Translate

วันอาทิตย์ที่ 31 ตุลาคม พ.ศ. 2553

Wine Gallery ... แหล่งรวม ไวน์ ดีๆ ที่ เชียงใหม่


" Wine Gallery "  ...  แหล่งรวม ไวน์ ดีๆ  ที่ เชียงใหม่


                      การเลือก เครื่องดื่ม  เพื่อดื่มพร้อมกับอาหาร  ในบ้านเรา มีการเปลี่ยนแปลงไปมากเลยครับ โดยเฉพาะ ในช่วงสิบกว่าปี ที่ผ่านมา  ...  ถ้าเรามองย้อนกลับไปในอดีต  มีคนไทยไม่มากนักที่ทาน อาหารพร้อมไวน์  ...  แต่เมื่อราวสิบกว่าปีที่ผ่านมานี้  ในบ้านเรา ... " ไวน์ "     เข้ามาเป็นเครื่องดื่มที่มีบทบาท และ ได้รับความนิยมเพิ่มมากขึ้น ...  จนปัจจุบันนี้ เกือบ ทุกร้านอาหาร ในบ้านเรา ไม่ว่าจะเป็น อาหารไทย อาหารจีน หรือ อาหารฝรั่ง ต่างก็ มีไวน์ วางขายกัน ในร้านอาหาร เกือบทุกร้าน ... บางร้านอาหาร ก็ขายไวน์ เพราะเจ้าของร้านทราบดีว่า   ไวน์ประเภทไหน  เข้ากับ อาหารตัวเองอย่างไร ...  บางร้านก็ขายไวน์  เพื่อเป็นการ  Upgrade   ร้านตัวเอง  ...  ทั้งๆที่เจ้าของ ร้านบางร้าน ยังไม่รู้เลยว่า ไวน์ประเภทไหนควรทาน กับอาหารอะไร




              










                     ผมคงไม่เขียนถึง รายละเอียดของไวน์มากนัก ... เพราะมีหนังสือ มากมายหลายฉบับ ที่เขียน เกี่ยวกับไวน์ ...   ผู้รู้มากมาย ได้อธิบายเรื่องราว ต่างๆของไวน์ ไว้อย่างละเอียดแล้ว   ทั้งเรื่องราวเกี่ยวกับประวัติความเป็นมา  ,  สายพันธุ์ขององุ่น  ,  วิธีการผลิต  ,  การเลือกชนิดไวน์ให้เหมาะกับประเภทของ อาหาร ....  ผมเองก็หาซื้อหนังสือเหล่านั้น มาอ่านประดับความรู้ มากมายหลายเล่มจนเต็มบ้าน ไปหมด เลยครับ    ....  ไวน์ เพิ่มความนิยมในประเทศเรามากขึ้นทุกวัน  จนปัจจุบัน มีคนไทยหลายท่านที่โปรดปราณ และหลงใหล เสน่ห์ ของไวน์ ........  จนลงมือทำไร่องุ่น และ โรงงานผลิตไวน์ของตัวเอง ในหลายจังหวัดทั่วประเทศ  บางท่านลงทุนไปซื้อ ชาโตว์ ในฝรั่งเศส ก็มี  นี่ก็แทบจะเป็นบทพิสูจน์ได้ดีว่า  ความต้องการทางตลาด ในบ้านเรา  มีมากเพิ่มขึ้น ขนาดไหน ... ถึงได้มีคนลงทุน มากมาย และ ผลิตไวน์ เพื่อออกขายทั้งในประเทศ และ ส่งออก








                       สิ่งที่สำคัญพอๆกับการผลิต  อีกอย่างนึง  ก็คือ   " การเก็บรักษาที่ถูกต้อง "   ซึ่งเรื่องนี้ก็มีหลายตำราเขียนเอาไว้ ....  และยังมีผลอย่างมากที่จะทำให้ ไวน์ แต่ละขวดนั้น มีรสชาติ ที่ดี  หรือ ไม่ดี ....   เรื่องนี้มันตรงกับ ประเด็น ที่ผมจะเขียนถึง   ร้านไวน์ร้านนึง  ซึ่งผมเห็นว่า  เค้ามีการเก็บรักษา อย่างเข้าใจไวน์จริงๆ  ไม่ว่าจะเป็น ไวน์แดง ไวน์ขาว หรือ แชมเปญ  เค้ารักษา อุณหภูมิ ได้อย่างถูกต้อง ตามประเภท เลยหละครับ    " ร้าน  Wine Gallery  "   ที่เชียงใหม่นี่เองครับ
                        ผมเป็นคนนึงที่ดื่มไวน์บ่อยๆ พอสมควร  ... มักจะเลือกซื้อไวน์ดีๆ จากที่นี่ ... ไม่ว่าจะแพง หรือ ถูก .. แล้วแต่โอกาส และ ผู้ร่วมรับประทานอาหารด้วย ....  แต่ผม ไม่ค่อยจะนิยมไวน์สำเร็จรูป  ที่ผลิตขายตามชายแดนบ้านเรามากนัก  ...   อาจะมีราคาถูกกว่า เพราะหนีภาษี  แต่การเก็บรักษา ไวน์ ที่ว่า นี่ซิครับ   อาจจะ เพราะ การเก็บที่มีอุณหภูมิ ไม่เหมาะสม ...  ก็เลย ทำให้ รสชาติของไวน์ ผิดเพี้ยนไปได้   .....   ที่  Wine  Gallery    เค้ามีการเก็บไวน์ที่ดีจริงๆ ครับ ... ไวน์ทุกขวดของที่นี่ ถูกเก็บในห้องเก็บไวน์ ที่ควบคุมอุณหภูมิ อย่างถูกต้องตลอด 24 ชั่วโมง
                        และข้อดี ของร้านนี้ อีกอย่างนึงก็คือ  เวลาที่เราเข้าไปเลือกซื้อไวน์   พนักงาน และ เจ้าของที่นี่  ก็จะแนะนำไวน์ดีๆ  ที่ราคาดีๆ ด้วยครับ ... ไม่ได้ สักแต่ว่า เชียร์ให้ซื้อ ไวน์แพงๆ อย่างเดียว .. เนื่องจากเค้าเป็นนักดื่มไวน์ ก็จะทราบว่าไวน์ยี่ห้อไหน ปีไหน ดีอย่างไร  ... เหมาะกับอาหารประเภทไหน ... ไม่ใช่ คนขายทั่วๆไป  ที่ อ่านมาจาก หนังสือแนะนำไวน์ .... ซึ่งหนังสือแนะนำไวน์ เดี๋ยวนี้เชื่อถือได้ไม่กี่ฉบับแล้วครับ ....  บางฉบับ เอเย่นต์ไวน์ใหญ่ๆในโลก ก็ครอบครองเป็นเจ้าของ หนังสือแนะนำไวน์ ซะเอง และเขียนเชียร์เฉพาะไวน์ที่ตัวเองมีขาย  .... 
                         จากความเข้าใจ และ รู้จริง ... แถมยังสามารถ ถ่ายทอดให้ลูกน้องได้เข้าใจ และ แนะนำแขกได้ด้วยแล้ว   เลยทำให้ร้านนี้ได้รับความนิยมมากที่สุดแห่งนึงในเชียงใหม่  และ  ยังมีไวน์บาร์เล็กๆ อีกห้องนึงติดกัน   สำหรับท่านที่บ่ายๆว่าง ก็ซื้อที่นั่นเปิดขวด ที่นั่นได้ตามสบายเลยครับ
                          ร้านนี้หาไม่ยากครับ อยู่เลขที่ 133 ถนน รัตนโกสินทร์ , ใกล้กับสนามกีฬาเทศบาล และ โชว์รูม Mercedes Benz  .... หรือจะโทรสอบถามเส้นทางได้ที่   053-252-234



ป๋าปึกส์
31/10/2553

ขอแนะนำ ร้านโปรดของผู้เขียน
 : http://restaurantaroi.blogspot.com/2010/11/tengoku-1.html
 : http://restaurantaroi.blogspot.com/2010/11/tengoku-2.html
 : http://restaurantaroi.blogspot.com/2011/05/tengoku-de-cuisine.html

ติดตาม คอลัมน์ แนะนำร้านอาหารอร่อย โดย ป๋าปึกส์ ได้ทุกวันใน  Facebook
ได้ที่  : http://www.facebook.com/SuebsaengSun




วันเสาร์ที่ 30 ตุลาคม พ.ศ. 2553

ข้าวผัดร่มโพธิ์ (สุดยอดรถเหลือง) ... เชียงใหม่


 " ข้าวผัดร่มโพธิ์ "     สุดยอดอาหารตามสั่ง (รถเหลือง)  ที่  เชียงใหม่


วันนี้  ลองเปลี่ยนบรรยากาศ กันดูบ้างนะครับ  
แนะนำ ร้านอาหาร ทั้งต่างชาติ และ ไทย   ตามร้านต่างๆ ในเมืองเชียงใหม่มาก็หลายแห่ง  ... 
วันนี้เลยอยากแนะนำ ให้ไปลองชิม   ....  ร้านที่เป็นรถเข็น  ข้างทาง   กันดูบ้างครับ
ร้านนี้ อยู่ไม่ไกลจากบ้านผม ... จึงเลือกเป็นร้านประจำครอบครัว เลยทีเดียวเชียวครับ
วันไหน ที่ค่อนข้างขี้เกียจ  ออกไปทานนอกบ้าน หรือ ขี้เกียจทำกับข้าวทานเองที่บ้าน   ก็มักจะเป็นลูกค้า รถเข็นร้านนี้   แบบผูกปิ่นโต   กันเลยทีเดียวครับ













" รถเหลือง "  ...    คือ สีของรถเข็นขายอาหาร  และ ขนม ในเชียงใหม่   ที่เค้านิยมทำสีรถเข็น  ให้เป็นสีเหลือง  ....    โดยไม่ได้มีอะไรเกี่ยวกัน หรือ เป็น นัยยะทางการเมือง เลยนะครับ ....  5555
รถเหลือง   เจ้านี้ ตั้งอยู่ข้างทาง      ต้นถนน ซุปเปอร์ไฮเวย์ เชียงใหม่-ลำปาง
อธิบายเส้นทางง่ายๆ แล้วกันนะครับ
ถ้าขับรถออกมาจาก   ถนนนิมมานเหมินทร์  จากแยกโรงแรมรินคำ  ที่มีห้างสวยๆ  MAYA  อยู่ตรงหัวมุม    ....  ตรงออกมาทาง  ถนนซุปเปอร์ไฮเวย์  .. ขับผ่านห้าง  Maya  มานิดเดียวครับ
พอใกล้ถึงจุดกลับรถอันแรก   ก็ชิดซ้ายหาที่จอดรถเลยครับ    จะเห็นร้านรถเข็น  (รถเหลือง)   จอดเป็นกลุ่มใหญ่   ไม่ต่ำกว่า 15 ร้าน   มี อาหาร และ ขนม นานาชนิด   อยู่ด้านซ้ายมือ ครับ














ร้านที่ผมแนะนำวันนี้ชื่อ   " ข้าวผัดร่มโพธิ์ "   
เป็น  รถเข็นสีเหลือง  ขายอาหารจานเดียว  ตามสั่ง  ...  มีผู้หญิงวัยกลางคน (เจ้าของ)   เป็นคนลงครัวเอง  แกจะจอดรถเหลืองของแก   อยู่ตั้งแต่ต้นทางของกลุ่มที่วางขายแถวนั้นครับ   มักจะจอด เป็นคันแรกๆของแถวเลยครับ อยู่ตรงกันข้ามกับ   อาคาร ศาลปกครองเก่า  ที่ตอนนี้กำลังรื้อแล้ว สร้างเป็น คอนโด  อยู่ นั่นแหละครับ
แต่ต้องขอบอกไว้ก่อนล่วงหน้าเลยนะครับ  เพื่อเวลาไปทานที่ร้านนี้ จะได้ไม่อารมณ์เสียครับ  ว่า  
ร้านนี้    " ช้าหน่อย   แต่   อร่อยแน่ "    ครับ
อาหารร้านนี้  ...  ไม่ว่าคุณจะสั่งอะไร   กี่จานก็ตาม  เจ้าของร้าน  จะลงมือทำอาหารเอง ทุกอย่าง  ทีละจาน อย่างตั้งใจและปราณีต  ...  ผมเอง ลองสั่งทาน มาครบเกือบหมดทุกจานแล้วครับ  ...  พอจะยืนยันได้ว่า  รสมือของแม่ครัวท่านนี้   ทำอาหารอร่อยถูกปาก   ทุกจานเลยครับ

      










อาหารอร่อยที่แนะนำให้ ลองสั่งทาน ครับ

ข้าวผัดกะเพรา    ..........    มีให้เลือกใส่  ทั้ง  หมู  ,  ไก่  ,  กุ้ง  ,  ปลาหมึก  ฯลฯ
จะเลือกสั่งเป็น   ข้าวราด หรือ ข้าวผัด ก็ได้นะครับ   ...  ผมชอบสั่งเป็น   ข้าวผัดกะเพราไก่สับ ไข่ดาวไม่สุกครับ  ...  ให้เค้าผัดไก่กับเครื่องกะเพราก่อน   แล้วเอาข้าวสวยลงไปผัดตาม  ผมว่ามันได้  รสชาติ ทุกกระเบียดนิ้วดีครับ  ...  รสชาติ จัดจ้านด้วยพริกสดตำ ตามสูตรลับของเจ้าของร้าน
กลิ่น  กะเพรา   หอม ลอยมาตั้งแต่ ลงกระทะ จนยกมาถึงโต๊ะ เลยทีเดียวเชียวครับ
รสชาติจัดจ้าน อร่อย ครบเครื่อง
เอาเป็นว่า  ผมชวนเพื่อนหลายๆคน ไปลองทาน ...  แทบทุกคน ที่ได้ลิ้มรส  เป็นต้อง   ติดอก ติดใจ  ยกนิ้ว  ให้เป็นหนึ่งในยุทธจักรผัดกะเพรา ของ ย่านนี้กันเลยหละครับ   จนเพื่อนผมหลายๆคน     ต้องกลับไปทานกัน ซ้ำแล้ว ซ้ำอีก   กันเลยทีเดียวเลยครับ  .


สุกี้แห้งแบบโบราณ  ...........   สุกี้แบบโบราณ  (ไม่เหมือน สุกี้เต้นรำ ตามห้างนะครับ)   สุกี้แบบนี้ ถ้าทานเป็นสุกี้น้ำ  เค้าจะทำแบบสำเร็จมาบนจาน และ ใส่น้ำจิ้มปรุงรส มาในถ้วยเลยครับ  ...  แต่ พอเอามาผัดเป็นสุกี้แห้ง ผมว่า รสชาติมันจัดจ้านดีกว่าครับ  ...  ผมชอบสั่งพิเศษ เพิ่มวุ้นเส้น ครับ  (ไม่อ้วนครับ)  จะให้ใส่อะไร ก็ มีให้เลือกใส่ได้  ทั้ง   หมู  ,  ไก่  ,  ทะเล ...  อร่อยเร้าใจดีครับ  จานนี้  

ข้าวผัดหมูใส่คะน้า  ..........   ข้าวผัดเป็นเม็ดสวย แต่ไม่แข็ง   หมูหมักนุ่มสุกกำลังดี   คะน้าชิ้นพอดีคำ  กรอบสีสวย  ...  ข้าวผัด ผัดได้อร่อย หอมกลิ่นเกรียมๆ นิดๆ  ตามแบบที่ผมชอบเลยครับ  ....  ข้าวผัดอร่อย  ต้องแห้ง  และ ได้กลิ่นไหม้ ๆ แบบติดกระทะ   นิดๆหน่อยๆ   ครับ

ข้าวคลุกกะปิ หมูหวาน    ..........   ข้าวคลุกกะปิ อร่อยแบบนี้หาทานยากครับ  .. แห้ง .. หอม ... เครื่องเคียงครบครัน  ....  หมูหวาน รสกลมกล่อม หวานนำ  ช่างแก้กันดี กับรส ของข้าวคลุกกะปิ

ข้าวราดเนื้อทอด ใส่ไข่ดาว   ..........   เนื้อวัวหมัก ออกรสเค็มนำหน้า  .. ทอดมาแบบเนื้อเค็ม  ชิ้นพอดีคำ  ...  น้ำมันที่ทอดเนื้อเอามาผัดข้าว  ได้กลิ่น ได้รส ดีครับ   ....   จานนี้ ก็เป็นอีกจาน ที่อร่อยหาตัวจับยากเลยเหมือนกันครับ สั่งคู่กับ ไข่ดาวไม่สุกซักฟอง  ....  โอววววว    เลยครับ

ยังมี รายการอาหารอีกหลายรายการ ที่ผมยังไม่เคยสั่ง  แต่เท่าที่ทานมา ก็พอจะ สันนิฐานได้ว่า อร่อยไม่แพ้กันกับที่เคยทาน แน่นอนครับ
ร้านนี้เริ่ม  เปิดประมาณ หกโมงเย็น  
เวลาปิด  ไม่แน่นอนครับ   แล้วแต่ว่า ฝนตกมั้ย  ...  แต่โดยปรกติจะปิด  ตอนดึกๆ เลยครับ  ....  ยกเว้นวันไหน ลูกค้าเริ่มขาดระยะ  ก็เริ่มเก็บแล้วครับ  แต่ส่วนมากจะเปิดจนเลยเที่ยงคืนครับ
ราคาถูกแสนถูก   ผ่านไปแถวนั้น ก็  ลองแวะไปชิมได้ครับ   

" กินอาหารให้อร่อยต้องใจเย็นๆ นะครับ "


แผนที่ร้านอาหาร ทั้งหมดที่ผมเขียนแนะนำ ไว้ใน   " แนะนำ ร้านอาหารอร่อย โดยป๋าปึกส์ "
https://mapsengine.google.com/map/edit?authuser=0&hl=en&mid=zi7qOsZPeff0.kmjHpvkh5cmM




ป๋าปึกส์
30/10/2553

ขอแนะนำ ร้านโปรดของผู้เขียน
 : http://restaurantaroi.blogspot.com/2010/11/tengoku-1.html
 : http://restaurantaroi.blogspot.com/2010/11/tengoku-2.html
 : http://restaurantaroi.blogspot.com/2011/05/tengoku-de-cuisine.html

ติดตาม คอลัมน์ แนะนำร้านอาหารอร่อย โดย ป๋าปึกส์ ได้ทุกวันใน  Facebook
ได้ที่  : http://www.facebook.com/SuebsaengSun



วันศุกร์ที่ 29 ตุลาคม พ.ศ. 2553

Fern Forest ... Cake อร่อยๆ ที่ เชียงใหม่


" Fern Forest "    แหล่งชุมนุม Cake อร่อยๆ กลางเมือง  เชียงใหม่

                 ต้องขอออกตัวก่อนล่วงหน้าเลยนะครับ  เกี่ยวกับร้านขนม และ ของหวาน ... เนื่องจากตัวผมเองเป็น พวกประเภท ที่มีความหวานในตัวอยู่แล้ว  เลยไม่ค่อยได้ทานของหวานมากนักครับ  (5555  น่าหมั่นไส้ดีมั้ยครับ) ... การแวะเวียนไปร้านนี้ ครั้งสุดท้ายของผม นับเป็นเวลาหลายปีเลยทีเดียวครับ  แต่สิ่งที่ทำให้ชอบและกลับมาที่นี่ ก็คือ  บรรยากาศ  ของที่นั่ง ดื่ม ชา กาแฟ ของที่นี่ ...  เค้าจัดอยู่ท่ามกลางร่มไม้ สวนเฟิร์น ต้นไม้น้อยใหญ่ ที่ช่างให้ความร่มรื่นยิ่งนัก และ เสียงน้ำไหลริน  ถึงแม้ที่นี่จะอยู่กลางใจเมืองเก่า ที่มากมายไปด้วยผู้คน  แต่ไม่ได้ทำให้รู้สึกเหมือนอยู่ในเมืองเลยแม้แต่น้อยครับ .. ถ้ามาที่นี่ตอนบ่าย ๆ   ยังสัมผัสได้ถึงร่มรื่น  ที่เสมือนอยู่กลางขุนเขา แห่งเมืองเชียงใหม่ เลยหละครับ   โดยเฉพาะในช่วงหน้าหนาว  ที่กำลังจะมาเยือน ... ไม่ต้องออกไปไกลที่ไหนเลยครับ  มาที่นี่ก็มี บรรยากาศ และ อารมณ์ รวมไปถึง เค้ก และ พาย อร่อยๆ ครับ



ด้านหน้าของร้าน

               











                   ร้านนี้สำหรับคนต่างถิ่น  หากขับรถมาเองอาจจะ งง บ้างเล็กน้อยเพราะอยู่ในเขตเมืองเก่า ...  อย่าว่าแต่นักท่องเที่ยวเลยครับ แม้กระทั่งผมเอง กว่าจะขับรถในย่าน คูเมืองเชียงใหม่ ได้ ก็ใช้เวลาเป็นปีๆ เลยหละครับ ..  อธิบายทางมาร้านนี้ง่ายๆก็คือ  ขับรถรอบคูเมืองด้านใน ผ่านประตูช้างเผือก  เลยไปซักหน่อย จนถึงซอยทางเข้าห้าง สยามทีวีเก่า หรือ ถนนสิงหราช เลี้ยวเข้ามาเลยครับ พอเข้ามานิดเดียว ก็จะเจอ ซอยสิงหราช ซอย 4  อยู่ด้านซ้ายมือ เลี้ยวเข้ามานิดเดียวก็หาที่จอดได้เลยครับ ร้านนี้จะอยู่ขวามือครับ  มีป้ายติดบอกทางเป็นระยะๆ คอยสอดส่องดูนะครับ  บางอันก็ถูกบัง ถูกเบียด จนแทบมองไม่เห็นเหมือนกันครับ 




             











                    พอเข้ามาในร้าน  ก็จะเห็นตู้ใส่เค้ก และ พาย วางโชว์อยู่หน้าบ้าน ... พร้อมเคาน์เตอร์เครื่องดื่ม  ผมมันประเภทไม่ชำนาญของหวาน แต่พอเห็นในตู้ ...โอว....สีสันของเค้กและพาย ช่างยั่วยวนซะเหลือเกิน ครับ ...  เลยสั่งโดยวิธีชี้เอาครับ (เรียกชื่อไม่ถูกครับ)  ... 
                    สั่งมาทานสองอย่างด้วยกันอันนึงเป็น " พายกล้วยหอม " ... น่าทานมากครับ หั่นกล้วยหอมเป็นชิ้นขนาดกำลังดี พอดีคำ  วางตั้งในเนื้อเค้ก สีกล้วยหอมตัดกับสีเค้ก ยังกับลายกระเป๋าหลุยส์ยังไงยังงั้น   มีครีมราดมาออนท้อป ... โอววววว ... ไม่ได้สวยอย่างเดียว อร่อย อีกต่างหาก เลยละครับ  ....  จานที่สองรู้สึกว่าจะเป็น  " ชีสพายหน้าราสเบอร์รี่ "     อร่อยไม่แพ้กันเลยละครับ  ผมไปกัน 3 คน   หลังอาหารกลางวันเลยทานไม่ได้เยอะ   แต่ยกนิ้วให้เลยครับ อร่อยทั้งสองอย่าง   อ้อ   เกือบลืมไปครับ   กาแฟเย็นอร่อยมากๆๆๆๆ  กลมกล่อม หวานมันเร้าใจดีครับ
                     ไปเจอร้านอร่อย  บรรยากาศดีๆ ก็อยากให้เพื่อนๆได้ ไปลองชิมกันครับ  ร้านนี้เปิด 08.30 น.  ถึง 20.30 น.    ไปไม่ถูกก็ลองโทรไปสอบถามได้ครับ ที่  053 416 204



ป๋าปึกส์
29/10/2553


ขอแนะนำ ร้านโปรดของผู้เขียน
 : http://restaurantaroi.blogspot.com/2010/11/tengoku-1.html
 : http://restaurantaroi.blogspot.com/2010/11/tengoku-2.html
 : http://restaurantaroi.blogspot.com/2011/05/tengoku-de-cuisine.html

ติดตาม คอลัมน์ แนะนำร้านอาหารอร่อย โดย ป๋าปึกส์ ได้ทุกวันใน  Facebook
ได้ที่  : http://www.facebook.com/SuebsaengSun

วันพฤหัสบดีที่ 28 ตุลาคม พ.ศ. 2553

ก๋วยเตี๋ยวน้ำเงี้ยว (อร่อยสุดๆ) ที่ เชียงใหม่

" ก๋วยเตี๋ยวน้ำเงี้ยว  "     อร่อยสุดๆ  ย่านเอื้ออาทร  หนองหอย  ที่   เชียงใหม่

" น้ำเงี้ยว "   หรือ  " น้ำงิ้ว "    เป็นอาหารประจำภูมิภาค  ทางตอนเหนือของประเทศไทย  รวมไปถึงประเทศเพื่อนบ้านใกล้เคียง
น้ำเงี้ยว  เป็น น้ำแกงรสชาติออกเค็มและเผ็ดเล็กน้อย  มีรสเปรี้ยวจากมะเขือเทศนำหน้า
ชาวไทใหญ่  มักจะเรียกน้ำเงี้ยวว่า   " น้ำหมากเขือส้ม "
น้ำพริกแกง ของ น้ำเงี้ยว จะคล้าย น้ำพริกแกงส้มของภาคกลาง  ใช้ พริกแห้ง  แต่ไม่ใส่กระชาย ใส่ถั่วเน่าแผ่น  หรือ เต้าเจี้ยว  หรือ ทั้งสองอย่าง   ...  มักจะแกง เพื่อรับประทานกับ ขนมจีน (ขนมเส้น)  หรือ เส้นก๋วยเตี๋ยว
และ ที่มีชื่อเรียกว่า  น้ำเงี้ยว  หรือ  น้ำงิ้ว  ก็เพราะว่าเป็นอาหาร  ที่มีส่วนประกอบ ของ ดอกเงี้ยว หรือ ดอกงิ้ว  นั่นเองครับ
ปัจจุบัน ยังคงเป็นอาหารยอดนิยม ใน ภาคเหนือตอนบน และ ประเทศใกล้เคียง



                             เกือบทุกวัน พอใกล้ช่วงเวลาอาหารกลางวัน  ...  ผมมักจะชวนน้องๆ ที่ทำงาน   ออกตระเวนหาอะไร  ที่มันง่ายๆ  เช่น ก๋วยเตี๋ยว  ,  ก๋วยจั๊บ  ,  ข้าวซอย  ,  ขนมจีน ทานกันอยู่เป็นประจำ
วันนี้ก็เป็นอีกวัน ที่อยากหาอะไรทาน ที่ไม่หนักมากนัก  ...   หลังจากเมื่อวานไป ตลุย ชิมอาหารที่  ลำปาง  ...  มื้อกลางวัน มื้อเดียว  เล่นตระเวน ชิม    ร้านอาหารถึง  3  ร้านเลยครับ  เล่นเอา จุกแทบตาย เลยครับ   ...  เมื่อวาน ถ้าผมไม่ได้   ยาธาตุน้ำขาว ตรากระต่ายบิน ช่วยไว้  ...   สงสัยนอนไม่ได้แน่เลยครับ   (เจ้าของบริษัทยา กรุณาส่งมาให้  ผมซักโหลนึง ด้วยครับ 555)  
                             วันนี้เพื่อเรียกร้องความสนใจ ให้น้องๆที่ทำงานอยากไปด้วย  ก็เลยชวน น้องๆ  โดยผมบอกว่า   ไปหา   " ก๋วยเตี๋ยวน้ำเงี้ยว "  ทานกันดีกว่า
ฟังดูออกจะแปลก  สำหรับคนจากภูมิภาคอื่น ...  ซึ่งปรกติมักจะได้ยินแต่   " ขนมจีนน้ำเงี้ยว "   หรือ   " ขนมเส้นน้ำเงี้ยว "   ซึ่งเป็นอาหารดั้งเดิมของ  ชาวไทใหญ่
ชาวไทใหญ่  จะเรียกว่า  ขนมจีนน้ำเงี้ยวว่า    " ข้าวซอยเงี้ยว "  ....   ถ้าเป็นแบบดั้งเดิม ของเค้า  จะใช้  เส้นก๋วยเตี๋ยวเส้นใหญ่ แทน ขนมจีน  ที่ใช้กันทั่วไปในปัจจุบัน ...  ส่วน น้ำแกงของน้ำเงี้ยว  ก็ทำจาก น้ำต้มกระดูกหมู , ซี่โครงหมู , หมูสับ , เลือดหมู , พริกแกง , มะเขือส้ม(มะเขือเทศ) , ดอกเงี้ยว(งิ้ว) , ถั่วเน่าปิ้ง .....  แล้วทานแกล้มด้วย  ถั่วงอก , กล่ำปลีซอย , ผักกาดดอง , พริกแห้ง หรือ พริกแห้งตำแล้วผัดน้ำมัน  แล้วปรุงรสด้วย มะนาว และ น้ำปลา ตามแต่ใครจะชอบรสไหน

                   










                           ร้านที่ผมจะแนะนำวันนี้  ไม่ได้เป็น ร้านอาหาร เหมือนร้านทั่วไป แบบที่ผมเคยแนะนำนะครับ ...  ร้านนี้ เป็นเพิงเล็กๆ  ที่ตั้งอยู่หน้าบ้านของเจ้าของร้าน เท่านั้นเองครับ
มีขายทั้ง  " ก๋วยเตี๋ยวน้ำเงี้ยว "   และ  " ข้าวซอย "
ผมจะชอบ  ก๋วยเตี๋ยวน้ำเงี้ยว  เจ้านี้ มากกว่า ข้าวซอย ซึ่งค่อนข้างเหมือนๆ กับข้าวซอยที่ร้านอื่น ๆ
ร้านนี้เข้าออกได้หลายทางครับ  ...  ขออธิบายเส้นทางที่คิดว่าน่าจะง่ายที่สุด แล้วกันนะครับ
ถ้าออกจากในเมือง วิ่งถนนเลียบน้ำปิง ผ่านค่ายกาวิละ (ให้ค่ายกาวิละ อยู่ด้านซ้ายมือ นะครับ)   ขับมาเรื่อยๆ จน ผ่านไฟแดงตรงโรงแรม   Holiday Inn  แล้วก็ มาอีกไม่ถึง 1 ก.ม.  จะมีซอยใหญ่ๆ อยู่ซ้ายมือ   ปากซอย มีร้านติดเครื่องเสียงรถยนต์ ร้านใหญ่มาก ชื่อ " นิคซาวน์ "   ....  เลี้ยวเข้ามาเลยครับ ตรงไปจนสุดถนน จะเห็นแนวเสาไฟฟ้าแรงสูง ... เลี้ยวซ้าย แล้วตรงไปจนสุด สนามเทนนิส แล้วเลี้ยวขวา  ไปอีกซักไม่กี่ร้อยเมตร  จะเจอร้านนี้  ลักษณะเป็น   เพิงเล็กๆ    อยู่ซ้ายมือ
มีป้ายตั้งอยู่หน้าร้าน เขียนไว้ว่า    " ร้านโชคดี "     มีที่นั่ง อยู่ซัก 5 โต๊ะ   (แต่ ร้อนหน่อยนะครับ)

                           ร้านเป็นถึงแม้จะเป็น  " เพิง "  ธรรมดาๆ  แต่อาหาร ไม่ธรรมดา เลยครับ  ...  คุณป้าเจ้าของร้านเป็น ชาวไทใหญ่ (แต่ส่วนใหญ่ ลูกสาวเป็นคนขายครับ)   แกทำเส้นเองครับ ....  เส้นจะคล้ายๆ เส้น บะหมี่ (ใหญ่กว่า เส้นบะหมี่ ธรรมดาของบ้านเรานืดนึง)  เส้นอวบ แต่ในนุ่ม  .....
เห็นร้านเล็กๆอย่างนี้  ถ้าไปเที่ยงตรงหาที่นั่งแทบไม่ได้  แล้วยังมีมาจอดรอซื้อใส่ถุง อีกเต็มไปหมด เลยครับ  .....  จานที่ ขอแนะนำ และ  เป็นจานโปรดของผม ก็คือ  

บะหมี่เหลืองน้ำเงี้ยว  ........   ที่ต้องเป็น  บะหมี่เหลือง  ก็เพราะที่นี่เค้าทำเส้นเองนั่นเอง   น้ำซุบของน้ำเงี้ยว   รสชาติกลมกล่อม    มีรสเปรี้ยวละมุน ของ มะเขือเทศน้ำหน้าเล็กน้อย  ...  กลิ่น ดอกงิ้วที่ลอยหน้าบนน้ำแกง  หอมโชย  ....  ซี่โครง ที่ใส่มาในน้ำเงี้ยว  ชิ้นขนาดกำลังดี และ เปื่อยได้ที่ดีครับ
บีบมะนาวซักซีกนึง   เหยาะ น้ำปลา ซักหน่อยนึง    ...  ใส่พริกคั่ว ซักครึ่งช้อนชา
โอววววววว  อร่อยจน  ต้องสั่งเบิ้ล  ทุกครั้งที่ไปทานเลยละครับ
       

ลองแวะไปชิมดูนะครับ เพิงน้อยๆหลังนี้อร่อยแน่ ไปไม่ถูกก็โทรไปถามได้ที่     081-169-5857
กรุณา โทรไปเช็ค  ก่อนไปทานนะครับ   ....  ร้านนี้ ไม่ได้เปิดทุกวัน  แล้วแต่ วันไหนอยากขายเท่านั้นครับ


แผนที่ร้านอาหาร ทั้งหมดที่ผมเขียนแนะนำ ไว้ใน   " แนะนำ ร้านอาหารอร่อย โดยป๋าปึกส์ "
https://mapsengine.google.com/map/edit?authuser=0&hl=en&mid=zi7qOsZPeff0.kmjHpvkh5cmM




ป๋าปึกส์
28/10/2553

ขอแนะนำ ร้านโปรดของผู้เขียน
 : http://restaurantaroi.blogspot.com/2010/11/tengoku-1.html
 : http://restaurantaroi.blogspot.com/2010/11/tengoku-2.html
 : http://restaurantaroi.blogspot.com/2011/05/tengoku-de-cuisine.html

ติดตาม คอลัมน์ แนะนำร้านอาหารอร่อย โดย ป๋าปึกส์ ได้ทุกวันใน  Facebook
ได้ที่  : http://www.facebook.com/SuebsaengSun





วันอังคารที่ 26 ตุลาคม พ.ศ. 2553

ข้าวซอยป้าศรี ... แถวๆ ม.แม่โจ้ ที่ เชียงใหม่

ข้าวซอย  " ป้าศรี "   ... แถวๆ   มหาวิทยาลัย แม่โจ้  ...  ที่  เชียงใหม่











                


                        วันนี้ ขอพาไปชิม  " ข้าวซอย "  เจ้าอร่อย อีกเจ้านึงครับ ... แต่อยู่นอกเมืองหน่อยนะครับ  ใกล้มหาวิทยาลัย แม่โจ้ ... ถ้าเราขับรถออกจากย่านกลางเมือง จากแยกโรงพยาบาล เทพปัญญา ที่ถนนซุปเปอร์ .. ขับตรงมาเรื่อยๆ มุ่งหน้ามหาวิทยาลัยแม่โจ้   พอถึงไฟแดง ที่เป็นจุดเริ่มต้นเขตมหาลัย  ก็เลี้ยวขวา วิ่งเลาะ กำแพงมหาลัย  ให้มหาวิทยาลัย อยู่ด้านซ้ายมือของเรา ไปเรื่อย  จนสุดถนนที่มี เกาะกลาง ไปอีกประมาณไม่เกิน 2 ก.ม. ....  ก็จะเห็น มีรถจอดเยอะแยะ อยู่ขวามือ  มีป้ายร้าน ติดตั้งอยู่หน้าร้าน  ... แต่หายากซักนิดนึงนะครับ  เพราะเดี๋ยวนี้ ต้นไม้ โตขึ้นเยอะแล้วครับ
                        ร้านนี้ผมไปครั้งสุดท้ายเกือบ 3 ปีแล้วครับ  ตอนไปก็ควานหาทางไปตลอดทางครับ เดี๋ยวนี้แถวนี้ เปลี่ยนแปลงไปเยอะเลยครับ  ความเจริญทางเศรษฐกิจ นำหมู่บ้านจัดสรร  และ  ตึกแถว เกิดขึ้น เรียงรายตลอด สองข้างทาง ที่มุ่งหน้ามาทางมหาวิทยาลัยแม่โจ้  ... วันนี้ผมไปถึงที่ร้านนี้ ตอน 11.45 น.  เลยยังพอมีที่นั่งเหลืออยู่ครับ (ช่วงเที่ยงคนแน่น เอี๊ยด ครับ) ...  ร้านข้าวซอย ร้านนี้ตั้งอยู่หน้าบ้านเจ้าของร้าน  ....  ผมจำได้ว่าตอนมาครั้งแรกเมื่อหลายปีก่อน  ยังชมกับน้องๆที่มาด้วยว่า เค้า รักษาความสอาดดีมากครับ  วันนี้ยังคง รักษา ความสอาดสอ้าน อย่างดีเหมือนเดิมครับ ... โต๊ะและที่นั่งกว้างขวางแน่นอนที่สุดครับร้านนี้



           








                         
                     
                        " ข้าวซอย "    มีถิ่นกำเนิดมาจาก  ชาวจีนเชื้อสายมุสลิม หรือ จีนฮ่อ  ที่อพยพมาจากประเทศจีนทางตอนใต้  มาตั้งถิ่นฐานใน ภาคเหนือตอนบน ของประเทศไทย  และ ลาว ... เดิมที ข้าวซอย มีชื่อเรียกกันว่า   " ก๋วยเตี๋ยวฮ่อ "    ลักษณะคล้ายๆ เส้นบะหมี่เหลือง ใส่ในน้ำซุปที่เป็นเครื่องแกงเข้มข้น  ในสมัยก่อนมีเฉพาะ  ไก่ และ เนื้อ เท่านั้น  ...  ต่อมาคนไทยที่ไม่ใช่ มุสลิม ก็เรียนรู้ และพัฒนาเพื่อลองรับ ความต้องการของตลาด เลยแตกแขนงเป็น  ข้าวซอยหมู  ข้าวซอยลูกชิ้น และ ส่วนผสมอีกสารพัดชนิด
                           ที่ร้าน   " ป้าศรี "   จานเด็ดของที่นี่ แน่นอนครับ ต้องเป็น  " ข้าวซอย "  ถ้าไม่ดีจริงคุณป้าเจ้าของร้าน คงไม่กล้าตั้งชื่อร้านว่า  " ข้าวซอย ป้าศรี "  ....  แถมขายดิบขายดี ผู้คนมาทานเต็มร้าน ทุกวัน .... ข้าวซอย ที่ร้านนี้วันนี้  ยังคงความอร่อย เหมือนเดิมครับ (กลมกล่อม แทบไม่ต้องปรุง เลยครับ .. ใส่หอมแดงซอย ผักดอง ก็ร้อง โอวววว  แล้วครับ)  มีทั้ง เนื้อ และ ไก่ ครับ ... แต่นอกจากข้าวซอยแล้ว ที่ขึ้นชื่อของร้านนี้อีกหลายอย่างก็คือ อาหารตามสั่งเป็นจานๆ  ที่ไม่ควรพลาดก็มี  ข้าวราดหมูสับผัดกระเพรา .. ก๋วยเตี๋ยวผัดซีอิ๊ว .. ข้าวหมูทอดกระเทียม  นอกจากนี้มีอีกหลายอย่างครับ เมนูอยู่บนผนังครัวอันเบ้อเริ่มเทิ่ม  อร่อยทุกจานครับ
                           ออกไปแถว มหาลัยแม่โจ้ หรือ ไปแถวสันทราย ซึ่งถนนทะลุกันได้ ก็ลองแวะไปชิมดูนะครับ  ไปไม่ถูกก็ลองโทรไปถามทางที่  โทร  053-491-416


ป๋าปึกส์
26/10/2553
 ขอแนะนำ ร้านโปรดของผู้เขียน
 : http://restaurantaroi.blogspot.com/2010/11/tengoku-1.html
 : http://restaurantaroi.blogspot.com/2010/11/tengoku-2.html
 : http://restaurantaroi.blogspot.com/2011/05/tengoku-de-cuisine.html


วันพฤหัสบดีที่ 21 ตุลาคม พ.ศ. 2553

สันกำแพงโภชนา ที่ อ. สันกำแพง เชียงใหม่

" สันกำแพงโภชนา "    ร้านระดับตำนาน  ที่  อำเภอสันกำแพง   เชียงใหม่



                            " สันกำแพงโภชนา "  ...   ร้านอาหารระดับตำนาน แห่ง อำเภอ สันกำแพง  ...  ที่กล่าวอย่างงี้  ก็เพราะร้านนี้เปิดมากว่า  30  ปีแล้วครับ  ....  เป็นร้านดัง ที่เชิดหน้าชูตา ประจำ อำเภอสันกำแพง เลยทีเดียวครับ  .... หาไม่ยากเลยครับ  ถ้าเราขับรถออกจากตัวเมืองเชียงใหม่ ทางเส้น เชียงใหม่-สันกำแพง  พอขับถึงย่านตัวเมืองของอำเภอ  ก็ตรงไปเรื่อยๆ   ผ่านโรงเรียน สันกำแพง   พอถึงไฟแดงถัดไปจากโรงเรียน ... ก็เลี้ยวขวา ซึ่งเป็นเส้นทางที่ไปทะลุกับ ถนนสันกำแพงตัดใหม่ ... เลี้ยวขวามานิดเดียวครับก็จะเห็น ตึกแถว 3 ชั้นอยู่ซ้ายมือ ... เลี้ยวเข้าไปจอดได้เลยครับ หน้าร้านมีที่จอดรถมากมาย  ร้านนี้โล่งๆไม่มีผนัง น่าจะจุคนได้หลายสิบคนทีเดียว         















                             สิ่งแรก ที่เมื่อไปถึง แล้วต้องสั่งเลย คงต้องเป็น   " น้ำมะพร้าว "  ก่อนเลยครับ  หวานหอมชื่นใจ   ถึงแม้รู้ว่า เค้าใส่น้ำตาลเพื่อช่วยให้มันหวานขึ้น  ...  แต่ก็หอมอร่อย แบบให้อภัยได้ ครับ ...  รายการอาหาร   ร้านนี้ไม่ต้องไปขอเลยครับ   ก็เค้าเขียนติดข้างฝา และ ตามกระดาน รอบๆร้านเต็มไปหมดครับ   ไม่ต้องไปขอเมนู จากทางร้านเค้าหรอกครับ ... นั่งอ่านไปได้ตามสบาย
ร้านนี้เปิดตั้งแต่เช้า 07.00 น.  ถึง   20.30 น.
                              สำหรับผม เวลานึกอะไรไม่ออก ว่าจะไปทานมื้อกลางวัน ที่ร้านไหน ...  ก็ตรงไปร้านนี้ ประจำเลยครับ  ...  ที่ไปเป็นประจำก็เพราะ แม่ครัวร้านนี้  ทำอาหาร  รสมือดีจริงๆครับ  สั่งจานไหนอร่อยจานนั้น ...   อาหารก็ไม่ได้ตกแต่ง ประดิษฐ์ ประดอย อะไรมากมาย  .... ทำอาหารหน้าตาเหมือน ตามร้านอาหารเก่าแก่ทั่วไปครับ  ....   แต่ที่นี่ ผมมีจานโปรด ประจำตัวผมอยู่แล้วครับ  ไปทีไรก็ไม่เคยพลาด สั่งอาหารเหมือนกันเกือบหมดทุกเที่ยวครับ เริ่มด้วย  ...



        











เนื้อปูผัดต้นกระเทียม  ..........  จานนี้ผมไม่เคยพลาดครับ ...  เนื้อปูม้า ที่นึ่งสดๆ แล้วแช่เย็นมา .. แกะมาแบบไม่มีเปลือก  ..  ผัดกับต้นกระเทียม  รสชาติกลมกล่อม  ไร้เทียมทานเลยครับ  ที่สำคัญ เนื้อปู เป็น เนื้อปู เลยครับ  ...  อร่อยจนต้อง เบิ้ล ทุกเที่ยวเลยครับ

ส้มตำปูดอง  .........   อร่อยดีครับ    แต่รสชาติ  ไม่ได้ออกมาแบบ  ส้มตำอีสาน นักนะครับ  ...  แต่ก็ จี๊ดจ๊าด พอสมควรครับ  ...   มะละกอ  กรอบชิ้นกำลังดี  (เค้าใช้วิธีสับมะละกอ แบบโบราณ ... ไม่ได้ใช้ที่ขูด  ที่ขูดมะละกอแล้ว   ทำให้  เส้นมะละกอ ช้ำ  จนอ่อนปวกเปียก  ไม่น่าทานเหมือนร้านส้มตำสมัยใหม่ ทั่วไปครับ)  .

ก๋วยเตี๋ยวผัดไทกุ้ง   .........   ก๋วยเตี๋ยวผัดไท  ของที่นี่  มี รสชาติเป็นเอกลักษณ์ของตัวเอง ที่ไม่ค่อยเหมือนใคร เลยครับ  ...  อร่อยแบบ โบราณ โบราณ หวานนำเล็กน้อย  อร่อยแบบอธิบายไม่ถูกครับ ต้องไปลองเองครับ  ....  มีทั้งแบบ มีเส้น และ ไร้เส้น  (ผมไม่ค่อยชอบ แบบ  " ไร้เส้น "  ครับ   ...  ก็กลัว จะไม่ได้เป็นใหญ่ เป็นโต ซักที  นั่นซิครับ.. 55555)

ต้มยำปลาเก๋าน้ำใส ใส่เห็ดฟาง  ..........   เนื้อปลาเก๋าสดๆ  น้ำต้มยำ ร้อนแรงด้วยเครื่องสมุนไพร หอมกลิ่นใบกระเพรา  ....  จานนี้ ไปกี่รอบ กี่รอบ ไม่เคยพลาดครับ  ...  ต้มยำน้ำใส ของร้านนี้  เล่นเอา  ผมต้องร้อง  " โอวววว "  ทุกทีเลยครับ

หอยลายผัดน้ำพริกเผา  .........   ถึงแม้ที่ เชียงใหม่ หอยลาย จะตัวไม่ใหญ่นัก  แต่เพียง แค่เอาน้ำที่ผัด มาราดกับข้าวเปล่า   ก็อร่อย แล้วหละครับ

ปลาทราย ทอดกระเทียมพริกไท   .........   ปลาทราย ตัวขนาดกลาง  ทอดจนกรอบ  เนื้อหวานจากความสด  โรยหน้ามาด้วย  กระเทียมทอด เหลืองงาม กรอบอร่อย  ...  เสิร์ฟมาพร้อมน้ำจิ้ม สามรส และ ซ้อสศรีราชา  จิ้มกับอะไรก็อร่อย ครับ

















                              วันนี้ไปกันน้อยคน ก็เลยสั่งน้อยหน่อยครับ ....   แต่อาหารที่นี่ ยังมีอีกหลายจานที่อร่อยนะครับ  เช่น   กุ้งราดซ้อสมะขาม  ,  ปลาผัดฉ่า  ,  ต้มยำกุ้ง  ,   ผัดโน่น ผัดนี่  มีให้เลือกอีกหลากหลายรายการเลยครับ  ....  หากไปไม่ถูก แวะถามคนแถวนั้น  ซึ่งส่วนใหญ่คนแถวนั้นจะรู้จักร้านนี้กันหมด ทั้งอำเภอเลยครับ
โทรสอบถามเส้นทาง หรือ สั่งอาหาร (แนะนำว่า ถ้าไปวันธรรมดา ช่วงมื้อกลางวัน  โทรไปสั่งอาหารก่อน ก็จะได้เร็วหน่อยนะครับ แม่ครัวมีอายุ อาจช้าไปหน่อยนะครับ)  

โทรสั่งอาหาร และ จองโต๊ะ  ได้ที่    053-332-935   หรือ   053-395-389



แผนที่ร้านอาหารทั้งหมด ที่ ผมเขียนแนะนำ ไว้ใน   " แนะนำ ร้านอาหารอร่อย โดย ปาปึกส์ "  

https://mapsengine.google.com/map/edit?authuser=0&hl=en&mid=zi7qOsZPeff0.kmjHpvkh5cmM 




ป๋าปึกส์
21/10/2553

ขอแนะนำ ร้านโปรดของผู้เขียน
 : http://restaurantaroi.blogspot.com/2010/11/tengoku-1.html
 : http://restaurantaroi.blogspot.com/2010/11/tengoku-2.html


ติดตาม คอลัมน์ แนะนำร้านอาหารอร่อย โดย ป๋าปึกส์ ได้ทุกวันใน  Facebook
ได้ที่  : http://www.facebook.com/SuebsaengSun

วันพฤหัสบดีที่ 14 ตุลาคม พ.ศ. 2553

เลิศรส ... ริมน้ำปิง ที่ เชียงใหม่


" เลิศรส "   (ใต้ร่มมะเฟือง)    ริมน้ำปิง  ที่  เชียงใหม่



ร้านนี้เป็นอีกร้านนึง ที่เปิดมานาน  เป็นเวลาหลายสิบปีเลยทีเดียวครับ
แปลกตรง ที่ตั้งของร้านนี้ ครับ  
แอบไปซ่อน หลบมุมอยู่หลังตึกแถว ... แต่ยัง ขายดีเป็นเทน้ำเทท่า
(ทำเลที่ตั้ง ไม่ได้เป็นบทสรุป ของร้านอาหารอร่อยๆ  เสมอไปครับ)
ร้านนี้ต้องถือว่า  ค่อนข้างจะหายาก  สำหรับคนต่างถิ่นซักหน่อยครับ
ขอบอกทางแบบที่ผมคิดว่า ง่ายที่สุดเท่าที่จะบอกได้แล้วกันนะครับ  .





         









ถ้าขับรถมาบน ถนนซุปเปอร์ไฮเวย์ มุ่งหน้าเข้าตัวเมืองเชียงใหม่
พอข้ามสพานข้ามแม่น้ำปิง (เลยสามแยกโรงพยาบาล เทพปัญญา หรือ สามแยกที่ไป ม.แม่โจ้ ..ตรงฟ้าฮ่าม)  ก็ชิดซ้าย ออกทางคู่ขนาน เลย  ..  ชลอนิดนึงนะครับ  แล้วกลับรถ ตรงนั้นเลยครับ .. แต่ต้องระมัดระวังอย่างแรงนะครับ    ** ช่วงตรงนี้เป็นช่วงสั้นๆ ที่รถวิ่งสวนกันได้ **   
ก็เหมือน กับเราหันหน้า ย้อนกลับสู่แม่น้ำปิงอีกที ...  พอจะสุดทางก็เลี้ยวขวาเลยครับ   สังเกตุง่ายๆปากซอยมี   Pub  ชื่อดัง  " ร้านหยอย "  อยู่ที่ปากทางครับ
ถนนเล็กๆตรงนี้มีชื่อว่า วังสิงห์คำ ... ขับตรงเข้ามาประมาณ 200 เมตร ก็จะเจอตึกแถวอยู่ซ้ายมือ  พอเห็นซอยระหว่างตึกแถว  ปากซอยมีร้านแบตตารี่ (ในป้าย) ชื่อ ปิยะยนต์    เข้าซอยก็หาที่จอดเลยครับ   ถ้าไม่มีก็คงต้องจอดริมถนนด้านหน้า  แล้วเดินเข้าซอย ปิยะยนต์ มาก็จะเห็น ร้านเลิศรสอยู่ซ้ายมือห้องแรก  ไม่มีป้ายชื่อ  แต่จะมีตู้เย็นเก่าๆวางอยู่หน้าร้าน  เข้ามาเดิน ผ่านห้องน้ำ ผ่านครัว ก็จะเป็นร้านอาหาร ที่ด้านในร้าน เป็นระเบียง ยื่นมาใน  ริมน้ำปิง  ...  แต่ไม่ต้องกังวล นะครับ เค้ามีหลังคาคลุมอยู่ครับ

สมัยก่อนในร้าน มีโต๊ะนั่งแม่ริมน้ำปิง  จุคนได้อยู่ประมาณซักราว 40 คน
แต่ปัจจุบันนี้   ขายดีจนต้อง ขยายร้านด้านหลังใหม่  เพิ่มระเบียงขึ้นอีกเท่าตัวครับ  
ผมว่าเดี๋ยวนี้ น่าจะรับคนได้เกือบร้อยแล้วหละครับ.. (update 23/6/2555)
อ้อ เกือบลืมบอกไปว่า  ร้านนี้เค้ามีอีกชื่อนึงที่รู้จักกันมานานว่า  " ใต้ร่มมะเฟือง " 
ก็เพราะเจ้าต้นมะเฟืองที่ขึ้นริมน้ำ  ตรงระเบียงต้นนึงนี่แหละครับ จนคนรุ่นเก่าๆ  มักจะเรียก และ รู้จักร้านนี้ ว่า  " ใต้ร่มมะเฟือง "  (มดแดงเยอะมากครับ 555)

















รายการอาหารร้านนี้  มีให้เลือกมากมายหลายชนิดเลยครับ  ที่ทางร้านเค้าแนะนำ  และ ที่ผมสั่งทานเป็นประจำเกือบทุกเที่ยว ก็มี

------------

" ต้มยำปลา น้ำใส " 
มีเนื้อปลาให้เลือก ทั้ง ปลาเก๋า และ ปลากระพง
เป็นต้มยำ แบบ น้ำใส  ...  จัดจ้านด้วย สมุนไพร แบบ ถึงเครื่อง
แถมด้วยความ แซ้บแบบซู๊ดซ๊าด  จาก ใบกระเพรา
น้ำต้มยำ ปรุงรสมา กลมกล่อม ลงตัวดีครับ  ใบกระเพราช่วยเสริมความร้อนรุ่มชุ่มกระเพาะดี ครับ
เนื้อปลาสด ดี ทั้ง 2 แบบ ครับ

-------------

" ก้ามปู ผัดพริกไทดำ " 
ก้ามปู ก้ามใหญ่ ..  ยังกะใช้ ปูพันธ์ รูปหล่อก้ามใหญ่ ที่ เดินออกมาจาก ฟิตเนส เลยทีเดียวครับ
ก้ามปู ผัดมาได้เข้าเนื้อดีครับ  รถกลมกล่อม เค็มนำหน้าเล็กน้อย  แต่ พริกไทดำ ช่วยเสริมรสให้จานนี้  อร่อยเต็มรส ขึ้นไปอีกครับ
อร่อยจน ผมตักเครื่งผัด มาคลุกข้าวเปล่า ยังอร่อยเลยครับ

------------

" กุ้ง ผัดพริกเกลือ " กุ้งแชบ๊วย คัดไซด์ มา แบบขนาดกำลังดี
ทอดจนสุกกรอบทั้งตัว   แล้วเอาไปคั่ว กับพริกเกลือ
จานนี้ ทานแกล้มกับ เครื่องดื่มเย็นๆ   ลงตัวเป๊ะ ครับ

------------

" แกงส้มปลา " แกงส้ม ที่กลิ่นลอยมาตั้งแต่ ยังอยู่ในครัวเลยครับ
สีสันโดนเลยครับ  ..  น้ำแกงครบรส เปรี้ยว หวาน เค็ม มี เผ็ด แทรกมาเล็กน้อย
เนื้อปลาสดดีครับ  ..  ผักที่อยู่ในแกง ก็ สุกกำลังดี ไม่เละจนเปื่อย
น้ำแกงส้ม  ซดเล่นแทนซุปได้เลยครับ

-----------

" กุ้ง , ปลาหมึก ชุปแป้งทอด " 
จานนี้ผมแอบเห็นทุกโต๊ะ ที่มีเด็กๆมาด้วย สั่งทานแทบทุกโต๊ะ เลยครับ
เค้าเสิร์ฟมาพร้อม ซ้อสศรีราชา  .. เห็นเด็กๆ ตักจิ้ม ตักจิ้ม แป๊บเดียว สั่งเพิ่ม  ...  ยังไงก็ต้องสั่งมาลอง ครับ
อร่อยจริงครับ  ..  กุ้ง ปลาหมึก สดมากครับ  ..  ตอนกัดผ่านแป้ง สีสวยที่ชุปมา สัมผัสได้ถึงความสด จนเนื้อเด้ง เลยทีเดียวครับ

-----------

" ปลาเก๋า ผัดฉ่า "  
อีกหนึ่งจานที่ผมไม่เคยพลาดครับ
เนื้อปลาเก๋าสด ผัดมาพร้อมเครื่องผัดฉ่า แบบ ไม่ยั้ง
ทั้ง กระชาย , กระเทียม , หอมแดง , พริกไท สด  ..  ฯลฯ  
ต่างส่งกลิ่น มายั่วยวน ตั้งแต่ยังอยู่บนเตาเลยครับ
อีกจานนึง  ที่เอาน้ำผัด มาคลุกข้าวเปล่า ยังอร่อย เลยครับ

------------

" ปลาอินทรีย์ ทอด " 
เนื้อปลาอินทรีย์สดๆ หั่นตามขวาง
คลุกเคล้ามาด้วยเครื่องปรุง อย่าง น้ำปลา และ พริกไท ฯลฯ
ทอด มาแบบ หนังปลาด้านนอก เกรียมรอบ .. ส่วนเนื้อด้านใน สุกกำลังดี ครับ
จานนี้ ราคาสูงตาม วัตถุดิบ ครับ

------------

" ปลาเนื้ออ่อน ทอดกระเทียม "
ปลาเนื้ออ่อนที่ คัดไซดื มาอย่างดี ขนาดเท่ากันทั้งจาน
เอาคลุกเคล้าด้วยเครื่องหมัก แล้ว ทอดมาจนกรอบ แบบ ทานได้ หัว จรด หาง เลยครับ
กระเทียมที่ทอด แล้วโรยหน้ามา   ..  เอามาคลุกข้าว เหยาะน้ำปลาพริก  ...  อูววววว  อร่อย ครับ

------------

" ผัดถั่วลันเตา " 
เมนู ธรรมดาๆ ที่มีอยู่ในเกือบทุกร้านอาหารไทย
แต่ผัดถั่วลันเตาร้านนี้  มันถูกอก ถูกใจ จนผมไม่เคยพลาดแม้แต่ครั้งเดียวครับ
ถั่วลันเตา ผัดทีไร สุกแบบผิวกรอบเขียวทุกทีครับ
น้ำผัดไร้เทียมทาน ครับ

------------

ยังมีอีกหลากหลายเมนู ที่น่าอร่อยครับ
แต่ผมยังไม่ได้ลองครับ  ...  ก็แค่เมนูที่ผมชอบ มันก็ล้นโต๊ะ แล้วครับ  
เลยไม่ค่อยได้สั่งอย่างอื่น ครับ

หลายๆคน  บ่นให้ผมฟังว่า ราคาร้านอาหารร้านนี้ แพงกว่า ร้านอาหารอื่นแถวๆนี้
ผมยืนยันครับ  ...  แต่ถ้าเทียบกับ คุณภาพของวัตถุดิบ และ รสชาติของอาหารแล้ว
ผมก็ ยืนยันอีกครับ  ว่า  ไม่แพง ครับ















คุณภาพ และ รสชาติ ของอาหาร  คุ้มค่า ครับ
ก็ลองดูหุ่น คุณลุง เจ้าของร้าน ในรูปซิครับ 
แค่เห็นหุ่น ก็รู้แล้วครับว่า แกทำอาหาร อร่อยแน่นอนครับ     

ไปไม่ถูก หรือ จองโต๊ะ หรือ จะสั่งอาหารไว้ก่อนก็ โทรไปได้เลยครับ
โทร  053 872 092



แผนที่ ร้านอาหารทั้งหมด ที่เขียนแนะนำ ใน       " แนะนำร้านอาหารอร่อย โดย ป๋าปึกส์ "

https://mapsengine.google.com/map/edit?authuser=0&hl=en&mid=zi7qOsZPeff0.kmjHpvkh5cmM   




ป๋าปึกส์
14/10/2553


ขอแนะนำ ร้านโปรดของผู้เขียน
 : http://restaurantaroi.blogspot.com/2010/11/tengoku-1.html
 : http://restaurantaroi.blogspot.com/2010/11/tengoku-2.html
 : http://restaurantaroi.blogspot.com/2011/05/tengoku-de-cuisine.html

ติดตาม คอลัมน์ แนะนำร้านอาหารอร่อย โดย ป๋าปึกส์ ได้ทุกวันใน  Facebook
ได้ที่  : http://www.facebook.com/SuebsaengSun

วันพุธที่ 13 ตุลาคม พ.ศ. 2553

กับข้าวสวนดอก ... ที่ ... เชียงใหม่

ร้าน กับข้าวสวนดอก  ซอย หลังเรือนจำ เชียงใหม่ ... ตรงข้ามศูนย์ราชการ



                           ร้าน  กับข้าวสวนดอก  ...   ตอนได้ยินชื่อร้านครั้งแรก  ผมเกือบจะขับรถ ตรงไปที่ วัดสวนดอก ซะแล้วครับ  ....  ร้านนี้  อยู่คนละทิศ คนละทาง  กับชื่อร้านเลยครับ  ...   เป็นอีกหนึ่ง ร้านเก่าแก่  แห่งเมืองเชียงใหม่ เลยครับ  ...  เปิดบริการ มาหลายสิบปีแล้วครับ   ....   เป็นอาหารไทย  สไตลส์ ภาคกลางแท้ๆ    อยู่ไม่ไกลจาก  ศาลากลาง  อันปัจจุบันครับ (ศูนย์ราชการใหม่)   ...  บอกทางง่ายๆ  ก็คือ  ร้านนี้ตั้ง อยู่หลังเรือนจำ จังหวัดเชียงใหม่นี่เองครับ  ....  คือถ้าเราขับรถมาจากในเมือง  มาทางแยกข่วงสิงห์   มุ่งหน้าแม่ริม  .....  พอผ่านหน้าศาลากลางก็ชิดขวา U turn   ที่เกาะอันแรก ที่อนุญาตให้กลับรถ เลยครับ  ...  พอกลับรถ แล้วชิดซ้ายเลยครับ   ...  ขับกลับมาจนมองเห็นเรือนจำ  ชิดซ้ายเลยนะครับ  ก็จะเห็นซอยติดกับเรือนจำ (ซอยที่ถึงก่อน เรือนจำ นะครับ)    ชื่อ ซอยพระนอน   ....   อย่าเลยนะครับ เพราะถ้าเลยไป  ก็จะเป็นเรือนจำ  ที่ อนุญาตให้พักฟรี นะครับ 5555  ....   พอเข้าซอยที่ก่อนถึงเรือนจำ  ก็ขับเข้าไป  จนสุดรั้ว เรือนจำ ....  จะเห็นป้าย ร้านนี้  อยู่ด้านขวามือครับ  ....  เลี้ยวเข้าไปมีที่จอดรถ กว้างขวางใหญ่โต    ร้านเป็นอาคารเก่าชั้นเดียว ยาวขนานถนน  แต่เป็นร้านห้องแอร์  มีที่นั่งมากมายครับ




ป้ายรับประกันคุณภาพ
ร้านเป็นอาคารชั้นเดียว













                       ร้านนี้ ได้ประกาศนีย์บัตร รับประกันความอร่อย  จาก เชลส์ชวนชิม โดย อาหม่อม ถนัดศรี  มานานมากแล้วครับ ... คนรุ่นเก่าๆส่วนใหญ่ (รวมทั้งหนุ่มๆ อย่างผม ด้วยครับ)  รู้จัก ร้านนี้เป็นอย่างดีครับ  ...   วันนี้ก็เลย ขอเอามาให้  หนุ่มๆสาวๆ แก่ๆก็ได้ครับ   ที่ยังไม่เคยไป หรือ เคยไปแล้ว ไม่ได้ไปมานาน   จะพาแขกเหลื่อ ไปทาน  รับนองว่า อาหารไทยแบบภาคกลางที่ร้านนี้  อร่อยไม่แพ้ใครเลยครับ  ....  พอเข้าไปในร้าน  ทางซ้ายมือของประตู   ก็จะเห็นโต๊ะยาว ปูผ้าแดง   ..  วางผัก และ เครื่องเคียงที่ทานกับน้ำพริก (ของโปรดผมเลยครับ)   และ น้ำพริกหลายชนิด ไม่ว่าจะเป็น  น้ำพริกกระปิ  ,  น้ำพริกมะขาม  , น้ำพริกกุ้ง  ,  น้ำพริกลงเรือ  .... เค้าจัดวางเป็น    " Buffet น้ำพริก "    โดยเฉพาะเลยครับ   ...   สามารถ ตักแล้วตักอีก ได้ตามสบายครับ  ... ผม ตักชิมน้ำพริก รสละมุน ครบทุกชนิด เป็นประจำ  เลยครับ อร่อยทุก น้ำพริก ครับ
                      อาหาร ที่เป็นเมนู แนะนำ  โดย   เชลส์ชวนชิม    ของทางร้านเค้าก็มี  ไก่เมืองอบน้ำปลา  ,  ยำไข่จะละเม็ดเทียม   ,   วุ้นเส้นผัดไข่เค็ม   ....   ทุกจานอร่อย  แบบมีประกาศนียบัตร รับประกัน เลยทีเดียวครับ


                     

Buffet  น้ำพริก





        








ไก่เมือง อบน้ำปลา   ..........   ตอนเห็นชื่อเมนูนี้ ครั้งแรก  รู้สึกเหมือนกลัวว่าจะ เค็ม ...  แต่พอลิ้มรสแล้ว  กลมกล่อม แบบมีรสชาติ เค็มนิดหน่อย นำหน้ามาแบบอร่อยเลยครับ  ...  เนื้อไก่ หนืดๆ ตามแบบฉบับ ไก่เมือง  ...  แต่ไม่เหนีนว และ ทานง่ายดีครับ

ยำไข่จะละเม็ดเทียม   ..........    ไข่จะละเม็ด  สำครับคนนรุ่นใหม่ คง  "งง"   กันบ้างเล็กน้อย  ...แน่นอนครับ  ...  ผมว่า ปัจจุบัน คงหา ไข่จะละเม็ด จริงๆ ทานยากแน่นอน เลยครับ  ....  ไข่จะละเม็ด ก็คือ ไข่ของเต่าตะนุ  ...  ที่ปัจจุบันถือเป็น สัตว์สงวนที่หายากขึ้นทุกวัน  ...  ผมจำได้ว่า เคยได้ลองทานของแท้  สมัยเด็กๆ ซักเมื่อ 30 กว่าปีที่แล้วครับ  ...  เลยพอจะ จำ รสชาติ  ของแท้ได้บ้างนิดหน่อยครับ  ...  สำหรับใครที่ไม่เคยลองทาน ไข่จะละเม็ด แล้วอยากทราบว่า ของจริงๆ รสชาติ เป็นอย่างไร  ... ต้องลองมาชิม  ยำไข่จะละเม็ด ของรานนี้เลยครับ  ... รสชาติใกล้เคียงของจริงมากครับ

วุ้นเส้นผุดไข่เค็ม  .........   เมนูนี้  จะเห็นตามร้านอาหารทั่วไป  ...  แต่จานนี้ ที่ร้านนี้  อร่อยจนได้ ประกาศนีย์บัตร จาก เชลส์ชวนชิม เลยทีเดียวครับ  ...  วุ้นเส้นที่ผัดแห้ง และ สุกกำลังดี  ..  ไม่มีน้ำมันเฉอะแฉะ ..  คัดไข่เค็มแดง  ลูกเบ่อเรื่มเทิ่ม  .. ไข่เค็มแดงสวย ไม่เค็มจนเกินไป   ช่างเข้ากัน กับวุ้นเส้น   ดีซะเหลือเกิน ครับ













นอกเหนือจาก เมนู ที่ เชลส์ชวนชิม  แนะนำแล้ว  .....   ผมขออนุญาต แนะนำ  เมนูที่ เวลาผมไปทานอาหารร้านนี้  ผมจะไม่เคยพลาด แม้แต่ครั้งเดียวเลยครับ    เลยเอามาบอก ทุกคนที่จะไป ว่า  ไม่ควรพลาดเช่นกันครับ  

ซีโครงหมูอบ   .........    ซี่โครงชิ้นใหญ่  เนื้อเยอะ  ..  อบมาจนเปื่อย  เคี้ยวง่าย  ราดมาด้วยน้ำเกรวี่ ที่เคี่ยวมาพร้อมกระดูกหมู  ใส่ มันฝรั่ง ชิ้นกำลังดีมาด้วย  .....   โอวววววว  จานนี้ สำหรับผม  บอกได้คำเดียวว่า   " อร่อยสุดสุด "   ครับ    ....    แค่เอา น้ำเกรวี่ ราดบนข้าวสวยร้อนๆ  เหยาะน้ำปลาพริกซักหน่อย  ...  เล่นเอาเพื่อนชาวจีน ของผม  ที่ไปทานด้วย  ถึงกับ  สบถ  ดังๆ ออกมาโดยไม่รู้ตัวว่า   
" อั่ยหยา  อา ตือ "   กันเลยทีเดียวครับ

ต้มโคล้งปลากรอบ   ..........   ปลากรอบอาหารประจำชาติ ของประเทศเพื่อนบ้าน  ...  เวลาไป เขมร ผมก็ไปลองทานมาหลายเมือง หลายร้าน ทั้งที่ พนมเปญ , เสียมเรียบ  แต่ไปที่ เขาพระวิหาร ไม่มีขายนะครับ  ศาลโลก เค้าคงไม่ให้ขายมั้งครับ 55555  ...  แต่รสชาติของต้มโคล้งปลากรอบที่เขมร ไม่ว่า ร้านระดับไหนก็ตาม  ไม่สามารถ ต่อกรกับฝีมือ พ่อครัวไทยได้แม้แต่น้อยครับ ...  โดยเฉพาะ ต้มโคลง  ของร้านนี้  หอมทั้งสมุนไพร และ พริกแห้งคั่ว  ... รสชาติน้ำซุป อร่อยแบบจัดจ้านด้วยสมุนไพร  เวลาผมไปทานที่ไร  เด็กล้างจานหลังร้านแทบไม่ต้องล้างเลยครับ   ก็ ผมซดจนไม่เหลือซักหยดครับ   ...  ถ้าวันไหนไม่มี ปลากรอบ  แนะนำเป็น ต้มโคล้งขาหมู แทนครับ อร่อยไม่แพ้กันครับ    ,

ยังมี รายการอาหารอร่อยอีกหลายจาน  ที่รับรองได้ว่า ไม่ผิดหวังครับ  เช่น  ไข่เจียวหอยนางรม   ,   หมูหมักผัดโหระพา  ,   หลนปูม้า    ...  อร่อย ทุกจานครับ
ของหวาน ก็มี    ขนมปังน้ำแดง  ,  เฉาก๊วย  ,   แตงไทยน้ำกระทิ (บางวันครับ)
อร่อย ทั้งของคาวและหวาน ครับ  ....  ลองแวะไปชิมกันนะครับ

ไปไม่ถูก หรือ  จะจองโต๊ะ   ก็โทรไปได้ครับที่
เบอร์โทร  ....  053-122-805    หรือ    081-884-7925










ลองเปิดดู  แผนที่ ร้านอาหารที่เขียนไว้ใน   " แนะนำร้านอาหารอร่อย โดย ป๋าปึกส์ "
https://mapsengine.google.com/map/edit?authuser=0&hl=en&mid=zi7qOsZPeff0.kmjHpvkh5cmM 





ป๋าปึกส์
13/10/2553

ขอแนะนำ ร้านโปรดของผู้เขียน
 : http://restaurantaroi.blogspot.com/2010/11/tengoku-1.html
 : http://restaurantaroi.blogspot.com/2010/11/tengoku-2.html
 : http://restaurantaroi.blogspot.com/2011/05/tengoku-de-cuisine.html

ติดตาม คอลัมน์ แนะนำร้านอาหารอร่อย โดย ป๋าปึกส์ ได้ทุกวันใน  Facebook
ได้ที่  : http://www.facebook.com/SuebsaengSun