหล้าตอง แล้วทาน เป็ดพะโล้ เป็นกับแกล้ม  เท่านั้นเอง  นั่นแหละครับ
                               
แล้วก็ ลืมร้านนี้ไปเลยครับ
จนมาเห็น  ร้านเป็ดพะโล้  ร้านใหม่  ที่มาเปิดใหม่   อยู่ใกล้ๆ สี่แยกกาดเจริญเจริญ
ร้านกว้างขวางใหญ่โต  กว่าร้านเป็ดพะโล้  ที่เคยเห็น ใต่ต้นก้ามปู
เห็น  รถจอดรถหน้าร้าน กันเยอะมากเลยครับ
ผมก็เลยต้อง ชวนๆ น้องที่ทำงาน คนนึงที่อยู่ย่านนั้น  ไปลองซะเลยครับ
ก่อนไป  ก็ถามน้อง เค้าว่า
" ร้านนี้ขายอะไร (ว๊ะ) คนถึงแน่นเต็มร้านไปหมด "
น้องที่ทำงานผม  จัดแจงโฆษณาชวนเชื่อให้ผมเลยครับ
" ร้านนี้เพิ่งย้ายมาจาก  ใต้ต้นก้ามปู  ตรงต้นถนน  มาอยู่ที่ใหม่  ...  ขายเป็ดพะโล้ เหมือนเดิมครับ  เนื้อนุ่ม มีเครื่องใน ทั้ง ตับ ไส้ กระเพาะ เลือด ม้าม ครบครับ ป๋า "
แถมยังเล่าต่อไปอีกว่า   " ผมแวะทานเป็นประจำ ครับป๋า   ที่สำคัญ มีเหล้าตอง ขายด้วยครับ  ...  เป็นร้านบ้านๆ  ง่ายๆ ราคาถูกมาก   แต่ก็ อร่อยมาก เลยครับ "















ร้านนี้เป็นเพิงธรรมดาๆ แบบบ้านๆ  แต่โปร่ง โล่งสบาย เหมาะกับ คอสุรา ที่ชอบทาน  เป็ดพะโล้ หรือ จะซื้อ ใส่ถุงกลับบ้านก็มีบริการ  แพ็คเป็นถุงๆ ไว้เรียบร้อย  แบบไม่ต้องเสียเวลารอเลยครับ
เรามาถึงร้าน  เร็วหน่อยครับ  เลยจอดรถได้สบายครับ
พอนั่งโต๊ะ  ก็เลยจัดแจงสั่งให้เค้า  จัดเต็ม มาหนึ่งชุดครับ
หายไปแป๊ปเดียว ครับ ยกขบวนอาหารมาเป็นแถวเลยครับ

เป็ดพะโล้   ..........   ตอนสั่ง ผมย้ำว่า  ขอเนื้อเป็ดเยอะๆ  ปีกซัก 2 ชิ้น ก็พอ
สีสัน ของเป็ดพะโล้ น่าทานเลยทีเดียวครับ  ผิวและหนังของเป็ด  ยังคงเป็นรูปสวยอยู่เลยครับ  (ไม่ขาดยุ่ย)
เนื้อเป็ด นุ่ม ดีครับ  ... น้ำราดเป็ด (น้ำพะโล้) รสกลมกลอม เค็มนำหน้าเล็กน้อย มีรสหวานๆ เบาๆ แทรกมาเล็กน้อย  ....  ทางร้าน เค้าแยก น้ำราด ใส่ถ้วยมาให้ด้วยครับ   ...  มีน้ำจิ้มมา สองแบบ ครับ
น้ำจิ้ม อันนึงคล้ายๆพริกน้ำส้มปรุงรส  อีกอันนึงคล้าย น้ำจิ้มซีฟู้ด   ทั้งสองแบบ  ช่างเหมาะกับ การกินที่ มีเครื่องดื่มทีมี  แอลกอฮอล แกล้ม ซะเหลือเกินครับ  (ไม่สงสัยเลยว่า ทำไมถึง มี เคาน์เตอร์เหล้าตอง อยู่ข้างโต๊ะหั่นเป็ดด้วยครับ)

ไส้พะโล้   ..........   ไส้เป็ดล้างมาอย่างดี  ไม่มีกลิ่นสาบในไส้เท่าไหร่ครับ  แต่ถ้าจะไม่ให้มีกลิ่นสาบน้อยๆของเป็ดเลย   ก็คงขาดอรรถรสไปเยอะครับ  ...  ไส้ต้มพะโล้  ต้มมาซะหอมกรุ่น เลยครับ  .. รสชาติกลมกล่อมดีครับ  เอาลงไปแช่ในน้ำจิ้ม ซักพัก ให้น้ำจิ้มเข้าไปในไส้  ...  โอวววววว   อร่อย ก๊าบ ก๊าบ เลยครับ
นี่ถ้าเป็นสมัยก่อน ตอนผมหนุ่มๆ   จานนี้ผมคงสั่งเบิ้ล  แน่ๆเลยครับ  เพราะเป็นของโปรดของผมเลยครับ ...  แต่เดี๋ยวนี้ ฟันฟาง มันแก่ไปตามวัยครับ (อิอิ)   ...  เลยทานไปได้  นิดหน่อยเองครับ  ...  นึกในใจว่า  นี่ถ้ามาตอนผมอยู่ใน  " วัยฉะกัน "    ละก้อ  ....  จะฟาดไส้ อย่างเดียว ให้เรียบ หมดร้านเลยทีเดียว

เครื่องในเป็ด    .........    จานนี้ จัดมาครบครับ  ทั้ง  ตับ .. ม้าม  ..  กึ๋น    ตุ๋นพะโล้ มาจนหอม
ม้ามตุ๋นมาจนนุ่ม  ทานง่ายดีครับ  ...  ทั้งตับ  ทั้งกึ๋นก็อร่อย  เหมาะกับการดื่มแกล้มด้วยเครื่องดื่มเย็นๆ ซะเหลือเกินครับ   ...   ผมก็เลยหันไปบอก นองที่มาด้วยว่า  ช่วงนี้เข้า พรรษา  อย่าทานเหล้ากันเลยนะ  ..  ช่วยสั่ง  เบียร์  มาซัก คนละขวด หน่อยซิ  (5555)

เลือดเป็ดพะโล้   ..........   เลือดสีน้ำตาลเข้ม  หั่นมาเป็นแผ่นหนาซักเซ็นต์นึง ขนาดพอดีคำ  ลอยหน้ามาบนน้ำพะโล้   ...  เอาซ่อมจิ้มวางบาจาน แล้ว ตักน้ำจิ้มสามรส ราดไปซักิด  ...   โอวววววว  ....  ชอบเลยครับ    เลือดเป็ดนุ่มดีจริงๆ ครับ    อร่อยเลยครับ

อีกจานนึงที่ผมเดินไปเห็น  ที่เค้าน์เตอร์   เหล้าตอง น่าทานจนต้องสั่งมาเลยครับ

มะม่วง น้ำจิ้มพริกปลาร้า    ........    มะม่วงเปรี้ยว อมหวาน  กับ น้ำจิ้มที่เด็ดจริงๆ ครับ  คล้ายๆน้ำปลาหวาน   แต่ไม่หวาน เผ็ดเล็กน้อย   ใส่ปลาร้า มาด้วยครับ  ...  อร่อยจนผม ต้อง สั่งใส่ถุงไปฝากลูกน้อง ที่ทำงาน  อีก 2 ถุงเลยครับ  ... จานนี้ อย่าลืมชิม นะครับ


















ร้านนี้เปิด  วัน จันทร์ ถึง เสาร์ ครับ  ..... หยุด ทุกวันอาทิตย์   ครับ
เปิดตั้งแต่ แดดร่มลมตก    ตั้งแต่  4 โมงเย็น  จน  3  ทุ่มครับ       ได้เวลาเลิกงาน  ที่ หนุ่มน้อยพาสาวใหญ่   หนุ่มใหญ่พาสาวน้อย  หลังเลิกงาน ก่อนแยกย้ายกันกลับบ้าน พอดีเลยครับ
ใครต้องการจะซื้อกลับบ้าน    จะโทรไปสั่งแล้วแวะรับ   ก็ได้นะครับ  
ที่      085-0321-335  



แผนที่ร้านอาหารทั้งหมด ที่ ผมเขียนแนะนำไว้ใน   " แนะนำ ร้านอาหารอร่อย โดย ป๋าปึกส์ "
https://mapsengine.google.com/map/edit?authuser=0&hl=en&mid=zi7qOsZPeff0.kmjHpvkh5cmM 




ป๋าปึกส์ 
24/07/2556

ขอแนะนำ ร้านโปรดของผู้เขียน
 : http://restaurantaroi.blogspot.com/2010/11/tengoku-1.html
 : http://restaurantaroi.blogspot.com/2010/11/tengoku-2.html


ติดตาม คอลัมน์ แนะนำร้านอาหารอร่อย โดย ป๋าปึกส์ ได้ทุกวันใน  Facebook
ได้ที่  : http://www.facebook.com/SuebsaengSun










วันเสาร์ที่ 6 กรกฎาคม พ.ศ. 2556

แดนข้าวมันไก่ ... หลัง กาดสามแยก .... เชียงใหม่

แดนข้าวมันไก่  ... หลัง กาดสามแยก  ..  สันทราย  .....  เชียงใหม่  



                               " ข้าวมันไก่ "   ...  หนึ่งในอาหารจานเดียวยอดนิยม  ที่ไม่ค่อยมีปัญหาเกี่ยวกับเรื่อง  ความเชื่อ  หรือ  การนับถือ  หรือ  กลิ่นสาบ ของเนื้อสัตว์  เหมือนเช่น  อาหารเนื้อสัตว์ ประเภทอื่นๆ เช่น  เนื้อหมู  หรือ  เนื้อวัว   .....   ฉะนั้น  คนที่ชอบทาน  ข้าวมันไก่  ก็เลยโชคดีกว่า คนที่ชอบทาน อาหารประเภท เนื้อสัตว์ ชนิดอื่นๆ  ...  จีงสามารถหา ทานได้ ไม่ยาก  ไม่ว่าเวลาที่จะเดินทางไป จังหวัดไหนๆ  ของ ประเทศไทย หรือ  แม้กระทั่ง  ในทวีปเอชีย ของเราเลยก็ว่าได้
                                " ข้าวมันไก่ "   ...  มีถิ่นกำเนิด  และ ได้รับการเผยแพร่  มาจาก    " ชาวจีนหลี "      ชนชาติที่เป็นต้นตำรับ ในการทำข้าวมันไก่     ...   " งง "  หละซิครับ  .....  " ชาวจีนหลี "   ไม่ใช่ใคร หรือ  มนุษย์ต่างดาว ที่ไหนครับ   ....  แท้จริง ก็คือ  ชาวจีนเชื้อสาย  ไหหลำ  หรือ  ไห่หนาน  นั่นเองครับ   ...   ไม่ว่าเวลาที่เราไป  ร้านข้าวมันไก่  ร้านไหน , เมืองไหน , ประเทศไหน   ที่มี   " ไก่ตอนผิวสวยมัน  เนื้อนุ่มและเหนียวกำลังดี "    และ ข้าวมัน ที่หุงแบบไม่มันมากเกินไป  และ รสชาติอร่อย  แล้วละก็   สันนิฐานไปก่อนได้เลยครับ ว่า  เจ้าของร้าน หรือ พ่อครัว ของร้านนั้น  ต้องมีเชื้อสาย ของ  ชาวไหหลำ  แน่นอนครับ


















                              ผมเป็นอีก คนนึงที่ โปรดปราน และ พิศมัย ในการกิน  ข้าวมันไก่  เหมือนหลายๆท่านเช่นกันครับ ...  ถ้าติดตามอ่าน  Blog ของผม มา  มักจะมีหลายๆคน บอกว่า  ผมเขียนแนะนำ ร้านข้าวมันไก่  มากที่สุด  (ถ้าแยกประเภทอาหารที่เขียนนะครับ)  ...  ร้านข้าวมันไก่  ร้านไหนอร่อย ใครแนะนำมา ผมก็จะรีบไปลอง  โดยไม่รอช้าเลยครับ  ...  สำหรับร้านข้าวมันไก่ ที่เขียนแนะนำ ในวันนี้  มีคนแนะนำ  มามากมายครับ   แต่ผมเองก็เพิ่งมีเวลา  ไปชิมมาก็เมื่อเดือนที่แล้ว   นี่เองครับ
                              " แดน ข้าวมันไก่ "  ...  หลัง ตลาดสามแยก (กาดสามแยก)  ที่ สันทราย  ..  อยู่ตรง ใกล้สี่แยก ถนนวงแหวน รอบที่ 1  ...  ที่มีอุโมงค์ลอดถนน  ตัดกับถนน เส้น ดอนสะเก็ด ที่จะเดินทางไป  เชียงราย นั่นเองครับ ...  ร้านนี้ อยู่ในตึกแถวหลังตลาดครับ  มีที่จอดรถ อยู่ด้านหลังตึกแถว และ ข้างตลาดครับ ...  แต่เวลาที่จะไปทานร้านนี้  ขอแนะนำว่า  ควรไปก่อนเที่ยงนะครับ  ...  อย่าไปให้ตรงกับเวลาที่ คนอื่นเค้าทานอาหารกัน เป็นดีที่สุดครับ ... ผู้คนเข้าคิวซื้อกัน ตั้งแต่เช้าเลยครับ  ...  ไม่เกินเที่ยง ก็หมดแล้วครับ .
                               จำได้ว่าตอนผมไปร้านนี้ ครั้งแรก ตอนเที่ยง .. เดินไปหน้าร้าน ก็เห็นป้ายสีแดงเลยครับ  เขียนไว้ตัวโตเลยครับว่า   " หมด "   ครับ ... หลังจากนั้น ก็เลย เลือกเวลาไปตอนที่  ผู้คนจ่ายข้าวของที่ตลาด  และ ทานอาหารเช้าเสร็จแล้วครับ ... ช่วงหลัง  09.30 ก็พอเริ่มนั่ง สบายๆ  กันบ้างแล้วครับ ไม่ต้องรอนาน ครับ  ... แต่ควรไปก่อน  11.30  นะครับ  ...  หากเลยเวลาไปแล้  ก็ค่อนข้างเสี่ยงที่  จะอดทาน   แล้วหละครับ


















ไก่ตอน   ......   ต้มไก่ตอนตัวอ้วนพลีเลยครับ   ...  ที่ร้านนี้  ต้มไก่ ได้ผิวสวยงาม  เนื้อนุ่ม และ เหนียวเท่ากัน ตามแบบฉบับ ไก่ตอน ไหหลำ เลยหละครับ  ...  ผมไม่ได้จำ ราคา ที่ขายเป็นจานๆ แบบข้าวมันไก่ทั่วไป มาให้ครับ  ...  ที่ไม่จำเพราะว่า  ต้องขอบอกว่า  ไก่ตอนร้านนี้  ราคาถูกมาก ครับ  ... ผมว่า ถูกมากที่สุด ร้านนึงของเชียงใหม่  เลยหละครับ  ...  เวลาไปร้านนี้ ทีไร  ผมเลย สั่ง เนื้อสะโพก จานใหญ่ เป็นประจำครับ  ...  ราคาถูกเหลือเชื่อเลยครับ   ลองดูภาพ ด้านบนซิครับ  ไก่จานขนาดนี้ แค่  85 บาท ... ทานกัน 3-4 คนได้เลยทีเดียวครับ

ข้าวมัน   .......   สีขาวสวย  ..  ข้าวเป็นเม็ด .. กลิ่นหอม  ..  และ  ไม่มันมากเกินไปครับ

น้ำจิ้ม  .......   น้ำจิ้ม  ร้านนี้ผมว่า คงถูกใจ คนไทยแน่นอน ครับ  ....  น้ำจิ้มที่ใช้เต้าเจี้ยวเป็นหลัก  ปรุงรสชาติ มาจัดจ้าน  กลมกล่อม  ...  เอาใจ คนไทยเลยหละครับ  ...  ใครที่ชอบจัดจ้านกว่า ที่เค้าปรุงมาให้  ก็มี  พริกขี้หนูตำ กับ ขิงสับ ไว้ให้เติมครับ

น้ำซุป  .......  น้ำซุปต้มไก่ตอน ปรุงรสชาติ  มากลมกล่อมดีครับ  ....  พอซดแล้ว  นึกถึง รสชาติของน้ำซุป ของ ร้านข้าวมันไก่  ร้านไหหลำ  ร้านดังที่ สิงค์โปร์  เลยครับ  (ที่นึกถึงร้านที่ สิงค์โปร์ ก็เพราะน้ำซุปอร่อย รสชาติ คล้ายๆกัน ...  แต่ที่ สิงค์โปร์ เค้าคิดตังค์ ค่าน้ำซุป ด้วยครับ)   ...  น้ำซุป อร่อย และ ทานกี่ถ้วยก็ได้ครับ เค้าไม่คิดตังค์ ครับ  ...  ถ้าได้ใส่ ฟักเขียวซัก ชิ้นสองชิ้น  แบบที่ สิงค์โปร์  แล้วละก็  ...  รับรองว่า  หร๋อยจั่งหู๋  กว่านี้อีกครับ





















                                   แต่ ตอนที่ผม ไปทาน ร้านนี้ครั้งแรก ก็แปลกใจเล็กน้อยครับ  ...  ที่ มองหา หมูสะเต๊ะ ไม่เจอครับ   ...   สังเกตุกันมั้ยครับ  เวลาเราไปทาน ข้าวมันไก่  ไม่ว่าร้านไหน  .. จังหวัดไหน .. ใน ประเทศไทย  บ้านเรา  ...  ร้านข้าวมันไก่ ส่วนใหญ่ มักจะมี   หมูสะเต๊ะ  วางขายกัน อยู่หน้าร้าน เกือบทุกแห่งเลยครับ  ...  แต่  ที่ร้านนี้ ไม่มีครับ  ...  ผมว่า เค้า คงไม่มีเวลามานั่งทำ  หมูสะเต๊ะ  ขายแน่นอน ครับ  ....   ลำพังแค่ขาย   ข้าวมันไก่   อย่างเดียว ก็  แทบแย่แล้วครับ  เห็นสับไก่กันตลอดเวลา แบบไม่ต้องเงยหน้ากันเลครับ  
                                   จุดเด่นที่สุด ของข้าวมันไก่ร้านนี้  คงหนีไม่พ้นเรื่อง  ราคา  ครับ  ...   เมื่อเทียบกันกับ คุณภาพ  รสชาติ  และ ปริมาณ  ของ ไก่ตอน และ ข้าวมัน  ที่ทางร้านขายแล้ว  .....  ต้องบอกว่า ร้านนี้  ราคาย่อมเยาว์ ที่สุดร้านนึงในเมืองเชียงใหม่ เลยหละครับ  ...  สำหรับใคร ที่ยังไม่เคย ไปลองทาน ข้าวมันไก่ตอน ของร้านนี้  ... แนะนำว่า  ต้องลองไปชิมกันดู เลยนะครับ
แต่  ....  ไปช้าละก็  อด หมด ก่อนแน่ๆ ครับ   ร้านนี้เปิดกัน ตั้งแต่เช้ามืด เลยครับ  ....  หมดเมื่อไหร่ก็ปิด เมื่อนั้นครับ ....   แนะนำไม่ควรไป  ช่วงใกล้ๆ เที่ยง นะครับ ....   เพราะ เสี่ยงที่จะหมด อดกิน นะครับ  ...  เวลาที่เหมาะสมที่สุด  ได้ทานแน่ๆ และ ไม่ต้องรอนาน  ก็คงต้องประมาณ   09.30  -  11.30  ครับ




ป๋าปึกส์  
6/07/2556  

ขอแนะนำ ร้านโปรดของผู้เขียน
 : http://restaurantaroi.blogspot.com/2010/11/tengoku-1.html
 : http://restaurantaroi.blogspot.com/2010/11/tengoku-2.html


ติดตาม คอลัมน์ แนะนำร้านอาหารอร่อย โดย ป๋าปึกส์ ได้ทุกวันใน  Facebook
ได้ที่  : http://www.facebook.com/SuebsaengSun


                             

วันพุธที่ 3 กรกฎาคม พ.ศ. 2556

ตำแซ่บเว่อร์ .. หลังกองบิน 41 ... เชียงใหม่

ตำแซ่บเว่อร์   by  พี่แมว  .....   ด้านหลังกองบิน 41 ... แถวกาดต้นพยอม เชียงใหม่



                            คนที่เปิดอ่าน Blog  แนะนำร้านอาหารของผมเป็นประจำ  ... จะสังเกตุได้ว่า  .. โดยปรกติ ผมไม่ค่อยได้เขียนถึง  ร้านอาหาร ที่เป็น  Franchise   (แฟรนไชส์)    หรือ  ร้านอาหาร  ที่มี สาขามากมาย เท่าไหร่เลยครับ ....  ที่เป็นอย่างงั้น  คงเป็นเพราะความตั้งใจ ตั้งแต่ตอนเริ่มเขียน ที่อยากจะสนับสนุน ร้านอาหารเก่าแก่ ที่มีความเป็นเอกลักษณ์ ให้คงอยู่ คู่นักทาน ไปนานๆ  และ ต้องการสนับสนุน ร้านเล็กๆ  ที่อร่อย เพื่อให้คนรู้จักร้านเหล่านี้ มากขึ้น   และ  จะเลือกเขียน เฉพาะ ร้านที่ผมชอบจริงๆ  เท่านั้นครับ
                           ร้านนี้เป็น  หนึ่งในไม่กี่ร้าน ที่ผมเขียน   และมี สาขาหลายๆ แห่ง  ...  แต่ด้วยความที่ ไปติดใจ  ในรสชาติ อาหารของร้านนี้ เข้าจริงๆ  ....  เลยต้องเอามาเล่าสู่กันฟัง ซะหน่อยครับ


  

















                            ร้านนี้ชื่อร้านก็บอกอยู่แล้วครับ  ว่าเค้าขายอะไร   " ตำแซ่บเว่อร์ "   ....  โดยปรกติ ผมก็ไม่ค่อยได้ทานอาหาร ประเภท ส้มตำ และ อาหารอีสาน  เป็นอาหารมื้อเย็นอยู่แล้วครับ  ...  มาเมื่อซัก อาทิตย์ กว่านี่เอง ครับ ... มีพรรคพวก  ที่เค้าจัดการแข่งขัน  มวยไทย วอริเออร์  ที่เชียงใหม่  เค้าขึ้นมาเตรียมตัวจัดการแข่งขัน ที่ สนามกีฬา 700 ปี  ที่เชียงใหม่   นี่แหละครับ  ....เค้าจะไปสังสรรค์เลี้ยงทีมงานที่ขึ้นจัดงาน  ก่อนการแข่งขัน ล่วงหน้า 1 วัน  ....   ก็เลย ชวนผมไปทานอาหารเย็นที่ร้านนี้ ด้วยครับ ...
พอได้ยินเค้าชักชวน ก็ยังย้อนถามกลับไปแบบ งงๆ  อยู่เลยครับ    " ไปทาน ส้มตำ เป็นมื้อเย็น นี่อะน๊ะ ? "   ..  ผมย้อนถามพรรคพวกไปครับ  ...
พรรคพวกหลายคน  ก็เลยตอบกลับมาเลยครับว่า  . " พี่ต้องไปลองเลย  ร้านนี้ เจ๋ง จริงๆ "   ...  เอาหละ ในเมื่อเค้าบอกกันมาขนาดนี้แล้ว    ก็เลยกระโดดขึ้น รถตู้  ตามแห่  คณะ จัดงาน และ นักมวยรุ่นเก๋า อีกหลายๆท่าน อย่างพี่หมู ผุดผาดน้อย วรวุฒิ และ  ดีเซลน้อย  ส.ธนิกุล  (น้องๆ รุ่นใหม่ๆ ไม่ทราบว่า เกิดทันกันรึเปล่า นะครับ)   ตรงไปร้าน ส้มตำ  เลยครับ
                           ร้านนี้หาไม่ยากเลยครับ  ...  ขับรถเข้ากองบิน 41  ทางด้าน สนามบินเชียงใหม่  (ใครไม่มีบัตรผ่านก็  ต้องอ้อมไปเข้าทางด้านหลัง  ตรง  กาดต้นพยอม แล้วกันนะครับ)  ....  พอรถออกจากกองบิน ไม่เกิน 100 เมตร  มองไปทางขวามือ  จะเห็น โครงการ ที่มีอาคารสองชั้น ทรงออกเป็น โคโลเนี่ยล  สร้างใหม่ ที่มีร้านอาหารเยอะแยะไปหมดเลยครับ ...  ด้านหน้า มี ร้านกาแฟ ที่เอา  Contenner  มาซ้อนกันเป็น ร้านกาแฟ เก๋ไก๋ เลยทีเดียวครับ  ...  ขับรถเข้ามาจนเกือบถึง สำนักงานบังคับคดี  ...  ก็เลี้ยวเข้าไปจอด ตรงที่จอดรถ ของโครงการเลยครับ ...  ร้านนี้     " ตำแซ่บเวอร์ "   ตั้งอยู่เป็น ร้านสุดท้ายของตัวอาคาร เลยครับ

















                           พอไปถึงร้าน  มีสมัครพรรคพวกมานั่งรอกันอยู่แล้วพอสมควรเลยครับ  ...  สอดส่ายดูร้าน  ก็ตกแต่งสีสันมันดี ครับ  ... โต๊ะนั่งมีหลายรูปแบบ ครับ ... มีทั้งเป็นโซฟา   ..  มีทั้งเป็นที่นั่งแบบ พับเพียบ แล้วมีหมอนอิง  ... มีทั้งเป็นโต๊ะ  ...  กว้างขวางดีครับ  เปิดแอร์ เย็นฉ่ำ  เหมาะสำหรับ คนที่ดื่มไปด้วย ทานไปด้วยครับ
                           วันนี้ผมไม่ได้สั่งอาหารครับ  ก็มาเป็นแขกเค้านี่ครับ  ...  แต่ที่เค้าสั่งมาก็แทบ ทานจะไม่ไหวอยู่แล้วครับ  มาเต็ม มาครบ เลยครับ  ...  ส้มตำ  สั่งมาซัก  5-6 ประเภท ทั้ง ตำไทย ตำปู  ตำผลไม้  ...  หมูแดดเดียว  ... เนื้อแดดเดียว  ...  สันคอหมูย่าง  ... ตับหวาน ... ซุบหน่อยไม้  ...  ต้มแซ่บ เอ็นแก้ว  ...  ลาบ  ...   ปลา อะไรต่อมิอะไร   ...  ทานกันไม่ครบทุกจานเลยครับ   .โอววว

ส้มตำ  .....  รสจัดจ้าน สมชื่อร้าน ครับ  ...  ใครชอบเผ็ดมาก เผ็ดน้อย  จะใส่ ออพชั่นอะไร ก็สั่งได้หมดครับ  จะเป็นปูดอง  ..  จะเป็นไข่ต้มยางมะตูม  .. จะเป็นปลาร้า  ...  สั่งได้หมดครับ

หมูแดดเดียว   ......   จานนี้ซิครับ  ... ผมทานคำแรก  ถึงกับนิ่งอึ้งไปพักใหญ่เลยครับ  ... พอกัด ได้อารมณ์ของความกรอบเล็กน้อย  ฟันสวยๆของผม ผ่านมันหมูบางๆ  ที่ทอดมาจนกรอบ ซะหอมฉุย .. พอสัมผัส เจอเนื้อหมู  ...  โอววววววววว   แทบอยากจะไปยืนกลาง รันเวย์  ในกองบิน 41 ... แล้วเรียกคนบนเครื่องบิน  ให้ลงกินให้หมดลำ  ด้วยซะ จริงๆ ครับ  ... เนื้อหมูด้านใน นุ่ม มีรสชาติเค็มนิดๆ  นำหน้ามาเลยครับ  ...  อร่อยกลมกล่อม  จนผมต้องหันไปเรียก พรรคพวกบนโต๊ะ  บอกว่า  รีบชิมซะก่อน ก่อนที่ผม จะกวาดหมดจาน  ....   พอพรรคพวก เริ่มชิมกันเท่านั้นแหละครับ  ..  ทุกมุมโต๊ะเรียกเด็กเสิร์ฟ พร้อมกันทันทีครับ   ...  " อีกหนึ่ง " ... " อีกหนึ่ง "  ...  " อีกหนึ่ง "  ... สั่งเพิ่ม กันทุกมุมโต๊ะเลยครับ  .... เบ็ดเสร็จ  ชุดสอง สั่งกันมาอีก 4 ที่  ...  ยังไม่พอครับ  บางสำรับ มีรอบ 3 และ  รอบ 4  ... กันเลยทีเดียวเชียวครับ  .... จานนี้ผมให้ 8 ดาว กับอีก 2 พระจันทร์เลย ครับ .... 555555    (จานนี้อย่าพลาดโดยเด็ดขาด ครับ) 















ตับหวาน  ......   ช่างอร่อยได้ใจ   เพื่อนคนที่นั่ง ข้างๆ  เชื้อสายโคราช ของผมซะจริงๆ ครับ  ... ตับสุกกำลังดีครับ

ซุปหน่อไม้    ......   หน่อไม้ดอง  เส้นกำลังดี  ....  รสชาติกลมกล่อม  จัดจ้าน  แบบ ต้นตำรับ ของ ชาวอีสาน เลยครับ  .

ต้มแซ่บเอ็นแก้ว   .....    เอ็นแก้ว ต้มจนเปื่อยได้ที่  น้ำซุปต้มแซ่บ  แซ่บสมชื่อครับ  ... ซดกลั้วคอ  อร่อยเลิศครับ

ส่วนจานอื่นๆ  ผมไม่ได้ตักซักเท่าไหร่  แต่ยืนยันว่า  แม่ครัวร้านนี้  เด็ดเลยครับ  .... ผมมัวแต่ฟาด ส้มตำ  และ  หมุแดดเดียว (หมูแดดเดียว ผมว่า ผมทานคนเดียวไปซัก จานนึงเต็มๆครับ)   .....   เลยไม่ได้ชิมไปหลายจาน ครับ  .....  คงต้องย้อนกลับไปอีกรอบนึงเร็วๆนี้  แน่นอนครับ
ลองแวะไปชิมกันดูนะครับ  ... เค้าอร่อยจริงครับ  ไม่งั้นคงไม่มี สาขาหลายๆแห่ง ขนาดนี้แน่นอนครับ ... สอบถามเส้นทาง  หรือ โทรจองโต๊ะ  ติดต่อ   " พี่แมว "    เจ้าของร้าน เลยครับ  

โทร   085-355-0882



ป๋าปึกส์
3/07/2556 

ขอแนะนำ ร้านโปรดของผู้เขียน
 : http://restaurantaroi.blogspot.com/2010/11/tengoku-1.html
 : http://restaurantaroi.blogspot.com/2010/11/tengoku-2.html


ติดตาม คอลัมน์ แนะนำร้านอาหารอร่อย โดย ป๋าปึกส์ ได้ทุกวันใน  Facebook
ได้ที่  : http://www.facebook.com/SuebsaengSun