Translate

วันจันทร์ที่ 15 ธันวาคม พ.ศ. 2557

Smoothie Blues ... นิมมานฯ 6 ... CHIANG MAI

Smoothie   Blues  CHIANG MAI   ...  ปากซอย นิมมานฯ 6  ...  เชียงใหม่
ร้านอาหารเช้า อร่อยๆ  ที่ นิมมานฯ

นิมมานฯ  ....   ย่าน  คอนโดโซน  ของ เชียงใหม่
ความนิยมในการเลือกซื้อ ที่อยู่อาศัย ในเมืองเชียงใหม่  เริ่มเปลี่ยนแปลงมาซัก  5-6  ปีที่แล้ว
ผู้คนรุ่นใหม่ ในเมืองเชียงใหม่   เริ่มหันมานิยม ซื้อที่อยู่อาศัย แบบ คอนโดมิเนี่ยมมากขึ้น
น่าจะมาจาก หลายสาเหตุด้วยกันครับ   ทั้ง  ราคาบ้านพร้อมที่ดินเริ่มสูงขึ้น .. บ้านพร้อมที่ดิน เริ่มขยายออกไปนอกเมืองไกลขึ้น   ประกอบกับ  เรื่องของความไม่สดวก ของ ระบบขนส่งสาธารณะ  ทำให้ ต้องใช้เวลาในการเดินทางมากขึ้น
คอนโดมิเนี่ยม  ในตัวเมืองเชียงใหม่  เลยผุดขึ้นมาเป็นดอกเห็ด กันเลยทีเดียวครับ  และ ยังได้รับความนิยมจากทั้งลูกค้าคนไทย และ คนต่างชาติ
โดย เฉพาะ ย่าน ถนน นิมมานเหมินท์  ..  ที่อยู่ท่ามกลางแหล่งบันเทิง , ร้านอาหาร , ร้านกาแฟ  และ ยังอยู่ใกล้มหาวิทยาลัยเชียงใหม่  ...   เท่าที่ผมขับรถผ่านแทบทุกวัน  พอจะเห็นได้ว่า มี คอนโดเกิดขึ้น และ จะเกิดขึ้นไม่ต่ำกว่า  15-20 แห่งใน 2 ปีข้างหน้าแน่นอน ครับ














มีนักธุรกิจรุ่นใหม่ๆ เริ่มมองเห็น ช่องทางในการทำธุรกิจ รองรับ ความต้องการของผู้อยู่อาศัยในย่านนี้ เกิดขึ้นมากมาย ครับ
หนึ่งในธุรกิจนั้น คือ   ...    " ร้านอาหารเช้าครับ "


ร้านอาหารเช้า (หลายร้านเปิดขายทั้งวัน)  อร่อยๆ   ในย่านนี้   เกิดขึ้นหลายร้านเลยทีเดียวครับ
ผมเขียนแนะนำร้านอาหารเช้า ย่านนี้ ไปบ้างแล้ว  ...   วันนี้ จะมาแนะนำ อีกร้านนึงครับ
" Smoothie Blues "     ....    ที่ปากซอย นิมมานฯ 6  ครับ
ร้านอาหารเช้าร้านนี้   เริ่มมีผู้คนคึกคัก กันตั้งแต่เช้าตรู่  กันเลยทีเดียวครับ
เปิดตั้งแต่  07.30 น.     ถึง    21.00 น.
ต้องจัดว่า  ร้านนี้เป็นหนึ่งในร้านอาหารเช้า ที่ขายดีที่สุดร้านนึง ใน ย่านนี้เลยทีเดียวครับ
นอกจากทำเลที่ตั้ง  ที่ทำให้ร้านนี้ขายดีแล้ว   ....   รสชาติอาหารของร้านนี้ ก็ได้รับการยอมรับ   จากลูกค้ามากมายด้วย ครับ

วันนี้เลยมาแนะนำ  เมนูอาหารเช้า เป็น รายเมนู  ที่ผมไปทานบ่อยๆ แล้วกันนะครับ



*****************************************













Egg Benedict   
อาหารเช้า ยอดนิยมของ  Madam Benedict   ที่มีต้นกำเนิด มายาวนานกว่า  100 ปี  ที่ โรงแรม  Waldorf  ใน  New York
Poach egg  หรือ ไข่ดาวน้ำ  .. รองมาด้วย เบคอน ที่ทอดกรอบกรุบ แบบน่าทานยิ่งนัก
รองก้นมาด้วย ขนมปังโฮลด์วีท รูปทรงกลม ที่ปิ้งมาจนสีสวยและกรอบนอกนุ่มใน
ราดหน้ามาด้วย ซ้อส  Hollandaise    ที่ทำมาจาก ไข่แดง , เนย , เกลือ , ไวน์ขาว
เสิร์ฟมาพร้อมกับ มันฝรั่งทอด
พอตัดไข่ดาวน้ำ ที่ภายใน  สุกแบบยางมะตูม  ..  แล้วตัดขนมปังออกแบบพอดีคำ ...  เอาซ้อส Hollandaise  สีเหลืองสวย  ที่ราดหน้ามา  ราดลงบนไข่และ ขนมปังอีกทีนึง
โอววววววว   มาดาม  แท้งกิ้ว เว่ รี่ มัชฉึ

*****************************************















Egg white omelette with chili and tomato + swiss cheese   
ชื่อรายการอาหารจานนี้ ดูยาวดีนะครับ
แต่ชื่ออาหารจานนี้ ก็ อธิบายรายละเอียดได้ครบถ้วนเลยครับ ... ไข่ดาวขาว (ไข่ขาวที่ทอดแบบไข่ดาว)  วางโป๊ะหน้ามาบน มะเขือเทศ , พริกหวาน และ สวิสชีส  รองล่างมาด้วย ขนมปังโฮลด์วีท ปิ้งแผ่นหนา  ...  เคียงข้างมาด้วย สลัด
วัตถุดิบ  คุณภาพดี และ สด ของทั้ง มะเขือเทศ และ พริกหวาน  ช่วยส่งรสชาติ ให้สัมผัสได้ดี กับ ชีส ที่มีรสเค็มในตัว  ตัดด้วยไข่ขาวทอด ที่เหยาะพริกไทไปนิดหน่อย  ทำให้ รสชาติยิ่ง กลมกล่อม ขึ้นไปอีกครับ
จานนี้ทานแล้ว รู้สึกเอาเอง ว่า เฮลท์ตี้ดีครับ  อาจจะเป็นเพราะไข่ขาว ที่วางบน ทำให้เรารู้สึกดี มั้งครับ


******************************************














Panini  Spinach

Panini  ...   ขนมปังแบบหนาของอิตาเลี่ยน  ที่ ชาวอิตาเลี่ยนเลือกมาใช้ทำ แซนวิส
โดยเลือกใช้ ไส้ ที่  แต่ละท้องถิ่นนิยม  ไม่ว่าจะเป็น  เห็ด , ผักขม , ซารามี่  ,  มะเขือเทศ  ,  แฮม  หรือ เบคอน ฯลฯ  ... แล้วเอา ขนมปัง Panini  อีกแผ่นวางประกบด้านบน  แล้ว กดด้วยเครื่องกดที่มีความร้อนสองด้าน
วันนี้ผมสั่ง  Panini  ไส้  Spinach  มาครับ  ...  Spinach  หรือ ผักขมฝรั่ง  ที่สับมาเป็นชิ้นๆ  แล้ว ปรุงรสมาอย่างลงตัว  วางลงกลาง  ขนมปังทั้งบนและล่าง   ...  แล้วเข้าเครื่องกดความร้อน มาจนขนมปังอุ่นกำลังดี
พอยกมาเสิร์ฟ แค่เปิด ขนมปังแผ่นบนออก แล้ว โรยด้วยเกลือ นิดนึง  พริกไท หน่อยนึง  ....   เล่นเอา  เพื่อนชาวอิตาเลี่ยน ที่มาด้วยกัน  ร้องว่า  " หร๋อยจั่งหู๋ "   เลยหละครับ


******************************************













Chicken Avocado Sandwich  
ขนมปัง โฮลด์วีท ที่ปิ้งมากรอบกำลังดี  วางกลางมาด้วย  ผัก , มะเขือเทศ และ อโวคาโด้
รสชาติของผัก กับ มะเขือเทศ  และ อโวคาโด้  .. กลมกล่อมลงตัวดีครับ
อโวคาโด้ ที่มีรสหวานนำเล็กน้อย  กลิ่นหอมเย้ายวน  ตัดกับ รสมะเขือเทศเนื้อ อวบ ๆ  อร่อยเลยครับ


********************************************














Panini  Caprese
 (Tomato + Mozzarella & Basil)
แซนวิส  ย่างด้วยขนมปังแบบอิตาเลี่ยน  ใส่ไส้มาด้วย    Mozzarella Cheese  คุณภาพดี  ,  มะเขือเทศ ชิ้นหนา กรุบ รสอร่อย  และ ใบโหระพาฝรั่ง    เสิร์ฟเคียงข้างมาด้วย สลัด ที่ราด บาซามิควินีก้า
แค่ เปิดหน้าแซนวิส แล้ว เหยาะ  เกลือ กับ พริกไท  เล็กน้อย  ก็อร่อย ด้วยรสของวัตถุดิบดีๆ แล้วเลยครับ


*********************************************

ยังมีอาหารเช้าและกลางวัน และ เย็น  ให้เลือกทานอีกหลากหลายรายการครับ
แต่ผมไปทีไรก็ไปทานตอนเช้าทุกที   เลย แนะนำ เท่าที่ไปทานมานะครับ

ร้านนี้หาไม่ยากครับ   ....   ขับรถเข้ามาทาง ต้นถนน นิมมานฯ  มาจนเกือบกลางซอย  จะเห็นทางแยก ที่ปากซอย 6 (ซอยที่ ทะลุคันคลอง ผ่าน ประเสริฐแลนด์)   อยู่ทางขวามือ  ...  นั่นแหละครับ  ร้านนี้ ตั้งอยู่หัวมุม ปากซอยทางด้านขวามือเลยครับ
32/8  นิมมานเหมินทร์ ซอย 6

เปิดทุกวัน  ตั้งแต่   07.00 น.   ถึง    21.00 น.   ครับ

โทร   053-227-038   หรือ   081-7808-780



แผนที่ ร้านอาหารทั้งหมด ที่ผมเขียนแนะนำไว้ใน   " แนะนำ ร้่านอาหารอร่อย โดย ป๋าปึกส์ "
https://mapsengine.google.com/map/edit?authuser=0&hl=en&mid=zi7qOsZPeff0.kmjHpvkh5cmM




    
ป๋าปึกส์
15/12/2557
ขอแนะนำ ร้านโปรดของผู้เขียน
 : http://restaurantaroi.blogspot.com/2010/11/tengoku-1.html













วันศุกร์ที่ 28 พฤศจิกายน พ.ศ. 2557

ข้าวเกรียบ ปากหม้อ (ลุงจร) ... วัดเกตุ ... เชียงใหม่

ข้าวเกรียบปากหม้อ  ลุงจร   ...  วัดเกตุ  ...  เชียงใหม่


ข้าวเกรียบปากหม้อ  ,  สาคู  และ  ขนมเบื้องญวน  
...  อาหาร  และ ของว่าง  ที่นับวันเริ่มหาทานยากขึ้นทุกวัน    
















ร้านนี้เป็น ร้านเก่าแก่ ที่เปิดขายมาหลายสิบปีแล้วครับ  เป็นร้านดังย่าน วัดเกตุ  ..  ย่านการค้าเก่าแก่ ที่สุดย่านนึง  ที่ ตั้งอยู่ริมแม่น้ำปิง  มาตั้งแต่ สมัยที่มี ชาวต่างชาติ เริ่มเข้ามาค้าขาย และ ประกอบธุรกิจ  ในเมืองเชียงใหม่   ทั้ง  พ่อค้าชาวจีน  ,  พ่อค้าฝรั่ง  ,  พ่อค้าจากอินเดีย  ฯลฯ
ร้านนี้อยู่ใกล้ๆ กับ ร้านก๋วยเตี๋ยวต้มยำ สุโขทัย  ...  ที่ผมไปทานเป็นประจำ  
แทบทุกครั้งที่ไปหาอะไรทานย่านนี้  ผมจะเริ่มต้นด้วยการ ไปทานก๋วยเตี๋ยวก่อน  ..  พอผมทาน ก๋วยเตี๋ยวต้มยำสุโขทัย เสร็จ   ผมก็เดินย้อนขึ้นมาทางวัดเกตุ   อีกไม่ถึง 50 เมตร
ก็จะเห็น ร้านข้าวเกรียบปากหม้อ , สาคู และ ขนมเบื้องญวน  ของว่าง เก่าแก่อีกร้านนึง

ร้านนี้ไม่มีที่นั่งทาน บริการซื้อกลับบ้านเท่านั้นครับ  ..  แต่ตัวร้านใหญ่กว่า ร้านก้วยเตี๋ยวซะอีกครับ   ...   เป็นร้าน  ห้องแถวสองห้อง  สร้างขึ้นมา รุ่นราวคราวเดียวกันกับ ร้านก๋วยเตี๋ยวต้มยำ นั่นแหละครับ

สำหรับใคร  ที่จะมาแวะซื้อ  ข้าวเกรียบปากหม้อ .. สาคู .. ขนมเบื้องญวน   กลับไปทาน ที่บ้าน หรือ ที่ทำงาน  อย่างเดียวโดยไม่ได้แวะกินก่วยเตี๋ยว   ก็ไม่ต้องเข้าไปที่จอดรถ ก็ได้ครับ
ขับรถ  มาที่หน้าร้านขนมเบื้อง  แล้วชลอรถ   เปิดไฟกระพริบ  แล้ว กดแตรเบาๆ   ....   เด็กที่ร้านขนมเบื้อง  ก็จะหันมามองด้วยความชำนาญ
เราแค่ เปิดกระจกรถ ลงซักนิด  แล้วสั่งได้เลย ครับ จะเอาอะไร กี่ชุด ก็สั่งเลยครับ  ..  สั่งเสร็จก็  ชู  ธนบัตร  ใบที่จะจ่าย ให้คนขายดู   ...   เค้าจะได้เตรียมเงินทอนมาให้เลยครับ
แล้วจะมีเด็กของร้าน  วิ่งข้ามถนน มาส่งของพร้อมเงินทอน  ให้ถึงรถเลยครับ















ข้าวเกรียบปากหม้อ  ..........  อาหารว่าง  จานนี้หาทานยากขึ้นทุกวัน ครับ ... ด้วยขั้นตอนวิธีการทำ และ ความนิยม ของว่างและขนม สัญชาติอื่น ของคนรุ่นปัจจุบัน  ...  ทำให้ การทำอาหารว่างแบบเก่าๆ   ตำรับโบราณ ของไทยเรา  เริ่มได้รับความนิยมลดน้อย ลงไปเยอะเลยทีเดียวครับ  ...  ลดลงจนแทบ จะสูญพันธ์ กันเลยทีเดียวครับ
ข้าวเกรียบปากหม้อ เจ้านี้ เค้าใช้   แป้งข้าวเจ้า ที่นวดมาอย่างดี   ...  นึ่งบน ซึ้ง ที่วาง ผ้าขาวบาง ไว้บน หม้อทรงสวย ที่ต้มน้ำไว้บนเตา  
เวลานึ่ง  แป้งที่นวดจนเข้ากัน เริ่มสุกจนเป็นตัว  รูปร่างสวยน่าทานดีจริงๆ ครับ  ...   ที่สำคัญ  แป้งที่นึ่ง ยังคงความเหนียวนิดๆ ขนาดกำลังอร่อยพอดีเลยครับ    ..  สีแป้ง  ใส ปน สีขาวนวล  น่าทานเลยครับ
ยัดไส้   หมูสับ  ..  หัวไชโป๊ว  ..  หอมแดง  ..  ถัวลิสง   ที่ผัดมาได้ รสชาติ กลมกล่อม  ...   มีรสเค็ม นำหน้า เล็กน้อย อร่อยดีครับ
บรรจุในกล่องโฟม   แยกกระเทียมเจียวใส่มาในกล่อง  แถมผักกาดขม และ ผักชี พร้อมพริกขี้หนูสวน อยู่ในกล่องอย่าง ครบครัน ครับ


สาคู   ..........     สาคู  ลูกขนาดกำลังพอดีคำ  ...   นึ่งมาจน สวย   แป้งใส    มองเห็นไส้ตรงกลาง
ไส้ที่มีส่วนผสม  คล้ายกันกับ ข้าวเกรียบปากหม้อ  ก็ผัดมาอร่อยแบบ เข้ากันดีจังเลยครับ  
สาคู  บรรจุมาในกล่องโฟม แบบ ข้าวเกรียบปากหม้อ   แยกกระเทียมเจียวใส่มาในกล่อง   แถมผักกาดขม และ ผักชี พร้อมพริกขี้หนูสวน















ขนมเบื้องญวน   ..........   อีกหนึ่ง อาหารว่าง ที่หาทานยากที่สุดอย่างนึง  ในเชียงใหม่ เลยหละครับ
ผมพอจะเข้าใจได้ว่า  ทำไมจึงหาทานยากครับ
ก็ คงเป็นเพราะขั้นตอนการทำ อาหารจานนี้ ต้องละเอียด และ มีหลายขั้นตอน  จนพ่อค้าแม่ขาย เริ่มมองว่า  ทำยาก และ มีคนรู้จักทานน้อยลงทุกวัน  ..  แถม คนรุ่นใหม่ๆ ก็ แทบจะไม่รู้จัก หรือ เคยลองทาน อาหารจานนี้กันเลย  
แป้งขนมเบื้อง  ที่มีส่วนผสม ของ แป้งข้าวเจ้า .. แป้งถั่วเขียว .. หัวกะทิ .. ขมิ้น .. น้ำปูนใส .. เกลือ   ที่ ต้องนวดคลุกเคล้าจนเข้ากัน  ใช้เวลาพอสมควรเลยทีเดียวครับ
ไส้ที่มี ส่วนผสม ของ   หัวผักกาด  ..  เด้าหู้เหลือง  ..  ถั่วลิสงป่น  ..  กุ้งแห้งบ่น  ..  มะพร้าวขูด
แล้วเอามาผัดกับ รากผักชี  พริกไท ปรุงรสด้วย เกลือ และ น้ำตาล
แป้ง ถูกนำมาทอดด้วยไฟกำลังดี  จน กรุบกรอบ สีเหลืองสวย   ...  ใส่ไส้  ที่ผัดมากลมกล่อมเต็มยศครบเครื่อง   ....   ไส้  รสชาติกลมกล่อม กับ แป้งที่บรรจงนวด และ ทอด มาแบบพิถีพิถัน  ..  ช่างอร่อยลงตัวดี จริงๆ เลยครับ
ขนมเบื้องญวน  บรรจุใส่ถุงแบบ  Take home  ไว้เรียบร้อย  ...   พร้อมให้เราได้ซื้อติดมือ  กลับไปฝากพรรคพวก ที่ไม่ได้มาด้วย
ในถุง  มี  น้ำอะจาด รสดี เปรี้ยว หวาน เค็ม ครบเครื่อง  ใส่มาทั้ง แตงกวาซอย หอมแดง และ พริกชี้ฟ้า  บรรจุใส่ถุง มาเป็นชุด
นอกจากรสชาติ  อร่อยสุดๆ แล้ว
ที่สำคัญที่สุดก็คือ  ราคาแสนถูกจริงๆ ครับ เมื่อเทียบกับ ขั้นตอนการทำ มีค่อนข้างมาก  ...  คุณภาพ ของวัตถุดิบ ที่เลือกใช้  และ รสชาติ ที่อร่อย สุดๆ  ครับ  
ราคาขาย  ขายกันเพียงแค่  กล่องละ 20 บาทเท่านั้น  (ราคาตามวันที่ เขียน)


ลองแวะไปซื้อทาน กันดูนะครับ  ...  เพื่อเป็นการรักษา  อาหารไทยที่ค่อนข้างหาทานยากขึ้นทุกวัน เพื่อให้ อยู่คู่ตำรับอาหารไทย ไปนานแสนนาน ครับ


ย่านแถว วัดเกตุ   ในตอนกลางวัน  ค่อนข้าง  หาที่จอดรถหายาก พอสมควรครับ
แต่เลยไปนิดนึง  ประมาณ  50 เมตร  ในฝั่งตรงข้ามถนน  ..  พอจะหาที่จอดได้บ้าง  ที่ ด้านหน้าวัดเกตุ หรือ  ด้านข้าง  สมาคมศรีคุรุสิงห์สภา (วัดซิกข์)  


แผนที่ ร้านอาหารทั้งหมด ที่ผมเขียนแนะนำไว้ใน   " แนะนำ ร้่านอาหารอร่อย โดย ป๋าปึกส์ "
https://mapsengine.google.com/map/edit?authuser=0&hl=en&mid=zi7qOsZPeff0.kmjHpvkh5cmM




    
ป๋าปึกส์
28/09/2553
ขอแนะนำ ร้านโปรดของผู้เขียน
 : http://restaurantaroi.blogspot.com/2010/11/tengoku-1.html
 : http://restaurantaroi.blogspot.com/2010/11/tengoku-2.html


วันศุกร์ที่ 21 พฤศจิกายน พ.ศ. 2557

4 เมนูเด็ด จาก เชฟกระเหล็ก ... ที่ ลานเบียร์ Central World

 4  เมนูเด็ด จาก เชฟกระเหล็ก  ...  ที่ ลานเบียร์  Central World

เมื่ออาทิตย์ที่แล้ว  ผมลงไปทำธุระที่ กรุงเทพฯ  ....  พอทำธุระเรื่องงานเสร็จ  เพื่อนผม ก็ โทรมาชวน ไปเที่ยว  ลานเบียร์ ที่   Central World  
โดยเพื่อนผม  เน้นย้ำว่า  ...
ต้องไปให้ได้  เพราะมีเมนูเด็ด จากเชฟกระทะเหล็ก อาหารไทย อย่าง   " เชฟชุมพล แจ้งไพร "   ...  เป็นคน  คิดค้นเมนู พร้อมสูตรอาหารจานเด็ด  และ ประดิษฐ์ประดอย  รายการอาหารที่เหมาะกับ การ ทานเป็น  แกล้มเบียร์ ถึง  4 อย่าง ด้วยกัน  เลยทีเดียวครับ
แค่ได้ยิน  ก็ ปฏิเสธ ไม่ลงเลยครับ
















อลังการจริงๆ ครับ  ...   สำหรับลานเบียร์ หน้า  Central World    ปีนี้
ใส่กันแบบ สุดๆ กันเลยทีเดียว ครับ   ...  ทั้งการตกแต่ง  ลานเบียร์ของแต่ละแบรนด์   ...  ทั้ง คอนเสิร์ต ระดับประเทศ   ที่มีให้ชม ตลอดทั้งช่วงเวลาที่เปิด  และ  ทุกวันซะด้วยซิครับ  
แถม  ยังมี  อาหารจานเด็ด  จาก ฝีมือเชฟกระทะเหล็กประเทศไทย   ที่เอามานำเสนอ ในเทศกาลนี้

มาเที่ยวนี้ เพื่อนผม ชวนไปที่  ลานเบียร์ ของ  Chang  ครับ
ใหญ่โตมโหฬาร  จริงๆ ครับ   2  ลาน  2  สไตลส์ ครับ  
มา ทั้งที ก็ต้องไปให้ครบ ครับ  ...  ผมไปกันตั้งแต่ ทุ่มกว่า  ..  เพลิดเพลิน กับ อาหารเด็ดๆ  เบียร์เย็นๆ  ดนตรีเพราะๆ    จนถึงเที่ยงคืน  เลยทีเดียวครับ

เอาละครับ  ... มาเข้าเรื่องอาหาร จานเด็ด   ที่  ลานเบียร์  Chang  ที่  Central World  กันเลยดีกว่า ครับ
ผมได้มีโอกาส ลองชิม ทั้ง 4  รายการเลยครับ


*************************











ไส้อั่วหมูคุโรบุตะ   ..........    จานนี้ตอนที่ เพื่อนผม ไปเดินซื้อมา  ..  ผมยังตัดพ้อเพื่อนผม ไปว่า  " อะไรกัน ผมเพิ่งมาจากเชียงใหม่  ทำไมไม่เอาอย่างอื่นมาให้ทาน "
โอวววววว    ........   ขืนไม่ทาน ละก้อ เสียดายแย่ครับ
ไส้อั่ว  ที่มีหน้าตา ไม่แตกต่างกับ ไส้อั่ว เจ้าดีๆ ในเมืองเชียงใหม่เท่าไหร่ครับ
จานนี้ เสิร์ฟมาในจานด้วย  แคปหมู  และ น้ำพริกหนุ่ม  ...  ครบเครื่องเลยครับ
กลิ่นเครื่องเทศ และ รสชาติของสมุนไพร   ได้รสแบบทางเหนือ  ..  จัดจ้านถูกใจดีครับ
แต่  เจ้าหมู  คุโรบุตะ  นี่ซิครับ   ...   พอมันเข้าไปอยู่ในไส้อั่ว และ คลุกเคล้าด้วยเครื่องเทศ แบบ ไทยๆ แล้ว  มันช่างอร่อยได้ใจ จริงๆครับ
แน่นอนครับ การเลือกใช้ วัตถุดิบ ที่มีคุณภาพ  กับ  รสมือ ระดับ เชฟชุมพล  (เชฟกระทะเหล็ก ประเทศไทย)   ...   จานนี้  บอกได้คำเดียวครับ     " it's must "    เลย ครับ


*************************











ไก่บ้านคั่วเกลือเก้าพริก    ...........    จานนี้ ชื่อเสียงเรียงนาม ดูท่าทางเหมือนว่า  จะเผ็ด จนน้ำตาไหล  ...  แต่ไม่เป็นอย่างที่ผมคิดครับ   ....   เค้าใช้ ไก่บ้านวัยกระเต๊าะ  เนื้อแน่นเปรี๊ยะ  หั่นเป็นชิ้น ขนาดพอดีคำ  คั่วด้วยเกลือ และ พริกถึง 9 ชนิด  และ สมุนไพรไทย
ตอนแรกที่ผมได้ยินว่า พริก 9 ชนิด  ก็ยังหวั่นๆ  กลัวจะเผ็ดแบบทานไม่ได้  เหมือนกันครับ  ..  แต่ด้วยเทคนิค และ ฝีมือของ เชฟ ชุมพล แล้ว ..  เค้าสามารถเรียกเอาจุดเด่นของรสชาติ ของพริกแต่ละชนิดออกมา ผสมผสานได้แบบไร้ที่ติ เลยทีเดียวครับ
ไก่เนื้อหนุบหนับ  กลิ่นพริกและสมุนไพร  อบอวลอยู่ในปาก  ได้อารมณ์ดีครับ  ..  ที่สำคัญ  ไม่เผ็ดอย่างที่ จินตนาการไว้ครับ  ...  รสเผ็ดแบบทาน  แกล้มเบียร์  ได้ สบายๆ  เลยครับ


*************************











น่องเป็ดกงฟิต์ คั่วกลิ้ง 
  ..........   (Southern Dried Curry with Duck Confit)
น่องเป็ดกงฟิตย์  .. อาหารฝรั่งเศส ยอดนิยม ของ แคว้นกาสโคนี่  (Gascony)    ทางตะวันตกเฉียงใต้ของฝรั่งเศส   ...   นำมารังสรรค์ เป็นเมนู ฟิวชั่น ผสมผสาน กับ รสชาติคั่วกลิ้ง  อาหารจานเด็ด ใน ภาคใต้ประเทศไทย   ...  เสิร์ฟ มาพร้อม ข้าวกล้องอย่างดี
น่องเป็ดกงฟิต์  ...  กรอบนอกนุ่มใน  รสชาติ ไม่แตกต่างกันกับ น่องเป็ด ในร้านอาหารฝรั่งเศสดีๆ เลยครับ    วางหน้ามาบนน่องเป็ด  คั่วกลิ้ง
ตักทานพร้อมกัน   รสชาติของน่องเป็ด เข้ากัน แบบไม่น่าเชื่อ กับ คั่วกลิ้ง เลยทีเดียวครับ  ...  จานนี้ ทานคู่กับ  เบียร์เย็นๆ  ...  อืมมมมม  ...  สะใจจริงๆ ครับ


**************************













น่องแกะตุ๋นเบียร์  
...........    (Slow Braised Leg of Lamp  with Chang Beer and Aromatic Herbs)
น่องแกะ  ที่ ตุ๋นด้วย  น้ำสต๊อคผัก และ เบียร์สด  ..  ตุ๋น แบบ เร่งไฟจนเดือด แล้ว ลดไฟ ให้ลงแบบ เดือดเบาๆ  ...  ต้องใช้เวลาตุ๋น ข้ามคืน นานถึง  12  ชั่วโมงกันเลยทีเดียว ครับ  
แน่นอน ครับ  รสชาติ  ความนุ่มนวล  กลิ่นเครื่องเทศ  อบอวลอยู่ใน ทุกอนู ของ เนื้อน่อง กันเลยทีเดียวครับ
จานนี้ เคียงคู่ มาพร้อม มันบด  ..  และ ราดมาด้วย  เกรวี่  รสเด็ด


**************************


4  จานเด็ด  นี้   ....   กับ  เบียร์เย็นๆ  ...   ดนตรี เพราะๆ  ....   ราคาแบบหาที่ไหน ในเมืองหลวง  ไม่ได้อีกแล้วครับ   .......     ทั้งหมด  อยู่ที่  ลานเบียร์ ทั้ง  4  แห่ง  ครับ

ที่ หน้า    Central World   2  แห่ง   (ลานช้างพาร์ค และ ลานช้าง คราฟต์ ซีเลคชั่น)  
ที่  ลานช้าง พาร์ค  เอเชียทีค
ที่  ลานช้าง คราฟต์ ซีเลคชั่น  สาทรสแควร์

ลานเบียร์  Chang   ....  เปิดตั้งแต่  วันนี้  จนถึง   31 ธันวาคม 2557    นะครับ

ใครอยู่กรุงเทพฯ  หรือ  เข้าไปเที่ยวกรุงเทพฯ หน้าหนาวนี้   ลอง ไปชิม รสมือ ของ เชฟ ชุมพล  (เชฟกระทะเหล็ก ประเทศไทย)   ที่  ลานเบียร์ช้าง  ได้ทั้ง  4  แห่ง  เลยครับ




ป๋าปึกส์
21/11/2557


ขอแนะนำ ร้านโปรดของผู้เขียน
 : http://restaurantaroi.blogspot.com/2010/11/tengoku-1.html
 : http://restaurantaroi.blogspot.com/2010/11/tengoku-2.html
 : http://restaurantaroi.blogspot.com/2011/05/tengoku-de-cuisine.html




วันพุธที่ 19 พฤศจิกายน พ.ศ. 2557

เกาเหลาเลือดหมู .. ข้างรั้ว สวนลุม ... กรุงเทพฯ

 เกาเหลาเลือดหมู  ...    ริมรั้ว สวนลุมฯ   ...  กรุงเทพฯ 


ผมเชื่อว่า  ...  คนที่ ไปออกกำลังกาย ตอนเช้า เป็นประจำ ที่ สวนลุมพินี  คง คุ้นเคยกับ ร้านนี้ดี  นะครับ
ผมไปทาน  ร้านนี้ ครั้งแรก ก็ เมื่อประมาณ  20 กว่าปีที่แล้วเลยครับ
ไปตั้งแต่   สมัย ที่ ซอยสารสิน  ที่อยู่ข้างสวนลุม   ด้านซอยหลังสวน  ยังเป็น แหล่งบันเทิง สุดยอดนิยมของ ชาวกรุง  ในช่วงนั้นอยู่เลยครับ
ในยุคนั้น ต้องถือว่า     Pub ,  ร้านอาหาร , Bar  ในย่านนี้  ได้รับความนิยมเป็นที่สุด แล้วครับ
โดยเฉพาะ  ที่  Brown  Sugar   ที่พวกผม ไปนั่งประจำ กันแทบทุกคืน เลยทีเดียวครับ
ที่เอ่ย ถึง  Brown Sugar  ก็ เพราะ
ร้านเกาเหลาเลือดหมู   เจ้านี้  อยู่เยื้องๆ  Brown Sugar  นั่นเองครับ
เกาเหลาเลือดหมู ร้านนี้  เปิดมาน่าจะถึง 30 ปีได้แล้วครับ
ตั้งอยู่ริมรั้ว สวนลุม  .. ระหว่างต้นก้ามปูยักษ์  2  ต้น  ..   ที่สังเกตุได้อีกอย่างนึง ก็คือ  มีร้านน้ำส้มคั้นสดๆ  ที่เปิดเคียงคู่กันมา ตังแต่เริ่มต้นเลยครับ   .















สวนลุม  เป็น ที่ที่มีผู้คน ไปออกกำลังกาย ตอนเช้าเยอะที่สุด มาตั้งแต่ เปิดสวนลุม ให้ผู้คนออกกำลังกาย ในตอนเช้า  ตั้งแต่ เมื่อประมาณ  30 กว่าปีแล้วครับ
สมัยก่อน  จะมีการจับกลุ่มกันเป็น ชมรม หลายๆชมรม  ...   มีทั้งการออกกำลังกาย แบบร้านรำมวยจีน แบบไทเก็ก  ,  ชมรมวิ่ง  ,  ชมรมเดินเร็ว  ,  ชมรมโยคะ  ฯลฯ
โดยมาก ก็มาออกกำลังกันตั้งแต่ ประตูสวนลุม เปิดตั้งแต่ พระอาทิตย์ ยังไม่ขึ้นเลยครับ
ออกกำลังกันเสร็จ  ก็ จับกลุ่มนั่งเสาวนากันบ้าง   ดื่มน้ำชากัน บ้าง  ....   บ้างก็เตรียม ข้าวของ ใส่ภาชนะ มาร่วมทานกันเป็น กลุ่มๆ
แต่   สำหรับ คนที่ออกกำลังกายแล้ว ไม่ได้เตรียมอะไรมาทานตอนเช้า ก็จะมาทางประตู ทางด้าน ซอย สารสิน นี่แหละครับ
ออกจากประตูสวนลุม ด้านนี้ เลี้ยวซ้าย  ....  ก็ จะเจออาหารการกิน เกือบครบทุกชนิดและประเภทเลยครับ
มีตั้งแต่อาหารสด  ,  ปลาสด , ผักสด , เนื้อหมูสด ,  ผลไม้  และ ร้านอาหารเรียงรายให้เลือกมากมายครับ  ...  โดยเฉพาะ อาหารที่เป็นที่ นิยมทาน ของ ชาวไทยเชื้อสายจีน ครับ

" อยู่ตรงนี้ ไม่อร่อย อยู่ไม่ได้ครับ "
เพราะ ในยุคแรกๆ ของการออกกำลังกายที่ สวนลุม  .. สมาชิกที่มาออกกำลังกายทั้งหลาย ส่วนใหญ่ เป็น พ่อค้า , เจ้าของกิจการ  เชื้อสายจีน ซะเป็น ส่วนใหญ่ และ แต่ละท่าน ก็เป็น นักทานตัวยง   ทั้งนั้นครับ
ถ้าเราดู ประเภทอาหาร ที่ ตั้งรถริมรั้ว ด้านนี้แล้ว จะสังเกตุได้ว่า  เอาใจกลุ่มลูกค้ากลุ่มใหญ่กลุ่มนี้เลยครับ  ....  มีทั้ง   ร้านเกาเหลาเลือดหมู  ,  ร้านข้าวต้มกุ๊ย (ข้าวต้มกับ)  ,  ร้านข้าวต้มเครื่อง (ข้าวต้มปลา)  ,  ร้านกระเพาะปลา  ,  ร้านรังนก  ,  ร้านข้าวแกง , ร้านกาแฟ , ร้านน้ำผลไม้  ,  ร้านขายของ ฯลฯ
เอาเป็นว่า  แทบจะยก เยาวราช  มาตั้งไว้ที่นี่เลยทีเดียวครับ















มาถึง    " ร้าน  เกาเหลา เลือดหมู "      ร้านโปรด ร้านนี้ของผมดีกว่า ครับ

จุดเด่นของ เด่น ของเกาเหลาเลือดหมู  ร้านนี้ มีดังนี้ ครับ

เครื่องใน   .........  ไม่ว่า จะเป็น   เซี่ยงจี๊ , ไส้ , กระเพาะ , หัวใจ  ฯลฯ   ...  สด ไม่มีกลิ่นคาวเลยแม้แต่น้อย เลยครับ  
ด้วยการล้างแบบ   " ไหลน้ำ "     แบบ พ่อครัวเชื้อสายจีน  ที่่ทำกันมาตั้งแต่อดีต  และ ถ่ายทอดกัน  รุ่นสู่รุ่น  ช่วย  ทำให้ เครื่องในร้านนี้  สดและอร่อย ขึ้นอีกเยอะเลยครับ

ใบตำลึง   ..........   ร้านเกาเหลาเลือดหมู ในยุคนี้  ....  หลายๆเจ้า มักหันมาใช้   " จิงจูไฉ่ "    สมุนไพรจีน ที่กำลังนิยมกัน
แต่เจ้านี้  ที่เค้าเปิดมากว่า 30 ปี  ...  ก็ยังคงใช้  " ใบตำลึง "   มาตลอดครับ
ไม่ว่า ตลาดจะนิยมยังไง  ...   แต่ผมเองก็ยังชอบ  เกาเหลาเลือดหมู ที่ใส่  ใบตำลึง  มากกว่าครับ  ..  ชอบจนต้องสั่งเพิ่ม ออฟชั่น ด้วยการ เบิ้ลใบตำลึง ทุกครั้งที่ไป ครับ

น้ำซุป   ..........   น้ำต้มกระดูก  ที่ใส่เครื่องยาจีน  หอมฉุย  เคี่ยวไฟอ่อนๆ  มา  จนน้ำซุป ออกรสหวานอ่อนๆ ของ น้ำต้มกระดูก  ...    น้ำซุปร้านนี้  ผมชอบตรงที่เค้าใส่พริกไท  ได้แบบ สะใจ ผมจริงๆครับ

น้ำส้มพริกตำ   ..........   พริกน้ำส้ม หรือ น้ำส้มพริกตำ  นี่แหละครับ  เป็นองค์ประกอบ ของ เกาเหลาเลือดหมู ที่ ละเลยไม่ได้เลยครับ  ..  พริกแดง ทั้ง ขี้หนูและชี้ฟ้า  มีกลิ่นกระเทียมและหอมแดงเล็กน้อย   (เจ้าของร้าน เค้าไม่ยอมบอกสูตรครับ  ผมเดาเอาเองครับ)   ...  น้ำส้มพริกตำที่นี่ นี่แหละครับ ที่ช่วยขับความอร่อยให้อร่อยเพิ่มขึ้นอีกมากโข เลยครับ  ...  ที่สำคัญ ร้านนี้เค้าเลือกใช้ เครื่องปรุงอย่างดีหมดครับ  ไม่ว่าจะเป็น น้ำปลา หรือ ซีอิ๊วขาวครับ

และ  ที่เด่นที่สุด  ก็คือ  วิธีการ ลวก เกาเหลาเลือดหมู   ของร้านนี้ครับ  หลายๆร้าน พอขายดีแล้ว  มักจะลวกโน่น ลวกนี่ ไว้ล่วงหน้า แล้วแช่น้ำไว้  พอจะขายถึงเอามาลวกน้ำร้อน แล้วตักน้ำซุป ราดลงไป แล้วก็เสิร์ฟ
แต่  .....   ร้านนี้ไม่ใช่ครับ
ที่นี่เค้าจะ หั่นทุกส่วนที่ขาย  สดๆ ไว้ในชามสแตนเลส แยกประเภทไว้แต่ละชนิด
พอเราสั่ง แบบ วุ่นวายตามใจเราแล้ว   (บางคน ก็ไม่ใส่โน่น ไม่เอานี่  5555)   ....  เค้าถึงจะหยิบเอา เครื่องใน หรือ สิ่งที่เราสั่งทั้งหมด  ..  ใส่ลงในหม้อน้ำซุปใบเล็ก  ที่ทำ ชามต่อชาม
ข้อดีก็คือ   น้ำ และ รสชาติ จากวัตถุดิบ ยังอยู่ใน ชามเกาเหลา ของเราครับ

เอาหละครับ  ...  ผมเขียนเอง  ยังหิวเองเลยครับ
เกาเหลา  ใส่ เซี่ยงจี๊  ตับ  หมูสับ  และ เลือดเยอะ ซักชามมั้ยครับ
อีกทีนึงครับ   ...   ร้านนี้อยู่ ริมรั้ว สวนลุมฯ  ด้านซอยสารสิน
อยู่ระหว่าง ต้นก้ามปูใหญ่ 2 ต้น  .. และ  อยู่เยื้องๆ  ร้าน  Brown Sugar  เดิม ครับ
ลองไปชิมกันดู นะครับ





แผนที่ร้านอาหาร ทั้งหมดที่ผมเขียนแนะนำ ไว้ใน   " แนะนำ ร้านอาหารอร่อย โดยป๋าปึกส์ "
https://mapsengine.google.com/map/edit?authuser=0&hl=en&mid=zi7qOsZPeff0.kmjHpvkh5cmM



ป๋าปึกส์
19/11/2557
ขอแนะนำ ร้านโปรดของผู้เขียน
 : http://restaurantaroi.blogspot.com/2010/11/tengoku-1.html
 : http://restaurantaroi.blogspot.com/2010/11/tengoku-2.html
 : http://restaurantaroi.blogspot.com/2011/05/tengoku-de-cuisine.html

ติดตาม คอลัมน์ แนะนำร้านอาหารอร่อย โดย ป๋าปึกส์ ได้ทุกวันใน  Facebook


ได้ที่  : http://www.facebook.com/SuebsaengSun







วันจันทร์ที่ 17 พฤศจิกายน พ.ศ. 2557

Danisa .. Bakery and Cafe .. เชียงใหม่

Danisa  ..   Bakery and Cafe  ..  ถนน ราชพฤกษ์  ..  หางดง  ...  เชียงใหม่ 















หากเราขับรถ เลียบคลอง ชลประทาน จาก มหาวิทยาลัยเชียงใหม่  มุ่งหน้า ไปทาง หางดง และ เสมิง  ..  พอจะถึง ไฟแดงแยก   อุทยานหลวง ราชพฤกษ์  หรือ  ทางเข้า  Night Safari  ก็ ชิดซ้ายเลยครับ
แล้วเลี้ยวซ้าย  มาประมาณ กิโลกว่าๆ  เลย  ร้านอาหารไทย  หรือ สวนอาหารชื่อดัง  ข้าวเม่า-ข้าวฟ่าง   มานิดเดียวครับ   ...   ร้านนี้อยู่ฝั่งซ้ายมือ (ถ้ามุ่งหน้ามาทาง ถนนด้าน หางดง)
เป็นร้านเล็กๆ   ..  บรรยกาศร่มรื่น  น่ารักดีครับ

และ  ...  หากได้ รู้เรื่องราว  ของ ร้านนี้ บ้าง ...   ผมเชื่อว่า  หลายๆคน  คงจะต้อง รีบไปลอง เลยหละครับ

ถ้าเอ่ย ถึง   Mango Cheese Cake   ที่ ร้าน  Upper Crust  ที่ ข้างสถานี รถไฟ เชียงใหม่  ..  ผมเชื่อว่า  นักทาน ขนม น่าจะคุ้นเคยเป็นอย่างยิ่งครับ
หรือ  ถ้าไปไกล  อีกนิด  ..  บินข้ามไป ประเทศ ลาว  ที่ เมืองหลวงพระบาง  ...  เมืองท่องเที่ยว อัน คลาสสิค ของประเทศลาว  ..  ผมว่า  คงไม่มีใคร  พลาด  ร้าน  JOMA   ....  ร้าน กาแฟ  , ขนม  และ อาหารที่ดังที่สุด  ร้านนึงของ ประเทศลาว เลยก็ว่าได้  ครับ

ทั้งสองร้านดัง  ที่ผมกล่าวมาด้านบน  ......   เกี่ยวพัน กับ  ร้านเค้กเล็กๆ  ที่ แนะนำใน วันนี้ เลยครับ
ไม่เล่าต่อแล้วครับ   ....  อยากรู้ ก็ ตรงไปร้านนี้  ...  ถามหา พี่ Danisa  ให้พี่เค้าเล่าให้ฟังเอง  สนุกกว่าเยอะครับ















ที่ร้านนี้ ไม่ได้มีเพียงแค่  กาแฟ และ ขนม  เท่านั้นนะครับ  
วันนี้ ผมพา ภรรยา ไปด้วยกัน  ตั้งแต่เช้าเลยครับ  ไปทานอาหารเช้าครับ  ได้รับคำแนะนำ และ ชวนไปทาน  จากน้องสาว คนสวย    (คุณ Nam Barclay)  ที่ต้องไปส่งลูกสาว ใน โรงเรียน อินเตอร์แถวๆนั้น
วันนี้ก็เลย จัดใหญ่ ครับ
เราเริ่มกันด้วย  อาหารเช้า กันก่อนครับ  ....   ผมหิว เลยสั่งของผม (โดยไม่ได้ถาม คนอื่นเลยครับ)  มาทาน 2   อย่างก่อน ครับ

Omelette    ...........   Omelette  สีสวย  รูปทรง สวย และ ดูดี  ...  หลายๆคน มักจะบอกว่า  เวลาดูเผินๆ  มันก็ไม่ได้ต่างกันกับ ไข่เจียว  บ้านเราเท่าไหร่ หรอก  
ต่างครับ   ต่างมากด้วยครับ  ...    พอตัดพอดีคำ  ตักเข้าปากปุ๊บ สัมผัสได้ปั๊บ  เลยครับ
ไข่ที่ด้านนอก  ดูเหมือนสุกจนเกรียม  ...   แต่ด้านใน สุกขาวนวล สีกำลังสวยเลยครับ
สัมผัสได้ถึง  รสชาติ ของ ชีส  กลมกล่อม  และ  ไม่มากจนทำให้เลี่ยน
พริกหวาน สีเขียว และ สีแดง  หั่นเป็นชิ้นลูกเต๋า เพิ่มสีสัน ความน่าทาน  ขึ้นมาอีกเยอะเลยครับ   ...  เสิร์ฟมาพร้อม  meat ball     รสกลมกล่อม   ...  แอบมีรสเค็มนำหน้าเล็กน้อย   แทบไม่ต้องปรุงอะไรเลยครับ   เคียงข้างมาด้วย ขนมปังโอลด์หวีต  ที่ทางร้านทำเอง  ...  จานนี้ ต้องลองเลยครับ

----------------------------------------------------------- 

Quiche   ............    คีช  เป็นอาหารว่าง แบบ ฝรั่งเศส  ที่มีรูปร้างหน้าตา  เหมือน พายเปิดหน้า  (ปรกติ พาย ส่วนใหญ่ จะมีแป้งปิดหน้า และ มีไส้นานาชนิดอยู่ด้านใน)
คีช  แบ่งออกเป็น 2 ส่วนครับ   คือ  ฐาน และ ไส้ ครับ  
ฐาน  ... เป็น แป้งที่นวดมาแบบพาย  อบมาจนเหลืองออกน้ำตาง กรอบน่าทานเลยครับ
ไส้  ...  ผมสั่งไส้เป็น ผักขม และ ชีส ครับ
เพียงแค่ตักคำแรกก็   ต้อง ครางเบาๆ เลยครับ  ...  อูวววววว   รสชาติได้ใจ ดีจริงๆ ครับ
สำหรับ  คนที่ไม่คุ้นเคยกับ รสชาติของ ชีส  ก็ลอง ขอ  Tabasco  ซ้อส  มาเหยาะไปซะหน่อย   รับรองว่า   แซ้บอีหลี   ขึ้นมาทันที ครับ   .....   จานนี้ เด็ด ครับ


สองอย่าง นี้ พร้อมกาแฟ ลาเต้  ร้อนๆ  .....   ชื่นใจดีจริงๆ ครับ
หลังจากเริ่มอิ่มท้องแล้ว  ก็ต้องต่อด้วย  ของหวาน จานโปรด ของผมเลยครับ
Mango  Cheese  Cake   ครับ


















Mango Cheese Cake  ...........   ตอนเดิน  เข้ามาในร้าน  ผมก็ไปยืนเล็ง   จานนี้มาตั้งแต่ใน ตู้โชว์ เค้ก แล้วครับ   ....    แค่เห็นสีสัน ก็อยากทานเต็มทนแล้วครับ
พอสั่งมา    ...  ตักเข้าปากคำแรก เท่านั้นครับ  ....  โอววววว   .....  ร้องคราง จนทุกคนหันมามองเลยครับ
รสชาติ ของ ชีส นวลๆ  นุ่มๆ  คล้ายๆ ฟิลลาเดเฟียชีส  ตัดกับ รสชาติของ มะม่วงน้ำดอกไม้  ที่หั่นเป็น ชิ้นเล็ก ชิ้นน้อย  แทรกตัว  อยู่ในเนื้อ ชีส  มีรสเปรี้ยวอมหวาน   ..  บวกกับ  น้ำราด ทีมี รสหวานอมเปรี้ยว  สีเหลืองสวย
โอวววว   ทุกรสชาติ  ทุกสัดส่วน   มันช่าง  ผสมผสานกันลงตัว ดีจริงๆครับ   มีครบทุกรสครับ  ทั้งรสของชีส  ..  รสของมะม่วงน้ำดอก   ซึ่งเปรี้ยวอมหวาน   ช่างตัดกันได้ดีจริงๆครับ   ....  อร่อยสมคำร่ำลือ ครับ 
 จานนี้  ผมทานยังไม่ทันหมด   ก็หันไปบอกน้องพนักงานว่า    ช่วยจัดใส่กล่องให้อีก  2  ชิ้น
จะเอากลับไปแช่ ตู้เย็น ไว้แอบทาน คนเดียวครับ


ร้านนี้อยู่ไม่ไกล ครับ  ...   หากวางแผน จะไป ช้อบปิ้ง แถวๆ บ้านถวาย  หรือ  ไปเที่ยว  สวนราชพฤกษ์  ,  ไนท์ซาฟารี  หรือ จะขึ้นดอยไปทาง อำเภอเสมิง    ....   ลองแวะ ร้านนี้เลยครับ  .. รับรอง อร่อยถูกใจ จริงๆ ครับ


Danisa  
ร้านนี้  อยู่  เลขที่  11/1  ถนน ราชพฤกษ์  ,  ตำบล หนองควาย  ,  อำเภอหางดง  ,  เชียงใหม่
โทร    052-001-120


แผนที่ร้านอาหาร ทั้งหมดที่ผมเขียนแนะนำ ไว้ใน   " แนะนำ ร้านอาหารอร่อย โดยป๋าปึกส์ "
https://mapsengine.google.com/map/edit?authuser=0&hl=en&mid=zi7qOsZPeff0.kmjHpvkh5cmM



ป๋าปึกส์
/2557
ขอแนะนำ ร้านโปรดของผู้เขียน
 : http://restaurantaroi.blogspot.com/2010/11/tengoku-1.html
 : http://restaurantaroi.blogspot.com/2010/11/tengoku-2.html
 : http://restaurantaroi.blogspot.com/2011/05/tengoku-de-cuisine.html

ติดตาม คอลัมน์ แนะนำร้านอาหารอร่อย โดย ป๋าปึกส์ ได้ทุกวันใน  Facebook
ได้ที่  : http://www.facebook.com/SuebsaengSun














วันพฤหัสบดีที่ 16 ตุลาคม พ.ศ. 2557

Indy's Cafe ... ที่หางดง ... เชียงใหม่

Indy's  Cafe   ...  ร้านอาหารฝรั่งเล็ก  รสชาติใหญ่ๆ  ที่หางดง  ...   เชียงใหม่


คำว่า   " อินดี้ "  หรือ  Indy  หรือ  Indies   เป็นคำย่อที่นิยมใช้แทน คำว่า  Independence
ซึ่ง แปลว่า     " อิสระ "
นิยม และ เริ่มเอาคำนี้มาใช้กัน ใน วงการเพลง ในต่างประเทศ  เช่น
Independent music    หมายถึง เพลง และ ดนตรี ที่ไม่ขึ้นกับ ค่ายเพลงหลัก  หรือ อีกนัยหนึ่ง หมายถึง  ค่ายเพลงอิสระ

แต่     " อินดี้ "     ที่ผมจะแนะนำ ในวันนี้  ไม่เกี่ยวกับ ดนตรีครับ   ....   แต่เป็น
ร้านอาหารเล็กๆ  ที่มี  เชฟ   ออกมาจากสังกัดเดิม  ...  มาเปิด ร้านอาหารฝรั่งเล็กๆ  เป็นของตัวเอง ครับ

ร้านนี้ผมได้รับการ แนะนำ และ ชักชวน  จากเพื่อน  (คุณเอก เจ้าของร้านแอนติค ชื่อดัง De Siam)   นักชิมตัวยง ที่ตระเวน ออกหาอะไรอร่อยๆ ทานแบบ ทุกวันเลยทีเดียวครับ  (แก ขี้เกียจทำอาหาร ครับ  555)
เท่าที่ทราบ  เจ้าของร้านนี้ เคยเป็นเชฟในโรงแรม ระดับ 5 ดาว  ที่ ลาออกมาหา ความอิสระ  และ ตามล่า ความฝันของตัวเอง  ...   มาเปิด ร้านอาหารเล็กๆ  ในห้องแถวชั้นเดียว ห้องเดียว  ในย่าน หางดง เมืองเชียงใหม่ นี่เองครับ















ร้านนี้ หาไม่ยากครับ  ถ้าเราเดินทางจากตัวเมืองเชียงใหม่  ไปทาง หางดง  ...  ขับผ่าน แยกวงแหวน  ผ่านทางแยกไป  พืชสวนโลก และ ไนท์ซาฟารี  ...  ขับตรงไป จนเห็น ป้าย ปั๊มน้ำมัน บางจาก (ปั๊มบางจาก มี ปั๊มเดียว บนถนนเส้นนี้ ครับ)  และ ปั๊ม ป.ต.ท.  (สองปั๊มนี้อยู่เกือบติดกันเลยครับ)    ก็ชลอความเร็ว แล้ว ชิดซ้ายเลยครับ  ...  พอสุด ปั๊มบางจาก จะมีซอย อยู่ ระหว่าง ปั๊มน้ำมัน ทั้ง 2 ครับ
เลี้ยวซ้ายเข้าไปเลยครับ  ตรงกลางของซอยนี้ เป็น ลำคลองระบายน้ำเล็กๆ   เข้าไปประมาณ  100 เมตร  จะเห็น ร้านนี้อยู่ทางด้านขวามือ ครับ

ก่อนมา ร้านนี้ผมได้รับการบอกเล่า จากคุณเอกว่า   ...   ร้านอาหารฝรั่งร้านนี้   บาทต่อบาท แล้ว  คุณภาพ รสชาติไม่แพ้ใคร แน่นอน  ....  แค่ฟังคำบอกเล่า เท่านั้นครับ  ผมรีบบึ่งรถ ไปแบบ กลืนน้ำลายไป ขับรถไป กันเลยทีเดียว ครับ

ไปถึง ร้าน  ....  เล็กจริงๆ ตามที่ได้รับการบอกเล่ามาครับ
แต่  ไม่ได้เล็กธรรมดา ๆ   นะครับ  ....  ต้องบอกว่า   " เล็กพริกขี้หนู "   เลยหละครับ
จากห้องแถว ชั้นเดียวเล็กๆ  ธรรมดาๆ  ...  ตกแต่ง ใหม่ จนทำให้ได้ความรู้สึกที่แตกต่าง ไปจาก ร้านในห้องแถว ละแวกเดียวกันอย่างสิ้นเชิงครับ
เหล็ก .. กระจก ..  ไม้  ผสมผสานอย่างลงตัว  ..  เฟอร์นิเจอร์ ง่ายๆ ดิบๆ  แต่มี สไตลส์ ครับ
สรุปว่า  ร้านน่านั่ง กว่าทุกร้านในซอยนี้ กันเลยทีเดียวครับ

ร้านนี้ ได้รับการบอกเล่าจาก คุณเอก  ที่แวะเวียนมาทานเป็นประจำ ว่า  อาหารอาจจะช้าบ้างเล็กน้อย  เพราะเชฟคนเดียว มีแฟนเป็นผู้ช่วยในครัว   มีน้องมาชายมาช่วยบริการในร้าน
ช้าไม่ช้า ผมไม่สนครับ  เพราะเรามาถึงเป็นเจ้าแรก  เลย ร่ายยาว  แบบ  สั่งมาเพี๊ยบ เต็มโต๊ะ  เลยหละครับ















เราสั่งอาหารมาหลาย อย่างด้วยกันครับ   แต่ที่อร่อยจนต้องแนะนำ เลย มีดังนี้ ครับ

Indy  Pizza   .........   โชคดีครับ ที่ยังถ่ายรูปทัน  ..  ตอนยกมา ได้กลิ่นแป้ง ที่ผ่านการ อบ มาจนเกรียม ตามขอบเล็กน้อย  ได้อารมณ์ พิซซ่า แบบ อิตาเลี่ยน ดีครับ
แป้ง  ที่ทำเองนวดเอง  แผ่นบางๆ แต่ กรอบกำลังดี   ....   โรยมาด้วย ชีส ที่ละลายบนความร้อนของแป้ง จนเยิ้ม น่าทานเลยครับ  โรยหน้ามาด้วย  แฮมที่สุกจนเกือบกรอบ  มะเขือเทศ และ ชีสขูดเป็นแผ่น  และ แอบซอยพริกชิ้นเล็กๆ ลงบน พิซซ่า   ....   ได้รสชาติ ได้อารมณ์ดีครับ

Pork  Chop   ..........   โดยปรกติ  ทางร้านจะใช้เนื้อหมู คุโรบุตะ  แต่วันที่ผมไป ปรากฏว่า  คุโรบุตะ หมดครับ  .. เลยเอาหมูอนามัยมาแทน  ....   ไม่ได้แตกต่างกันเลยครับ  ผมว่า กลับได้ความรู้สึกที่ดีกว่าด้วยซ้ำครับ  เพราะเนื้อหมูแน่นกว่า เจ้า คุโรบุตะ ซะอีกครับ  ..  เพราะหมูตรงส่วนนี้ เนื้อมันอร่อยอยู่แล้วครับ  ...  สเต็กหมู ย่างมาแบบสุกกำลังดี  เนื้อด้านใน ยังชุ่มฉ่ำ ไม่แห้ง ครับ
น้ำเกรวี่  หรือ น้ำซ้อส ที่ราดมา ก็อร่อยกลมกล่อมครับ  มี มันฝรั่ง เห็ด วางมาเป็น side dish  อร่อยเข้ากันดีครับ

Spaghetti  Garlic Chilli  Becon ..........   สปาเก็ตตี้  ที่ลวกเส้นมาสุกกำลังดี  ..  ผัดมากับ กระเทียม  พริกแห้ง  และ เบคอน  ....  จัดจานมาสวยน่าทานเลยครับ   โรยหน้า มาด้วย พามาซานชีส ที่ขูดมาเป็นขลุยๆ  น่าทานดีครับ  แถมวางหน้ามาด้วย เบดอน ทอดกรอบ สีสวยแบบรู้ได้้ทันทีว่ากรอบเลยครับ  ....   รสชาติจัดจ้านแต่ไม่เผ็ดมาก เอาเป็นว่า ฝรั่งทานได้สบายๆ เลยครับ
















สเต็กปลา    ..........    ปลากระพงขาว  สดๆ ชิ้นกำลังดี กริลมาแบบหนังสุกเกรียม หอมฉุย  ..  วางมาบนเครื่องเคียงหลากหลาย  ทั้ง อโวคาโด  มันฝรั่ง  ฟักทอง  เห็ด  ....   เข้ากัน และ อร่อยดี ครับ

ยังมี รายการอาหารที่ผมยังไม่ได้ชิม อีกหลายอย่าง  แต่เท่าที่ลองมาทั้งหมด พอจะมั่นใจได้ว่า  อร่อย ไม่แพ้จานต่างๆ ที่ผมลิ้มลอง แน่นอน ครับ
อาหารที่นี่ เวลามีแขกเยอะๆ  อาจจะช้าบ้างนะครับ  อาหารทุกจาน ทำสดๆ จากเชฟ  และ ผู้ช่วยอีกคนเท่านั้นครับ
การตกแต่งจาน   .....   สวยไม่แพ้ ร้านอาหารฝรั่งหรูๆ เลยทีเดียวครับ
ราคา   ........   ราคา นี่ซิครับ   ถูกแบบ แทบไปทานได้ทุกวันเลยหละครับ   ...  ผมเห็นด้วยกับ คุณเอก  (แกพาผมไปเลี้ยง ครับ  .. อิอิ)   ว่า   .......   บาท ต่อ บาท  .. ร้านนี้ ไม่แพ้ใคร ครับ
สนนราคา ถูกมาก ครับ


ติดตาม รายละเอียดของร้านนี้ ได้ทาง  Facebook  ของร้าน ด้านล่าง ครับ
https://www.facebook.com/pages/Indys-Cafe/165164243648519

ร้าน   Indy's Cafe  ...     โทร   090-746-7078   
เปิด   11.00 น.  - 15.00 น.   และ   17.00 น.  -  20.00 น.
ปิดทุกวัน พุธ  ครับ


แผนที่ร้านอาหาร ทั้งหมดที่ผมเขียนแนะนำ ไว้ใน   " แนะนำ ร้านอาหารอร่อย โดยป๋าปึกส์ "
https://mapsengine.google.com/map/edit?authuser=0&hl=en&mid=zi7qOsZPeff0.kmjHpvkh5cmM



ป๋าปึกส์
16/10/2557
ขอแนะนำ ร้านโปรดของผู้เขียน
 : http://restaurantaroi.blogspot.com/2010/11/tengoku-1.html
 : http://restaurantaroi.blogspot.com/2010/11/tengoku-2.html
 : http://restaurantaroi.blogspot.com/2011/05/tengoku-de-cuisine.html

ติดตาม คอลัมน์ แนะนำร้านอาหารอร่อย โดย ป๋าปึกส์ ได้ทุกวันใน  Facebook
ได้ที่  : http://www.facebook.com/SuebsaengSun




วันศุกร์ที่ 3 ตุลาคม พ.ศ. 2557

The Larder Cafe and Bar ... นิมมานฯ ... เชียงใหม่

The Larder  Cafe and Bar  ... นิมมานฯ  ...  เชียงใหม่  













ร้านอาหารร้านนี้  ดูไม่แตกต่างจาก ร้านอาหารเล็กๆ ร้านนึงที่ทำร้านอาหาร  ในตึกแถวห้องเดียวธรรมดาๆ   ในซอย  ย่านนิมมานฯ    ที่ดูเหมือนร้านอาหารทั่วๆไป  แถวๆนี้  เค้านิยมทำกัน

แต่    .....   ต้องเข้าไปในร้าน ครับ
แล้ว  .....   คุณจะเริ่มสัมผัสได้ถึง ความไม่ธรรมดา  ของร้านนี้ทันทีครับ
ตรง   .....   ตามสเป๊ค การทำร้านอาหาร  ที่ผมชอบ ทั้ง 5 ข้อเลยครับ
ที่ตั้ง  ...  การตกแต่ง  ...  หน้าตา และ รสชาติ  ...  บริการ    และ   ราคา   ครับ

ที่ตั้ง  ..........   ร่้านนี้ อยู่ในพื้นที่ ตรงกับ กลุ่มลูกค้า ครับ
ร้านนี้ตั้งอยู่ใน ซอย สุขเกษม  ต้นถนนนิมมานฯ  ...  ซึ่งย่านนี้  เป็นศูนย์กลางของ คอนโดที่กำลังสร้าง และ คอนโด ที่เปิดแล้ว  ขึ้นเรียงราย กันนับไม่ถ้วนเลยครับ
เท่าที่ประมาณดูได้แบบ คร่าวๆ  ... หาก คอนโด เหล่านั้นขายหมดโครงการ
ภายในปี 2559  .. ย่านนี้ น่าจะมี ผู้คน เข้ามาอยู่อาศัยเพิ่มขึ้นอีกเป็น   หลายพันคน  แน่นอนเลยครับ

การตกแต่ง  ..........  ด้านหน้าร้าน แทบไม่มีอะไรหรูหราเลยครับ  เรียบง่ายดีครับ  ผมว่า ยิ่งเรียบง่ายเท่าไหร่ ก็ยิ่งทำให้รู้สึกว่า ...   "น่าค้นหา"     ครับ
แต่พอเข้าไปด้านในร้าน  ...  การตกแต่งภายใน  ที่เรียบง่าย  แต่ เก๋ไก๋  ...  แต่ ฟังชั่นการใช้งาน ภายในร้าน สดวก ดีครับ  ....  ดูดี มี สไตลส์  ของตัวเองดีครับ

หน้าตา และ รสชาติ  ...........   หน้าตา และ รสชาติของอาหาร
สีสันของอาหาร  การจัดวางอาหารบนจาน  การเลือกใช้ภาชนะ    ให้คำจำกัดความสั้นๆ ได้ว่า   " โดน "  ครับ
ส่วนรสชาติอาหาร  ..  ผมว่า ไม่แพ้ ร้านอาหารฝรั่ง ในโรงแรม 5 ดาว เลยหละครับ

บริการ   ..........   พนักงานในร้าน ดูคล่องแคล่ว  และ Educated  ดีมากครับ
แต่ละคน  มีความเข้าใจ และ รู้เรื่องอาหารที่ตัวเองกำลัง ทำกันอยู่ได้ดีทีเดียวครับ
ส่วนการบริการ ก็สัมผัสได้ถึง อัธยาศรัยดี ของพนักงาน ทุกคนเลยครับ

ราคา  .........   บอกได้เลย ว่า   " ไม่ได้ถูก  แล้วก็ ไม่ได้แพงครับ "  
คุณภาพวัตถุดิบ และ รสชาติอาหารสั่งมา    คุ้มค่ากับราคา  ครับ














ร้านนี้หาไม่ยากครับ  ถ้าเราเข้ามาจากต้นถนน นิมมานฯ   ร้านนี้ อยู่ในซอยที่ 2  ทางด้านขวามือ
ชื่อ ซอย สุขเกษม 
เข้าซอยมาซัก 100 กว่าเมตร  จะมีตึกแถวอยู่ทางซ้ายมือ  
ร้านนี้อยู่ ห้องสุดท้าย ของตึกแถว ครับ  ..  สังเกตุง่ายๆ  อยู่ตรงกันข้ามกับ ร้านไก่ย่างเชิงดอย ครับ

ด้านหน้าของร้านนี้ ไม่ได้ตกแต่งอะไรมากมาย ดูไม่ต่างจากตึกแถวห้องข้างๆ  .
พอเข้าไปในร้าน ก็ไม่ได้มีอะไรหรูหรา  แต่ดูจากการตกแต่งภายในแล้ว  ทันสมัย และ ได้อารมณ์แบบ ร้านอาหารในต่างประเทศหลายๆแห่งเลยครับ  
จากการเลือก  รายการอาหาร และ คอนเซป ของร้านนี้ พอจะเดาได้ว่า  เจ้าของร้าน คงผ่านการใช้ชีวิตในต่างแดน มาพอสมควรเลยครับ

ร้านนี้เปิด  บริการตั้งแต่  08.30 น.    ถึง    15.00 น.
หยุดทุก  วันอังคาร และ วันพุธ
มีรายการอาหาร หลากหลายครับ   ทั้ง  อาหารเช้า  ..  อาหารว่าง .. ขนม .. ไอศครีม   และ อาหารกลางวัน
อาหารร้านนี้  เป็น อาหารฝรั่ง  มีให้เลือกหลากหลาย ทั้งสลัด  แซนวิส  สปาเก็ตตี้  ปลา  เนื้อ  ฯลฯ
แต่ที่ผมไปเป็นประจำ ก็จะเป็นเวลาสายๆ ครับ  ไปหาอาหารเช้า ในช่วงสายๆ ของวันหยุด โดยเฉพาะ ในวันที่  ขี้เกียจทำอาหารครับ
วันนี้ก็เลย แนะนำ เฉพาะ รายการอาหารเช้า นะครับ













Breakfast  Sandwich    ..........    แซนวิสจานใหญ่ แบบ เต็มจาน  ..  ที่พอเห็นแล้ว กลัวจะทานไม่หมด เลยครับ  ..  ขนมปังชิ้นหนา  อบมาแบบกรอบเกรียมกำลังสวย รองพื้นมาด้วยชีส หอมน่าทานเลยครับ  วางด้านบนด้วย ไข่ดาวใโต  หน่อไม้ฝรั่งที่ปรุงสุกแล้ว  ไส้กรอกชิ้นใหญ่ แบ่งมา 2 ครึ่ง  (ไส้กรอกอร่อยมากครับ  ผมไม่ได้ถามว่าเป็นไส้กรอกอะไร  แต่รสชาติ และ กลิ่น คล้ายๆไส้กรอกที่เสิร์ฟใน  English Breakfast  ครับ)
วางด้านข้างมาด้วย  แฮม ที่กริวมาแบบกำลังดี
ตัดขนมปังและไข่ขนาดพอดีคำ  ได้รสชีสกลมกล่อม แกล้มกับ หน่อไม้ฝรั่ง และ ไส้กรอก   ตามด้วยแฮม  ....   โอวววววววววว    ลงตัวครับ   .....   หมดเกลี้ยงจาน ไม่อะไรมีเหลือ เลยครับ


Mushroom  Open Sandwich   ..........    จานนี้  สมัยก่อนหาทานยากเลยครับ  เพราะเจ้าเห็ด พ๊อททาเบลโล่   เป็นเห็ด ที่ค่อนข้าง  หายากเลยครับ  เป็นเห็ดที่ขึ้นตามฤดูกาล และ ต้องนำเข้ามาจากต่างประเทศ  เท่านั้น
แต่ โชคดีของ คนเชียงใหม่ ครับ  ...  ปัจจุบันค่อยยังชั่วแล้วครับ  เดี๋ยวนี้ ตามเขาตามดอย รอบๆเมืองเชียงใหม่ เริ่มมีความนิยมในการปลูกเห็ดชนิดนี้มากขึ้นแล้วครับ
เห็ด พ๊อททาเบลโล่  ชิ้นใหญ่  กริล มาแบบสุกกำลังดี  วางลงบน ขนมปังชิ้นหนาเป็นพิเศษ  ที่อบมาสุกกรอบ เกรียม กำลังดี  ... โรยหน้ามาด้วย ร๊อตเก็ต ที่คลุกเคล้ามาด้วย เดรสซิ่ง รสอร่อย
ทานปุ๊บ  รู้สึกว่า สุขภาพดีปั๊บ  ..  อะไรทำนองนั้นเลยครับ

ยังมี อาหารเช้า อีกหลายๆอย่าง ที่น่าทาน  เช่น   Breakfast  Hotdog  และ  อีกหลานเมนู  ..  แต่ผมไปไม่ถึงซักที ครับ  แต่ละจานที่เสิร์ฟมา  ใหญ่พอที่จะทำให้คนตัวใหญ่อย่างผม  นั่งหาว เลยทีเดียวครับ
อ้อ ......  ลาเต้ ร้อนๆ  ซักถ้วย  กับ อาหารเช้า  ลื่นคอ ดีครับ















นอกจากอาหารเช้า  ยังมีรายการอาหารกลางวัน  และ  ของว่าง  ของหวาน  ที่น่าทานอีกหลายรายการเลยครับ
เท่าที่เห็นในรูปแล้ว  ผมคงต้องกลับไปทานอีกหลายรอบ  แล้วเอามาเขียนเพิ่มเติมทีหลัง แล้วกันนะครับ
ร้านนี้  หยุด ทุก วันอังคาร  และ วันพุธ ครับ
เปิด    08.30 น.     ถึง   15.00 น.

โทร   :  088-021-2382



แผนที่ร้านอาหาร ทั้งหมดที่ผมเขียนแนะนำ ไว้ใน   " แนะนำ ร้านอาหารอร่อย โดยป๋าปึกส์ "
https://mapsengine.google.com/map/edit?authuser=0&hl=en&mid=zi7qOsZPeff0.kmjHpvkh5cmM



ป๋าปึกส์
03/10/2557
ขอแนะนำ ร้านโปรดของผู้เขียน
 : http://restaurantaroi.blogspot.com/2010/11/tengoku-1.html
 : http://restaurantaroi.blogspot.com/2010/11/tengoku-2.html
 : http://restaurantaroi.blogspot.com/2011/05/tengoku-de-cuisine.html

ติดตาม คอลัมน์ แนะนำร้านอาหารอร่อย โดย ป๋าปึกส์ ได้ทุกวันใน  Facebook
ได้ที่  : http://www.facebook.com/SuebsaengSun





วันศุกร์ที่ 29 สิงหาคม พ.ศ. 2557

Shazube ... บุฟเฟ่ท์ ชาบู , สุกี้ , นาเบะ .. ระดับพรีเมี่ยม ที่ เชียงใหม่

 " Sha zu be "    ...  บุฟเฟ่ท์  ชาบู , สุกี้ , นาเบะ  ..  ระดับพรีเมี่ยม ที่  เชียงใหม่    
ร้านอาหารญี่ปุ่น  แนวใหม่ และ ร้านใหม่ล่าสุดของเมืองเชียงใหม่  ครับ
ตอนที่ผมได้ยินชื่อ ร้านนี้ ครั้งแรก  ก็พยายาม หาคำแปล ว่าร้านนี้ หมายถึงอะไร  ...  หาอยู่ นานเลยทีเดียวครับ  แต่ก็หาไม่เจอครับ   ....   จนเมื่อคืน มาลองทานอาหารร้านนี้  ได้เจอกับเจ้าของร้าน   ก็เลยได้ถามถึง ความเป็นมาของชื่อร้านก่อนเลยครับ   ....   ได้ความว่า
" Sha Zu be "    ชื่อร้าน ฟังดูเหมือนเป็นคำภาษา ญี่ปุ่น  แต่เป็นการ รวมเอา คำ ต้น และ ท้าย  ของรายการอาหารหลัก    ที่ขายอยู่ในร้าน ครับ
" Sha "   ......   มาจาก  คำว่า     " ชาบู "
" Zu "     ......   มาจาก  คำว่า     " สุกี้ "
" Be "    ......   มาจาก  คำว่า      " นาเบะ "   (มิโซะ นาเบะ)












ร้านนี้  เปิดขายอาหาร เป็น 2 แบบ ครับ    ....   มีทั้ง  Buffet   และ   A La Carte  (ตามสั่ง)   ครับ 
สำหรับ บุฟเฟ่ท์  เป็น รายการบุฟเฟ่ท์   ที่เป็น  อาหารประเภทหม้อร้อน  สไตลส์ ญี่ปุ่น  แบบที่มีขายในประเทศ ญี่ปุ่น เลยครับ
ที่ผมเขียน  พาดหัว ไว้ด้านบน  ว่า    "  ระดับพรีเมี่ยม "  
ก็มาจาก การเลือกใช้วัตถุดิบ  ของทาง ร้านนี้ นี่เองครับ

โดยเฉพาะ  ...  คนที่ ชอบทานเนื้อวัว  ...  ร้านนี้ นี่แหละครับ  คุ้มจริงๆ ครับ
เค้าเลือกเสิร์ฟ   เนื้อวัว ที่นำเข้าจาก  ออสเตรเลีย และ นิวซีแลนด์    อยู่ในรายการอาหาร บุฟเฟ่ท์  กันเลยทีเดียวครับ
แถมยังมีเนื้อ  ส่วนต่างๆ  ให้เลือก  อีกหลายส่วนอีกต่างหาก ครับ
ที่ สำคัญ  จะทานเท่าไหร่   ก็ได้ในเวลา  ชั่วโมงครึ่ง  ด้วยซิครับ

นอกจากเนื้อวัว แล้ว  .... หมู  ก็มีนะครับ
หมู  ที่ร้านนี้ ก็เลือกเอา    " หมู คุโรบุตะ "    ที่เราได้ยินคุ้นหู  ใน ทีวี อยู่เป็นประจำ มาเสิร์ฟใน  บุฟเฟ่ท์ เช่นกันครับ

ส่วนคนที่ ชอบทานผัก ไม่ต้องห่วงเลยครับ  ...  มาครบจัดเต็มครับ  ทั้งผัก ทั้งเห็ด  มีให้เลือก เยอะแยะไปหมดครับ

นอกจากนั้น ในรายการ  Buffet  ยัง รวม ไปถึง   ซูชิ    อีกมากมายหลายหน้า ให้เลือกทานอย่างจุใจ อีกด้วยครับ  
ซูชิ  ที่ร้านนี้ทำ  ไม่มีการทำ  ซูชิ   ทิ้งไว้ในตู้เย็น แล้ว ยกมาเสิร์ฟ  ให้เสียอารมณ์ ครับ
ที่ร้านนี้  เค้าทำ  ซูชิ  สดๆ  ....   ทำทันที่ ที่สั่งครับ
ทำให้ เราสัมผัส    ได้ถึงความแตกต่าง ของ รสชาติของข้าวปั้น  และ คุณภาพของวัตถุดิบ  ได้ดีกว่ากันเยอะเลยครับ












น้ำซุป ในรายการ  Buffet  มีให้เลือกทานได้ 3  ชนิดด้วยกันครับ

ชาบู  ชาบู    ...........   น้ำซุปที่ต้ม มาอย่างพิถีพิถัน  ด้วย สาหร่าย คอมบุ   ...   ที่ต้องนำ สาหร่ายแผ่นหนา ลงไปแช่ในน้ำเย็น  ก่อนที่จะเริ่มต้ม เพื่อดึงเอารสชาติของสาหร่าย ที่ถูกทำให้แห้งออกมา
แล้ว เริ่มต้มด้วยไฟอ่อนๆ  เพื่อให้ ได้รสชาติ ของสาหร่ายคอมบุ  ....  แล้ว ใส่ น้ำสต๊อคที่ต้มกับ ปลา ทั้งส่วน  แกนกระดูก , เนื้อปลา  ลงไปต้มด้วยไฟอ่อนๆ   ......  น้ำซุปหวานหอม ชื่นใจดีครับ
เวลาทาน  ก็เอา ตะเกียบ คีบ เอาเนื้อสไลด์  ลวกให้พอเป็นสีชมพู  หรือ ถ้าทานหมูก็ลวกจนขาว
แล้วเอา  เนื้อ หรือ หมู ที่ลวกแล้วลงไปจุ่มใน น้ำจิ้ม ปงสึ  ที่มีรสเปรี้ยวนำ
อืมมมมมม  ...  อร่อยไม่รู้ลืมเลยครับ
และ ยังมี น้ำจิ้มงาขาว  เสิร์ฟมาด้วยครับ  ....  สำหรับผม ชอบ  ลวกเนื้อ ลวกหมู ในหม้อชาบู  ไปซักผักก่อน แล้ว ค่อยตักน้ำซุปใส่ถ้วย พร้อมผักที่ลงไปต้ม ไว้ตั้งแต่ต้น  แล้วตัก น้ำจิ้มงาขาว   ลงไปใน ถ้วยซักช้อนนึง  ..... โอววววววววว   หมดเกลี้ยงถ้วยใน พริบตา ครับ

สุกี้    ...........    สุกี้ที่ร้านนี้  เป็นแบบ สุกี้ญี่ปุ่น แท้ๆ ครับ  ...  น้ำสุกี้ ที่ใช้น้ำซุปใส ต้มกับ โชหยุ  ,  มิริน  ,  สาเก  และ น้ำตาล   ....  สีน้ำซุป  ออกสีน้ำตาลดำ  ...  กลิ่นหอมของมิริน และ โชหยุ ช่างยั่วยวนดีเหลือเกินครับ  ... รสชาติน้ำสุกี้ จะแตกต่างจาก สุกี้ที่เราทานกันใน ศูนย์การค้าทั่วไปครับ   ...  รสชาติน้ำซุป สุกี้  มีรสหวานที่แอบนำ รสเค็มมาเล็กน้อย  ....  เสิร์ฟมาพร้อมกับ ไข่ดิบสดๆ ในถ้วย
เวลาทาน สุกี้ ให้ได้ อรรถรสแบบ ญี่ปุ่น  แนะนำ ให้เอาไข่ดิบที่เค้าเสิร์ฟมา ตีให้เข้ากันซะก่อน  ... แล้วเอาเนื้อ หรือ หมู ที่ลวกมาร้อนๆ   ลงไปจิ้มใน ไข่สด  ....  โอวววววว  ช่างนุ่ม ละมุนลิ้นจริงๆ ครับ  ...  รับรองว่า ไม่มีคาวของไข่ อย่างที่คิดเลยครับ

มิโซะ นาเบะ    ...........   น้ำซุป ที่ต้มมาจาก เต้าเจี้ยว ญี่ปุ่น  ....   น้ำซุปของโปรดผมเลยครับ  รสชาติน้ำซุป คล้ายๆ มิโซะซุป ที่เราไปตามร้านอาหารญี่ปุ่น แล้ว เค้าเสิร์ฟใน ถ้วยที่มีฝาปิด นั่นแหละครับ
ที่บอกว่า ของโปรดเพราะว่า  น้ำซุปแบบนี้ เวลาลวกเนื้อ ลวกหมูแล้ว  แทบไม่ต้องไปจิ้มอะไรเลยครับ














นอกเหนือจาก  รายการ บุฟเฟ่ท์ ที่มี น้ำซุปให้เลือกถึง 3 อย่างแล้ว  ... ยังมี ซูชิ ให้ทานได้แบบหนำใจ แบบ ไม่อั้นอีกด้วยครับ

ซูชิ    ..........   ซูชิ ที่อร่อยไม่ได้อยู่ที่ วัตถุดิบ ที่วางอยู่บนข้าวปั้นเท่านั้นครับ  ...  แต่ละร้าน แต่ละเชฟ  ก็มีเทคนิค การคลุกข้าว ซูชิ ที่แตกต่างกันไปครับมีให้เลือกหลายหน้าเลยครับ  ...  ข้าวญี่ปุ่น ที่ต้องหุงแบบพิเศษ ไม่ได้หุงแบบที่ใช้ทานกับอาหารญี่ปุ่นธรรมดาๆ นะครับ  แล้วต้องเอามาคลุก เพื่อให้มีรสชาติ ซึ่ง ส่วนใหญ่ ก็จะใช้  น้ำส้มสายชู  ,  มิริน  ,  เกลือ  ,  น้ำตาลเป็นหลักครับ
และ ที่สำคัญ การปั้นข้าว  ต้องปั้นขนาดต้องพอดีคำด้วยครับ  ...  ที่ร้านนี้ ทำได้เข้า สเปค ครับ
ส่วน หน้าซูชิ  มีให้เลือกหลากหลายครับ  ...  ทั้ง  หน้าเนื้อ ,  หน้าแซลม่อน , หน้าไข่กุ้ง  ฯลฯ

ราคาอาหารที่ เป็น  บุฟเฟ่ท์  อยู่ที่   590 บาท ครับ
ราคานี้ รวม ที่ผมเล่ามาด้านบนทั้งหมด แบบ ทานเท่าไหร่ก็ได้  ในเวลา 1 ชั่วโมงครึ่ง ครับ
และ รวมเครื่องดื่ม  ชาเขียว ด้วยครับ

ราคาดูแล้ว  สูงกว่าตามห้าง  .....  แต่ ผมว่า  ต้องมาดู ที่คุณภาพ ของ วัตถุดิบ ที่เค้าใช้ครับ
สำหรับผมแล้ว    ราคานี้ ผมว่า    " สุดคุ้ม "     ครับ

นอกจาก นี้แล้ว   ยังมีรายการ อาหารญี่ปุ่น  ให้เลือกสั่งมาชิมได้ อีกหลายสิบ เมนู เลยครับ
ร้านนี้เปิดทุกวัน ครับ
เปิดขาย เป็น  2  ช่วงเวลาครับ      11.00 - 14.00  และ   17.30 - 22.30
โทร      085-868-2141  











ร้านนี้หาไม่ยาก ครับ
ถ้าอธิบายว่าอยู่ตรงไหน  ต้องอธิบาย 2 ครั้ง  ... ตามวัย ครับ

ถ้าเป็น  วัยรุ่น ก็ต้อง อธิบายว่า   .....  ร้านนี้อยู่ในซอย ตรงกันข้ามกับ   " แฟบบริค "   ผับชื่อดังกลางเมืองเชียงใหม่   ที่มี  มาดามเอียน อยู่ปากซอย ครับ
ถ้าเป็น คนที่มีอายุหน่อย  ก็ ต้องอธิบายว่า   .....  ร้านนี้อยู่ ที่ ซินหยู คาราโอเกะ  อันเก่า ครับ

หรือ จะลองเข้าไปดูรายละเอียดใน  Facebook    ของร้านนี้ดู ก็ได้นะครับ
facebook.com/shazube  


แผนที่ร้านอาหาร ทั้งหมดที่ผมเขียนแนะนำ ไว้ใน   " แนะนำ ร้านอาหารอร่อย โดยป๋าปึกส์ "
https://mapsengine.google.com/map/edit?authuser=0&hl=en&mid=zi7qOsZPeff0.kmjHpvkh5cmM



ป๋าปึกส์
29/08/2557
ขอแนะนำ ร้านโปรดของผู้เขียน
 : http://restaurantaroi.blogspot.com/2010/11/tengoku-1.html
 : http://restaurantaroi.blogspot.com/2010/11/tengoku-2.html
 : http://restaurantaroi.blogspot.com/2011/05/tengoku-de-cuisine.html

ติดตาม คอลัมน์ แนะนำร้านอาหารอร่อย โดย ป๋าปึกส์ ได้ทุกวันใน  Facebook
ได้ที่  : http://www.facebook.com/SuebsaengSun