Translate

วันศุกร์ที่ 28 พฤศจิกายน พ.ศ. 2557

ข้าวเกรียบ ปากหม้อ (ลุงจร) ... วัดเกตุ ... เชียงใหม่

ข้าวเกรียบปากหม้อ  ลุงจร   ...  วัดเกตุ  ...  เชียงใหม่


ข้าวเกรียบปากหม้อ  ,  สาคู  และ  ขนมเบื้องญวน  
...  อาหาร  และ ของว่าง  ที่นับวันเริ่มหาทานยากขึ้นทุกวัน    
















ร้านนี้เป็น ร้านเก่าแก่ ที่เปิดขายมาหลายสิบปีแล้วครับ  เป็นร้านดังย่าน วัดเกตุ  ..  ย่านการค้าเก่าแก่ ที่สุดย่านนึง  ที่ ตั้งอยู่ริมแม่น้ำปิง  มาตั้งแต่ สมัยที่มี ชาวต่างชาติ เริ่มเข้ามาค้าขาย และ ประกอบธุรกิจ  ในเมืองเชียงใหม่   ทั้ง  พ่อค้าชาวจีน  ,  พ่อค้าฝรั่ง  ,  พ่อค้าจากอินเดีย  ฯลฯ
ร้านนี้อยู่ใกล้ๆ กับ ร้านก๋วยเตี๋ยวต้มยำ สุโขทัย  ...  ที่ผมไปทานเป็นประจำ  
แทบทุกครั้งที่ไปหาอะไรทานย่านนี้  ผมจะเริ่มต้นด้วยการ ไปทานก๋วยเตี๋ยวก่อน  ..  พอผมทาน ก๋วยเตี๋ยวต้มยำสุโขทัย เสร็จ   ผมก็เดินย้อนขึ้นมาทางวัดเกตุ   อีกไม่ถึง 50 เมตร
ก็จะเห็น ร้านข้าวเกรียบปากหม้อ , สาคู และ ขนมเบื้องญวน  ของว่าง เก่าแก่อีกร้านนึง

ร้านนี้ไม่มีที่นั่งทาน บริการซื้อกลับบ้านเท่านั้นครับ  ..  แต่ตัวร้านใหญ่กว่า ร้านก้วยเตี๋ยวซะอีกครับ   ...   เป็นร้าน  ห้องแถวสองห้อง  สร้างขึ้นมา รุ่นราวคราวเดียวกันกับ ร้านก๋วยเตี๋ยวต้มยำ นั่นแหละครับ

สำหรับใคร  ที่จะมาแวะซื้อ  ข้าวเกรียบปากหม้อ .. สาคู .. ขนมเบื้องญวน   กลับไปทาน ที่บ้าน หรือ ที่ทำงาน  อย่างเดียวโดยไม่ได้แวะกินก่วยเตี๋ยว   ก็ไม่ต้องเข้าไปที่จอดรถ ก็ได้ครับ
ขับรถ  มาที่หน้าร้านขนมเบื้อง  แล้วชลอรถ   เปิดไฟกระพริบ  แล้ว กดแตรเบาๆ   ....   เด็กที่ร้านขนมเบื้อง  ก็จะหันมามองด้วยความชำนาญ
เราแค่ เปิดกระจกรถ ลงซักนิด  แล้วสั่งได้เลย ครับ จะเอาอะไร กี่ชุด ก็สั่งเลยครับ  ..  สั่งเสร็จก็  ชู  ธนบัตร  ใบที่จะจ่าย ให้คนขายดู   ...   เค้าจะได้เตรียมเงินทอนมาให้เลยครับ
แล้วจะมีเด็กของร้าน  วิ่งข้ามถนน มาส่งของพร้อมเงินทอน  ให้ถึงรถเลยครับ















ข้าวเกรียบปากหม้อ  ..........  อาหารว่าง  จานนี้หาทานยากขึ้นทุกวัน ครับ ... ด้วยขั้นตอนวิธีการทำ และ ความนิยม ของว่างและขนม สัญชาติอื่น ของคนรุ่นปัจจุบัน  ...  ทำให้ การทำอาหารว่างแบบเก่าๆ   ตำรับโบราณ ของไทยเรา  เริ่มได้รับความนิยมลดน้อย ลงไปเยอะเลยทีเดียวครับ  ...  ลดลงจนแทบ จะสูญพันธ์ กันเลยทีเดียวครับ
ข้าวเกรียบปากหม้อ เจ้านี้ เค้าใช้   แป้งข้าวเจ้า ที่นวดมาอย่างดี   ...  นึ่งบน ซึ้ง ที่วาง ผ้าขาวบาง ไว้บน หม้อทรงสวย ที่ต้มน้ำไว้บนเตา  
เวลานึ่ง  แป้งที่นวดจนเข้ากัน เริ่มสุกจนเป็นตัว  รูปร่างสวยน่าทานดีจริงๆ ครับ  ...   ที่สำคัญ  แป้งที่นึ่ง ยังคงความเหนียวนิดๆ ขนาดกำลังอร่อยพอดีเลยครับ    ..  สีแป้ง  ใส ปน สีขาวนวล  น่าทานเลยครับ
ยัดไส้   หมูสับ  ..  หัวไชโป๊ว  ..  หอมแดง  ..  ถัวลิสง   ที่ผัดมาได้ รสชาติ กลมกล่อม  ...   มีรสเค็ม นำหน้า เล็กน้อย อร่อยดีครับ
บรรจุในกล่องโฟม   แยกกระเทียมเจียวใส่มาในกล่อง  แถมผักกาดขม และ ผักชี พร้อมพริกขี้หนูสวน อยู่ในกล่องอย่าง ครบครัน ครับ


สาคู   ..........     สาคู  ลูกขนาดกำลังพอดีคำ  ...   นึ่งมาจน สวย   แป้งใส    มองเห็นไส้ตรงกลาง
ไส้ที่มีส่วนผสม  คล้ายกันกับ ข้าวเกรียบปากหม้อ  ก็ผัดมาอร่อยแบบ เข้ากันดีจังเลยครับ  
สาคู  บรรจุมาในกล่องโฟม แบบ ข้าวเกรียบปากหม้อ   แยกกระเทียมเจียวใส่มาในกล่อง   แถมผักกาดขม และ ผักชี พร้อมพริกขี้หนูสวน















ขนมเบื้องญวน   ..........   อีกหนึ่ง อาหารว่าง ที่หาทานยากที่สุดอย่างนึง  ในเชียงใหม่ เลยหละครับ
ผมพอจะเข้าใจได้ว่า  ทำไมจึงหาทานยากครับ
ก็ คงเป็นเพราะขั้นตอนการทำ อาหารจานนี้ ต้องละเอียด และ มีหลายขั้นตอน  จนพ่อค้าแม่ขาย เริ่มมองว่า  ทำยาก และ มีคนรู้จักทานน้อยลงทุกวัน  ..  แถม คนรุ่นใหม่ๆ ก็ แทบจะไม่รู้จัก หรือ เคยลองทาน อาหารจานนี้กันเลย  
แป้งขนมเบื้อง  ที่มีส่วนผสม ของ แป้งข้าวเจ้า .. แป้งถั่วเขียว .. หัวกะทิ .. ขมิ้น .. น้ำปูนใส .. เกลือ   ที่ ต้องนวดคลุกเคล้าจนเข้ากัน  ใช้เวลาพอสมควรเลยทีเดียวครับ
ไส้ที่มี ส่วนผสม ของ   หัวผักกาด  ..  เด้าหู้เหลือง  ..  ถั่วลิสงป่น  ..  กุ้งแห้งบ่น  ..  มะพร้าวขูด
แล้วเอามาผัดกับ รากผักชี  พริกไท ปรุงรสด้วย เกลือ และ น้ำตาล
แป้ง ถูกนำมาทอดด้วยไฟกำลังดี  จน กรุบกรอบ สีเหลืองสวย   ...  ใส่ไส้  ที่ผัดมากลมกล่อมเต็มยศครบเครื่อง   ....   ไส้  รสชาติกลมกล่อม กับ แป้งที่บรรจงนวด และ ทอด มาแบบพิถีพิถัน  ..  ช่างอร่อยลงตัวดี จริงๆ เลยครับ
ขนมเบื้องญวน  บรรจุใส่ถุงแบบ  Take home  ไว้เรียบร้อย  ...   พร้อมให้เราได้ซื้อติดมือ  กลับไปฝากพรรคพวก ที่ไม่ได้มาด้วย
ในถุง  มี  น้ำอะจาด รสดี เปรี้ยว หวาน เค็ม ครบเครื่อง  ใส่มาทั้ง แตงกวาซอย หอมแดง และ พริกชี้ฟ้า  บรรจุใส่ถุง มาเป็นชุด
นอกจากรสชาติ  อร่อยสุดๆ แล้ว
ที่สำคัญที่สุดก็คือ  ราคาแสนถูกจริงๆ ครับ เมื่อเทียบกับ ขั้นตอนการทำ มีค่อนข้างมาก  ...  คุณภาพ ของวัตถุดิบ ที่เลือกใช้  และ รสชาติ ที่อร่อย สุดๆ  ครับ  
ราคาขาย  ขายกันเพียงแค่  กล่องละ 20 บาทเท่านั้น  (ราคาตามวันที่ เขียน)


ลองแวะไปซื้อทาน กันดูนะครับ  ...  เพื่อเป็นการรักษา  อาหารไทยที่ค่อนข้างหาทานยากขึ้นทุกวัน เพื่อให้ อยู่คู่ตำรับอาหารไทย ไปนานแสนนาน ครับ


ย่านแถว วัดเกตุ   ในตอนกลางวัน  ค่อนข้าง  หาที่จอดรถหายาก พอสมควรครับ
แต่เลยไปนิดนึง  ประมาณ  50 เมตร  ในฝั่งตรงข้ามถนน  ..  พอจะหาที่จอดได้บ้าง  ที่ ด้านหน้าวัดเกตุ หรือ  ด้านข้าง  สมาคมศรีคุรุสิงห์สภา (วัดซิกข์)  


แผนที่ ร้านอาหารทั้งหมด ที่ผมเขียนแนะนำไว้ใน   " แนะนำ ร้่านอาหารอร่อย โดย ป๋าปึกส์ "
https://mapsengine.google.com/map/edit?authuser=0&hl=en&mid=zi7qOsZPeff0.kmjHpvkh5cmM




    
ป๋าปึกส์
28/09/2553
ขอแนะนำ ร้านโปรดของผู้เขียน
 : http://restaurantaroi.blogspot.com/2010/11/tengoku-1.html
 : http://restaurantaroi.blogspot.com/2010/11/tengoku-2.html


วันศุกร์ที่ 21 พฤศจิกายน พ.ศ. 2557

4 เมนูเด็ด จาก เชฟกระเหล็ก ... ที่ ลานเบียร์ Central World

 4  เมนูเด็ด จาก เชฟกระเหล็ก  ...  ที่ ลานเบียร์  Central World

เมื่ออาทิตย์ที่แล้ว  ผมลงไปทำธุระที่ กรุงเทพฯ  ....  พอทำธุระเรื่องงานเสร็จ  เพื่อนผม ก็ โทรมาชวน ไปเที่ยว  ลานเบียร์ ที่   Central World  
โดยเพื่อนผม  เน้นย้ำว่า  ...
ต้องไปให้ได้  เพราะมีเมนูเด็ด จากเชฟกระทะเหล็ก อาหารไทย อย่าง   " เชฟชุมพล แจ้งไพร "   ...  เป็นคน  คิดค้นเมนู พร้อมสูตรอาหารจานเด็ด  และ ประดิษฐ์ประดอย  รายการอาหารที่เหมาะกับ การ ทานเป็น  แกล้มเบียร์ ถึง  4 อย่าง ด้วยกัน  เลยทีเดียวครับ
แค่ได้ยิน  ก็ ปฏิเสธ ไม่ลงเลยครับ
















อลังการจริงๆ ครับ  ...   สำหรับลานเบียร์ หน้า  Central World    ปีนี้
ใส่กันแบบ สุดๆ กันเลยทีเดียว ครับ   ...  ทั้งการตกแต่ง  ลานเบียร์ของแต่ละแบรนด์   ...  ทั้ง คอนเสิร์ต ระดับประเทศ   ที่มีให้ชม ตลอดทั้งช่วงเวลาที่เปิด  และ  ทุกวันซะด้วยซิครับ  
แถม  ยังมี  อาหารจานเด็ด  จาก ฝีมือเชฟกระทะเหล็กประเทศไทย   ที่เอามานำเสนอ ในเทศกาลนี้

มาเที่ยวนี้ เพื่อนผม ชวนไปที่  ลานเบียร์ ของ  Chang  ครับ
ใหญ่โตมโหฬาร  จริงๆ ครับ   2  ลาน  2  สไตลส์ ครับ  
มา ทั้งที ก็ต้องไปให้ครบ ครับ  ...  ผมไปกันตั้งแต่ ทุ่มกว่า  ..  เพลิดเพลิน กับ อาหารเด็ดๆ  เบียร์เย็นๆ  ดนตรีเพราะๆ    จนถึงเที่ยงคืน  เลยทีเดียวครับ

เอาละครับ  ... มาเข้าเรื่องอาหาร จานเด็ด   ที่  ลานเบียร์  Chang  ที่  Central World  กันเลยดีกว่า ครับ
ผมได้มีโอกาส ลองชิม ทั้ง 4  รายการเลยครับ


*************************











ไส้อั่วหมูคุโรบุตะ   ..........    จานนี้ตอนที่ เพื่อนผม ไปเดินซื้อมา  ..  ผมยังตัดพ้อเพื่อนผม ไปว่า  " อะไรกัน ผมเพิ่งมาจากเชียงใหม่  ทำไมไม่เอาอย่างอื่นมาให้ทาน "
โอวววววว    ........   ขืนไม่ทาน ละก้อ เสียดายแย่ครับ
ไส้อั่ว  ที่มีหน้าตา ไม่แตกต่างกับ ไส้อั่ว เจ้าดีๆ ในเมืองเชียงใหม่เท่าไหร่ครับ
จานนี้ เสิร์ฟมาในจานด้วย  แคปหมู  และ น้ำพริกหนุ่ม  ...  ครบเครื่องเลยครับ
กลิ่นเครื่องเทศ และ รสชาติของสมุนไพร   ได้รสแบบทางเหนือ  ..  จัดจ้านถูกใจดีครับ
แต่  เจ้าหมู  คุโรบุตะ  นี่ซิครับ   ...   พอมันเข้าไปอยู่ในไส้อั่ว และ คลุกเคล้าด้วยเครื่องเทศ แบบ ไทยๆ แล้ว  มันช่างอร่อยได้ใจ จริงๆครับ
แน่นอนครับ การเลือกใช้ วัตถุดิบ ที่มีคุณภาพ  กับ  รสมือ ระดับ เชฟชุมพล  (เชฟกระทะเหล็ก ประเทศไทย)   ...   จานนี้  บอกได้คำเดียวครับ     " it's must "    เลย ครับ


*************************











ไก่บ้านคั่วเกลือเก้าพริก    ...........    จานนี้ ชื่อเสียงเรียงนาม ดูท่าทางเหมือนว่า  จะเผ็ด จนน้ำตาไหล  ...  แต่ไม่เป็นอย่างที่ผมคิดครับ   ....   เค้าใช้ ไก่บ้านวัยกระเต๊าะ  เนื้อแน่นเปรี๊ยะ  หั่นเป็นชิ้น ขนาดพอดีคำ  คั่วด้วยเกลือ และ พริกถึง 9 ชนิด  และ สมุนไพรไทย
ตอนแรกที่ผมได้ยินว่า พริก 9 ชนิด  ก็ยังหวั่นๆ  กลัวจะเผ็ดแบบทานไม่ได้  เหมือนกันครับ  ..  แต่ด้วยเทคนิค และ ฝีมือของ เชฟ ชุมพล แล้ว ..  เค้าสามารถเรียกเอาจุดเด่นของรสชาติ ของพริกแต่ละชนิดออกมา ผสมผสานได้แบบไร้ที่ติ เลยทีเดียวครับ
ไก่เนื้อหนุบหนับ  กลิ่นพริกและสมุนไพร  อบอวลอยู่ในปาก  ได้อารมณ์ดีครับ  ..  ที่สำคัญ  ไม่เผ็ดอย่างที่ จินตนาการไว้ครับ  ...  รสเผ็ดแบบทาน  แกล้มเบียร์  ได้ สบายๆ  เลยครับ


*************************











น่องเป็ดกงฟิต์ คั่วกลิ้ง 
  ..........   (Southern Dried Curry with Duck Confit)
น่องเป็ดกงฟิตย์  .. อาหารฝรั่งเศส ยอดนิยม ของ แคว้นกาสโคนี่  (Gascony)    ทางตะวันตกเฉียงใต้ของฝรั่งเศส   ...   นำมารังสรรค์ เป็นเมนู ฟิวชั่น ผสมผสาน กับ รสชาติคั่วกลิ้ง  อาหารจานเด็ด ใน ภาคใต้ประเทศไทย   ...  เสิร์ฟ มาพร้อม ข้าวกล้องอย่างดี
น่องเป็ดกงฟิต์  ...  กรอบนอกนุ่มใน  รสชาติ ไม่แตกต่างกันกับ น่องเป็ด ในร้านอาหารฝรั่งเศสดีๆ เลยครับ    วางหน้ามาบนน่องเป็ด  คั่วกลิ้ง
ตักทานพร้อมกัน   รสชาติของน่องเป็ด เข้ากัน แบบไม่น่าเชื่อ กับ คั่วกลิ้ง เลยทีเดียวครับ  ...  จานนี้ ทานคู่กับ  เบียร์เย็นๆ  ...  อืมมมมม  ...  สะใจจริงๆ ครับ


**************************













น่องแกะตุ๋นเบียร์  
...........    (Slow Braised Leg of Lamp  with Chang Beer and Aromatic Herbs)
น่องแกะ  ที่ ตุ๋นด้วย  น้ำสต๊อคผัก และ เบียร์สด  ..  ตุ๋น แบบ เร่งไฟจนเดือด แล้ว ลดไฟ ให้ลงแบบ เดือดเบาๆ  ...  ต้องใช้เวลาตุ๋น ข้ามคืน นานถึง  12  ชั่วโมงกันเลยทีเดียว ครับ  
แน่นอน ครับ  รสชาติ  ความนุ่มนวล  กลิ่นเครื่องเทศ  อบอวลอยู่ใน ทุกอนู ของ เนื้อน่อง กันเลยทีเดียวครับ
จานนี้ เคียงคู่ มาพร้อม มันบด  ..  และ ราดมาด้วย  เกรวี่  รสเด็ด


**************************


4  จานเด็ด  นี้   ....   กับ  เบียร์เย็นๆ  ...   ดนตรี เพราะๆ  ....   ราคาแบบหาที่ไหน ในเมืองหลวง  ไม่ได้อีกแล้วครับ   .......     ทั้งหมด  อยู่ที่  ลานเบียร์ ทั้ง  4  แห่ง  ครับ

ที่ หน้า    Central World   2  แห่ง   (ลานช้างพาร์ค และ ลานช้าง คราฟต์ ซีเลคชั่น)  
ที่  ลานช้าง พาร์ค  เอเชียทีค
ที่  ลานช้าง คราฟต์ ซีเลคชั่น  สาทรสแควร์

ลานเบียร์  Chang   ....  เปิดตั้งแต่  วันนี้  จนถึง   31 ธันวาคม 2557    นะครับ

ใครอยู่กรุงเทพฯ  หรือ  เข้าไปเที่ยวกรุงเทพฯ หน้าหนาวนี้   ลอง ไปชิม รสมือ ของ เชฟ ชุมพล  (เชฟกระทะเหล็ก ประเทศไทย)   ที่  ลานเบียร์ช้าง  ได้ทั้ง  4  แห่ง  เลยครับ




ป๋าปึกส์
21/11/2557


ขอแนะนำ ร้านโปรดของผู้เขียน
 : http://restaurantaroi.blogspot.com/2010/11/tengoku-1.html
 : http://restaurantaroi.blogspot.com/2010/11/tengoku-2.html
 : http://restaurantaroi.blogspot.com/2011/05/tengoku-de-cuisine.html




วันพุธที่ 19 พฤศจิกายน พ.ศ. 2557

เกาเหลาเลือดหมู .. ข้างรั้ว สวนลุม ... กรุงเทพฯ

 เกาเหลาเลือดหมู  ...    ริมรั้ว สวนลุมฯ   ...  กรุงเทพฯ 


ผมเชื่อว่า  ...  คนที่ ไปออกกำลังกาย ตอนเช้า เป็นประจำ ที่ สวนลุมพินี  คง คุ้นเคยกับ ร้านนี้ดี  นะครับ
ผมไปทาน  ร้านนี้ ครั้งแรก ก็ เมื่อประมาณ  20 กว่าปีที่แล้วเลยครับ
ไปตั้งแต่   สมัย ที่ ซอยสารสิน  ที่อยู่ข้างสวนลุม   ด้านซอยหลังสวน  ยังเป็น แหล่งบันเทิง สุดยอดนิยมของ ชาวกรุง  ในช่วงนั้นอยู่เลยครับ
ในยุคนั้น ต้องถือว่า     Pub ,  ร้านอาหาร , Bar  ในย่านนี้  ได้รับความนิยมเป็นที่สุด แล้วครับ
โดยเฉพาะ  ที่  Brown  Sugar   ที่พวกผม ไปนั่งประจำ กันแทบทุกคืน เลยทีเดียวครับ
ที่เอ่ย ถึง  Brown Sugar  ก็ เพราะ
ร้านเกาเหลาเลือดหมู   เจ้านี้  อยู่เยื้องๆ  Brown Sugar  นั่นเองครับ
เกาเหลาเลือดหมู ร้านนี้  เปิดมาน่าจะถึง 30 ปีได้แล้วครับ
ตั้งอยู่ริมรั้ว สวนลุม  .. ระหว่างต้นก้ามปูยักษ์  2  ต้น  ..   ที่สังเกตุได้อีกอย่างนึง ก็คือ  มีร้านน้ำส้มคั้นสดๆ  ที่เปิดเคียงคู่กันมา ตังแต่เริ่มต้นเลยครับ   .















สวนลุม  เป็น ที่ที่มีผู้คน ไปออกกำลังกาย ตอนเช้าเยอะที่สุด มาตั้งแต่ เปิดสวนลุม ให้ผู้คนออกกำลังกาย ในตอนเช้า  ตั้งแต่ เมื่อประมาณ  30 กว่าปีแล้วครับ
สมัยก่อน  จะมีการจับกลุ่มกันเป็น ชมรม หลายๆชมรม  ...   มีทั้งการออกกำลังกาย แบบร้านรำมวยจีน แบบไทเก็ก  ,  ชมรมวิ่ง  ,  ชมรมเดินเร็ว  ,  ชมรมโยคะ  ฯลฯ
โดยมาก ก็มาออกกำลังกันตั้งแต่ ประตูสวนลุม เปิดตั้งแต่ พระอาทิตย์ ยังไม่ขึ้นเลยครับ
ออกกำลังกันเสร็จ  ก็ จับกลุ่มนั่งเสาวนากันบ้าง   ดื่มน้ำชากัน บ้าง  ....   บ้างก็เตรียม ข้าวของ ใส่ภาชนะ มาร่วมทานกันเป็น กลุ่มๆ
แต่   สำหรับ คนที่ออกกำลังกายแล้ว ไม่ได้เตรียมอะไรมาทานตอนเช้า ก็จะมาทางประตู ทางด้าน ซอย สารสิน นี่แหละครับ
ออกจากประตูสวนลุม ด้านนี้ เลี้ยวซ้าย  ....  ก็ จะเจออาหารการกิน เกือบครบทุกชนิดและประเภทเลยครับ
มีตั้งแต่อาหารสด  ,  ปลาสด , ผักสด , เนื้อหมูสด ,  ผลไม้  และ ร้านอาหารเรียงรายให้เลือกมากมายครับ  ...  โดยเฉพาะ อาหารที่เป็นที่ นิยมทาน ของ ชาวไทยเชื้อสายจีน ครับ

" อยู่ตรงนี้ ไม่อร่อย อยู่ไม่ได้ครับ "
เพราะ ในยุคแรกๆ ของการออกกำลังกายที่ สวนลุม  .. สมาชิกที่มาออกกำลังกายทั้งหลาย ส่วนใหญ่ เป็น พ่อค้า , เจ้าของกิจการ  เชื้อสายจีน ซะเป็น ส่วนใหญ่ และ แต่ละท่าน ก็เป็น นักทานตัวยง   ทั้งนั้นครับ
ถ้าเราดู ประเภทอาหาร ที่ ตั้งรถริมรั้ว ด้านนี้แล้ว จะสังเกตุได้ว่า  เอาใจกลุ่มลูกค้ากลุ่มใหญ่กลุ่มนี้เลยครับ  ....  มีทั้ง   ร้านเกาเหลาเลือดหมู  ,  ร้านข้าวต้มกุ๊ย (ข้าวต้มกับ)  ,  ร้านข้าวต้มเครื่อง (ข้าวต้มปลา)  ,  ร้านกระเพาะปลา  ,  ร้านรังนก  ,  ร้านข้าวแกง , ร้านกาแฟ , ร้านน้ำผลไม้  ,  ร้านขายของ ฯลฯ
เอาเป็นว่า  แทบจะยก เยาวราช  มาตั้งไว้ที่นี่เลยทีเดียวครับ















มาถึง    " ร้าน  เกาเหลา เลือดหมู "      ร้านโปรด ร้านนี้ของผมดีกว่า ครับ

จุดเด่นของ เด่น ของเกาเหลาเลือดหมู  ร้านนี้ มีดังนี้ ครับ

เครื่องใน   .........  ไม่ว่า จะเป็น   เซี่ยงจี๊ , ไส้ , กระเพาะ , หัวใจ  ฯลฯ   ...  สด ไม่มีกลิ่นคาวเลยแม้แต่น้อย เลยครับ  
ด้วยการล้างแบบ   " ไหลน้ำ "     แบบ พ่อครัวเชื้อสายจีน  ที่่ทำกันมาตั้งแต่อดีต  และ ถ่ายทอดกัน  รุ่นสู่รุ่น  ช่วย  ทำให้ เครื่องในร้านนี้  สดและอร่อย ขึ้นอีกเยอะเลยครับ

ใบตำลึง   ..........   ร้านเกาเหลาเลือดหมู ในยุคนี้  ....  หลายๆเจ้า มักหันมาใช้   " จิงจูไฉ่ "    สมุนไพรจีน ที่กำลังนิยมกัน
แต่เจ้านี้  ที่เค้าเปิดมากว่า 30 ปี  ...  ก็ยังคงใช้  " ใบตำลึง "   มาตลอดครับ
ไม่ว่า ตลาดจะนิยมยังไง  ...   แต่ผมเองก็ยังชอบ  เกาเหลาเลือดหมู ที่ใส่  ใบตำลึง  มากกว่าครับ  ..  ชอบจนต้องสั่งเพิ่ม ออฟชั่น ด้วยการ เบิ้ลใบตำลึง ทุกครั้งที่ไป ครับ

น้ำซุป   ..........   น้ำต้มกระดูก  ที่ใส่เครื่องยาจีน  หอมฉุย  เคี่ยวไฟอ่อนๆ  มา  จนน้ำซุป ออกรสหวานอ่อนๆ ของ น้ำต้มกระดูก  ...    น้ำซุปร้านนี้  ผมชอบตรงที่เค้าใส่พริกไท  ได้แบบ สะใจ ผมจริงๆครับ

น้ำส้มพริกตำ   ..........   พริกน้ำส้ม หรือ น้ำส้มพริกตำ  นี่แหละครับ  เป็นองค์ประกอบ ของ เกาเหลาเลือดหมู ที่ ละเลยไม่ได้เลยครับ  ..  พริกแดง ทั้ง ขี้หนูและชี้ฟ้า  มีกลิ่นกระเทียมและหอมแดงเล็กน้อย   (เจ้าของร้าน เค้าไม่ยอมบอกสูตรครับ  ผมเดาเอาเองครับ)   ...  น้ำส้มพริกตำที่นี่ นี่แหละครับ ที่ช่วยขับความอร่อยให้อร่อยเพิ่มขึ้นอีกมากโข เลยครับ  ...  ที่สำคัญ ร้านนี้เค้าเลือกใช้ เครื่องปรุงอย่างดีหมดครับ  ไม่ว่าจะเป็น น้ำปลา หรือ ซีอิ๊วขาวครับ

และ  ที่เด่นที่สุด  ก็คือ  วิธีการ ลวก เกาเหลาเลือดหมู   ของร้านนี้ครับ  หลายๆร้าน พอขายดีแล้ว  มักจะลวกโน่น ลวกนี่ ไว้ล่วงหน้า แล้วแช่น้ำไว้  พอจะขายถึงเอามาลวกน้ำร้อน แล้วตักน้ำซุป ราดลงไป แล้วก็เสิร์ฟ
แต่  .....   ร้านนี้ไม่ใช่ครับ
ที่นี่เค้าจะ หั่นทุกส่วนที่ขาย  สดๆ ไว้ในชามสแตนเลส แยกประเภทไว้แต่ละชนิด
พอเราสั่ง แบบ วุ่นวายตามใจเราแล้ว   (บางคน ก็ไม่ใส่โน่น ไม่เอานี่  5555)   ....  เค้าถึงจะหยิบเอา เครื่องใน หรือ สิ่งที่เราสั่งทั้งหมด  ..  ใส่ลงในหม้อน้ำซุปใบเล็ก  ที่ทำ ชามต่อชาม
ข้อดีก็คือ   น้ำ และ รสชาติ จากวัตถุดิบ ยังอยู่ใน ชามเกาเหลา ของเราครับ

เอาหละครับ  ...  ผมเขียนเอง  ยังหิวเองเลยครับ
เกาเหลา  ใส่ เซี่ยงจี๊  ตับ  หมูสับ  และ เลือดเยอะ ซักชามมั้ยครับ
อีกทีนึงครับ   ...   ร้านนี้อยู่ ริมรั้ว สวนลุมฯ  ด้านซอยสารสิน
อยู่ระหว่าง ต้นก้ามปูใหญ่ 2 ต้น  .. และ  อยู่เยื้องๆ  ร้าน  Brown Sugar  เดิม ครับ
ลองไปชิมกันดู นะครับ





แผนที่ร้านอาหาร ทั้งหมดที่ผมเขียนแนะนำ ไว้ใน   " แนะนำ ร้านอาหารอร่อย โดยป๋าปึกส์ "
https://mapsengine.google.com/map/edit?authuser=0&hl=en&mid=zi7qOsZPeff0.kmjHpvkh5cmM



ป๋าปึกส์
19/11/2557
ขอแนะนำ ร้านโปรดของผู้เขียน
 : http://restaurantaroi.blogspot.com/2010/11/tengoku-1.html
 : http://restaurantaroi.blogspot.com/2010/11/tengoku-2.html
 : http://restaurantaroi.blogspot.com/2011/05/tengoku-de-cuisine.html

ติดตาม คอลัมน์ แนะนำร้านอาหารอร่อย โดย ป๋าปึกส์ ได้ทุกวันใน  Facebook


ได้ที่  : http://www.facebook.com/SuebsaengSun







วันจันทร์ที่ 17 พฤศจิกายน พ.ศ. 2557

Danisa .. Bakery and Cafe .. เชียงใหม่

Danisa  ..   Bakery and Cafe  ..  ถนน ราชพฤกษ์  ..  หางดง  ...  เชียงใหม่ 















หากเราขับรถ เลียบคลอง ชลประทาน จาก มหาวิทยาลัยเชียงใหม่  มุ่งหน้า ไปทาง หางดง และ เสมิง  ..  พอจะถึง ไฟแดงแยก   อุทยานหลวง ราชพฤกษ์  หรือ  ทางเข้า  Night Safari  ก็ ชิดซ้ายเลยครับ
แล้วเลี้ยวซ้าย  มาประมาณ กิโลกว่าๆ  เลย  ร้านอาหารไทย  หรือ สวนอาหารชื่อดัง  ข้าวเม่า-ข้าวฟ่าง   มานิดเดียวครับ   ...   ร้านนี้อยู่ฝั่งซ้ายมือ (ถ้ามุ่งหน้ามาทาง ถนนด้าน หางดง)
เป็นร้านเล็กๆ   ..  บรรยกาศร่มรื่น  น่ารักดีครับ

และ  ...  หากได้ รู้เรื่องราว  ของ ร้านนี้ บ้าง ...   ผมเชื่อว่า  หลายๆคน  คงจะต้อง รีบไปลอง เลยหละครับ

ถ้าเอ่ย ถึง   Mango Cheese Cake   ที่ ร้าน  Upper Crust  ที่ ข้างสถานี รถไฟ เชียงใหม่  ..  ผมเชื่อว่า  นักทาน ขนม น่าจะคุ้นเคยเป็นอย่างยิ่งครับ
หรือ  ถ้าไปไกล  อีกนิด  ..  บินข้ามไป ประเทศ ลาว  ที่ เมืองหลวงพระบาง  ...  เมืองท่องเที่ยว อัน คลาสสิค ของประเทศลาว  ..  ผมว่า  คงไม่มีใคร  พลาด  ร้าน  JOMA   ....  ร้าน กาแฟ  , ขนม  และ อาหารที่ดังที่สุด  ร้านนึงของ ประเทศลาว เลยก็ว่าได้  ครับ

ทั้งสองร้านดัง  ที่ผมกล่าวมาด้านบน  ......   เกี่ยวพัน กับ  ร้านเค้กเล็กๆ  ที่ แนะนำใน วันนี้ เลยครับ
ไม่เล่าต่อแล้วครับ   ....  อยากรู้ ก็ ตรงไปร้านนี้  ...  ถามหา พี่ Danisa  ให้พี่เค้าเล่าให้ฟังเอง  สนุกกว่าเยอะครับ















ที่ร้านนี้ ไม่ได้มีเพียงแค่  กาแฟ และ ขนม  เท่านั้นนะครับ  
วันนี้ ผมพา ภรรยา ไปด้วยกัน  ตั้งแต่เช้าเลยครับ  ไปทานอาหารเช้าครับ  ได้รับคำแนะนำ และ ชวนไปทาน  จากน้องสาว คนสวย    (คุณ Nam Barclay)  ที่ต้องไปส่งลูกสาว ใน โรงเรียน อินเตอร์แถวๆนั้น
วันนี้ก็เลย จัดใหญ่ ครับ
เราเริ่มกันด้วย  อาหารเช้า กันก่อนครับ  ....   ผมหิว เลยสั่งของผม (โดยไม่ได้ถาม คนอื่นเลยครับ)  มาทาน 2   อย่างก่อน ครับ

Omelette    ...........   Omelette  สีสวย  รูปทรง สวย และ ดูดี  ...  หลายๆคน มักจะบอกว่า  เวลาดูเผินๆ  มันก็ไม่ได้ต่างกันกับ ไข่เจียว  บ้านเราเท่าไหร่ หรอก  
ต่างครับ   ต่างมากด้วยครับ  ...    พอตัดพอดีคำ  ตักเข้าปากปุ๊บ สัมผัสได้ปั๊บ  เลยครับ
ไข่ที่ด้านนอก  ดูเหมือนสุกจนเกรียม  ...   แต่ด้านใน สุกขาวนวล สีกำลังสวยเลยครับ
สัมผัสได้ถึง  รสชาติ ของ ชีส  กลมกล่อม  และ  ไม่มากจนทำให้เลี่ยน
พริกหวาน สีเขียว และ สีแดง  หั่นเป็นชิ้นลูกเต๋า เพิ่มสีสัน ความน่าทาน  ขึ้นมาอีกเยอะเลยครับ   ...  เสิร์ฟมาพร้อม  meat ball     รสกลมกล่อม   ...  แอบมีรสเค็มนำหน้าเล็กน้อย   แทบไม่ต้องปรุงอะไรเลยครับ   เคียงข้างมาด้วย ขนมปังโอลด์หวีต  ที่ทางร้านทำเอง  ...  จานนี้ ต้องลองเลยครับ

----------------------------------------------------------- 

Quiche   ............    คีช  เป็นอาหารว่าง แบบ ฝรั่งเศส  ที่มีรูปร้างหน้าตา  เหมือน พายเปิดหน้า  (ปรกติ พาย ส่วนใหญ่ จะมีแป้งปิดหน้า และ มีไส้นานาชนิดอยู่ด้านใน)
คีช  แบ่งออกเป็น 2 ส่วนครับ   คือ  ฐาน และ ไส้ ครับ  
ฐาน  ... เป็น แป้งที่นวดมาแบบพาย  อบมาจนเหลืองออกน้ำตาง กรอบน่าทานเลยครับ
ไส้  ...  ผมสั่งไส้เป็น ผักขม และ ชีส ครับ
เพียงแค่ตักคำแรกก็   ต้อง ครางเบาๆ เลยครับ  ...  อูวววววว   รสชาติได้ใจ ดีจริงๆ ครับ
สำหรับ  คนที่ไม่คุ้นเคยกับ รสชาติของ ชีส  ก็ลอง ขอ  Tabasco  ซ้อส  มาเหยาะไปซะหน่อย   รับรองว่า   แซ้บอีหลี   ขึ้นมาทันที ครับ   .....   จานนี้ เด็ด ครับ


สองอย่าง นี้ พร้อมกาแฟ ลาเต้  ร้อนๆ  .....   ชื่นใจดีจริงๆ ครับ
หลังจากเริ่มอิ่มท้องแล้ว  ก็ต้องต่อด้วย  ของหวาน จานโปรด ของผมเลยครับ
Mango  Cheese  Cake   ครับ


















Mango Cheese Cake  ...........   ตอนเดิน  เข้ามาในร้าน  ผมก็ไปยืนเล็ง   จานนี้มาตั้งแต่ใน ตู้โชว์ เค้ก แล้วครับ   ....    แค่เห็นสีสัน ก็อยากทานเต็มทนแล้วครับ
พอสั่งมา    ...  ตักเข้าปากคำแรก เท่านั้นครับ  ....  โอววววว   .....  ร้องคราง จนทุกคนหันมามองเลยครับ
รสชาติ ของ ชีส นวลๆ  นุ่มๆ  คล้ายๆ ฟิลลาเดเฟียชีส  ตัดกับ รสชาติของ มะม่วงน้ำดอกไม้  ที่หั่นเป็น ชิ้นเล็ก ชิ้นน้อย  แทรกตัว  อยู่ในเนื้อ ชีส  มีรสเปรี้ยวอมหวาน   ..  บวกกับ  น้ำราด ทีมี รสหวานอมเปรี้ยว  สีเหลืองสวย
โอวววว   ทุกรสชาติ  ทุกสัดส่วน   มันช่าง  ผสมผสานกันลงตัว ดีจริงๆครับ   มีครบทุกรสครับ  ทั้งรสของชีส  ..  รสของมะม่วงน้ำดอก   ซึ่งเปรี้ยวอมหวาน   ช่างตัดกันได้ดีจริงๆครับ   ....  อร่อยสมคำร่ำลือ ครับ 
 จานนี้  ผมทานยังไม่ทันหมด   ก็หันไปบอกน้องพนักงานว่า    ช่วยจัดใส่กล่องให้อีก  2  ชิ้น
จะเอากลับไปแช่ ตู้เย็น ไว้แอบทาน คนเดียวครับ


ร้านนี้อยู่ไม่ไกล ครับ  ...   หากวางแผน จะไป ช้อบปิ้ง แถวๆ บ้านถวาย  หรือ  ไปเที่ยว  สวนราชพฤกษ์  ,  ไนท์ซาฟารี  หรือ จะขึ้นดอยไปทาง อำเภอเสมิง    ....   ลองแวะ ร้านนี้เลยครับ  .. รับรอง อร่อยถูกใจ จริงๆ ครับ


Danisa  
ร้านนี้  อยู่  เลขที่  11/1  ถนน ราชพฤกษ์  ,  ตำบล หนองควาย  ,  อำเภอหางดง  ,  เชียงใหม่
โทร    052-001-120


แผนที่ร้านอาหาร ทั้งหมดที่ผมเขียนแนะนำ ไว้ใน   " แนะนำ ร้านอาหารอร่อย โดยป๋าปึกส์ "
https://mapsengine.google.com/map/edit?authuser=0&hl=en&mid=zi7qOsZPeff0.kmjHpvkh5cmM



ป๋าปึกส์
/2557
ขอแนะนำ ร้านโปรดของผู้เขียน
 : http://restaurantaroi.blogspot.com/2010/11/tengoku-1.html
 : http://restaurantaroi.blogspot.com/2010/11/tengoku-2.html
 : http://restaurantaroi.blogspot.com/2011/05/tengoku-de-cuisine.html

ติดตาม คอลัมน์ แนะนำร้านอาหารอร่อย โดย ป๋าปึกส์ ได้ทุกวันใน  Facebook
ได้ที่  : http://www.facebook.com/SuebsaengSun