NEW YORK STYLE PIZZA ... บนถนนวงแหวน 1 เยื้องหมู่บ้าน สิวลี ใหม่ (ริมทะเลสาป)
เมื่อวานช่วงก่อนเที่ยง ขณะที่ผม กำลังเดินนึกอยู่ในใจว่า กลางวันนี้จะไปทานอะไรดี ... ก็ไปเจอกับ นายโอ๋ สถาปนิก (เจ้าเก่า) กับน้องๆที่ทำงานอีก 8-9 คน เดินมาพอดีครับ ... ผมก็ถามไถ่ทันทีครับว่า ไปทานอะไรกันมั้ย ... ได้รับคำตอบว่า ทั้งหมดกำลังจะออกไปทาน พิซซ่า แถวๆ ถนนวงแหวน เส้นหลัง ม.พายัพ อยู่ช่วงที่เลย Big C หางดง ลอดอุโมงค์ ไปนิดนึงครับ อยู่ซ้ายมือ ก่อนถึง ร้านอาหารที่มีแกะเลี้ยงโชว์อยู่ ครับ
ระหว่างทางที่นั่งรถไป ก็ได้รับการบอกเล่าจากน้องๆว่า ร้านพิซซ่าร้านนี้ เค้าเรียกกันว่า พิซซ่ายักษ์ครับ เจ้าของเป็นคนอเมริกัน ที่มาจาก นิวยอร์ค ทำพิซซ่า สไตลส์นิวยอร์ค อร่อยเลยทีเดียว ที่บอกว่า " พิซซ่ายักษ์ " ก็เพราะที่นี่ทำ พิซซ่า หลายขนาดด้วยกันครับ ตั้งแต่ใหญ่ที่สุด ก็มีขนาดเส้นผ่าศูนย์กลาง มหึมาถึง 25 นิ้ว ... แล้วลดหลั่น ลงมาเป็น 20 นิ้ว , 16 นิ้ว , 14 นิ้ว และ 10 นิ้ว ให้เลือกได้ตามขนาดของ กระเพาะของผู้ร่วมโต๊ะครับ ... นอกจากนั้นยังมีอาหารฝรั่งแบบ อิตาเลี่ยน (ผสมผสานกับ อเมริกัน) เช่น สปาเก็ตตี้มีทบอล , สปาเก็ตตี้คาร์โบนาร่า , แซนวิส , สลัด และ อีกหลายเมนูเลยครับ
เมื่อแนะนำ ร้านพิซซ่า ก็ขอนำเอา " ตำนานของการทำ พิซซ่า " จาก วิกีพีเดีย สารานุกรมเสรี มาให้อ่านกันครับ
กาลครั้งหนึ่ง ในสมัย กรุงโรม เรืองอำนาจ เป็นเมืองหลวงของ อาณาจักร โรมัน ... ได้มีผู้ค้นพบ หลักฐานที่มีการบันทึก เกี่ยวกับ การทำอาหาร ในยุคนั้น (เกือบ 2,000 ปีที่แล้ว) ไว้ว่า " แป้งแผ่นกลมๆ บางๆ .. ปรุงหน้า ด้วย น้ำมันมะกอก สมุนไพร น้ำผึ้ง วางบนหินร้อน ซักพัก ก็ สุก " ซึ่ง สมัยนั้นเรียกว่า " Placenta "
ต่อมาในปี ค.ศ.79 นักโบราณคดี ขุดพบ ซากของ ร้าน พิซซ่า ในเมือง ปอมเปอี ที่ถูก ภูเขาไฟ วิซูเวียส ระเบิดใส่ และ จมอยู่ใต้ ลาวา
เวลา ล่วงเลย มานับเป็นพันปี .. จนมาเมื่อประมาณ 200 ปี ที่แล้ว ที่ เมือง นาโปลี ซึ่งอยู่ติดกับ เมือง ปอมเปอี .... ได้กลายเป็น เมืองต้นกำเนิด ของ พิซซ่า ในยุคปัจจุบัน ก็ว่าได้ ... มีร้านขาย พิซซ่า เปิดขายเป็นร้านแรก ในโลก ชื่อร้าน " พอร์ตอัลบ้า " (Port Alba) ... ซึ่งร้าน พิซซ่า ร้านแรกนี้ ก็ทำพิซซ่า คล้ายกันกับ การทำพิซซ่า ที่ถูกบันทึกไว้ ตั้งแต่ สมัยอาณาจักรโรมัน โดยเอาแป้ง มานวดเป็นแผ่นกลม และ เอาน้ำมันมะกอก คลุกเคล้า กับ สมุนไพร อบในเตาที่ก่อด้วนหิน จากภูเขาไฟ วิซูเวียส (เนื่องจากหินจากภูเขาไฟ กระจายความร้อนได้สม่ำเสมอ)
ต่อมามึการพัฒนาการทำ พิซซ่า ขึ้นมาเรื่อยๆ โดยการเพิ่ม หน้าพิซซ่า ให้หลากหลายมากขึ้น จนในที่สุด " นาย ดอน ราฟาเอล เอสโพสิโต " เป็นคนแรก ที่ใช้ ชีส ใส่ในหน้าพิซซ่า โดยใช้ มอซซาเรลล่าชีส เป็นเครื่องปรุง .. และได้รับความ นิยมชมชอบ จากชาวเมือง นาโปลี ... จนกลายเป็นเอกลักษณ์ ของ พิซซ่า ของเมืองนาโปลี ... และ แพร่หลายไปทั่ว ประเทศอิตาลี และ ทวีปยุโรป เลยครับ
พอช่วงหลังสิ้นสุด สงครามโลกครั้งที่สอง ชาวอเมริกัน ที่เป็นทหารในสงครามโลก ผู้ที่เคยเข้ามาลิ้มรส และ เรียนรู้การทำ พิซซ่า จากอิตาลี ... ได้นำเอา วัฒนธรรม การทาน พิซซ่า ไปเผยแพร่ ใน สหรัฐอเมริกา จนได้รับความนิยม ล้นหลาม ... จนในที่สุด ก็เกิดบริษัท พิซซ่า ยักษ์ใหญ่ ที่มีสาขา ทั่วโลก อย่าง พิซซ่าฮัท และ อีกหลายยี่ห้อ ... ได้รับความนิยมแพร่หลาย ไปทั่วทุกมุมโลก รวมทั้งประเทศไทยบ้านเราด้วยครับ
เอาละครับ ..... เล่ามาซะยาวเลยนะครับ ... อ่านมาเยอะ ก็เลยเอามาเล่า สรุปแบบ สั้นๆให้อ่านกันดู นะครับ
พอมาถึงที่ร้าน PIZZA N PASTA ผมก็เดินสำรวจ และ ถ่ายรูปไปทั่วร้าน เห็นอุปกรณ์เครื่องครัว แล้ว รู้ได้เลยครับว่า ไม่ธรรมดาครับ ถ้าไม่แน่จริง เจ้าของคงไม่กล้า ลงทุน ซื้ออุปกรณ์ เครื่องครัว มากมายและ ชุดใหญ่ ขนาดนี้แน่นอนครับ ... พอถ่ายรูปเสร็จก็มานั่งดู เมนู เห็นเมนูแล้ว ถึงกับ ครางเสียงเบาๆในลำคอ อืมมมมม เลยครับ ...
โดยเฉพาะ เมนู พิซซ่า ที่มีให้เลือกมากมายเลยครับ ... มีแป้งให้เลือกหลายแบบ เลยครับ ทั้ง แบบนิวยอร์ค , แบบบาง และ แบบหนา ... และ ซ้อสที่ ราดมาบนแผ่นพิซซ่า ก็มีทั้ง แบบที่เป็นเอกลักษณ์ของร้าน PIZZA N PASTA sauce (ซ้อสต้นตำรับ ของทางร้าน) , SPICY (ซ้อสสมุนไพรไทย รสจัดจ้าน) และ NEW YORK (ซ้อสแบบใช้เครื่องเทศไม่มากนัก ผสมกับ ซ้อสมะเขือเทศนิดหน่อย สไตลส์ที่เจ้าของร้านชอบเป็นการส่วนตัวครับ)
ส่วน Topping หรือ หน้าพิซซ่า ก็มีให้เราเลือก ทั้งแบบสำเร็จที่ทาง ร้าน เลือกนำเสนอไว้ หรือ เราจะเลือกให้เค้า ผสมผสานได้ตามชอบใจ ก็ได้ครับ ... มีส่วนผสมให้เลือกมากมายครับ ทั้ง Topping แบบธรรมดา เช่น แฮม , ไส้กรอก(อิตาเลี่ยน) , หมู , ไก่ , ปูอัด , หอมใหญ่ , สัปปะรด , พริกหวาน , เห็ดหอม , มะกอก , บร๊อคโครี่
นอกจากนั้นยังมี Topping แบบ Premium ให้เลือกได้ตามใจชอบอีกครับ เช่น Pepperoni , กุ้ง , ซาลามี่ , ทูน่า , ปลาหมึก , หอยเชลส์ , แอนโชวี่ หรือจะเป็น เนื้อริบอาย , พาร์ม่าแฮม , ปลาแซลม่อน เป็นต้น ครับ
เรามากันเกือบ 10 คนครับ เลยแบ่งเป็นสองโต๊ะ โต๊ะผม ทุกคน มอบหมายให้ผมเป็นคนสั่ง ... อืมมมม ... เข้าทางเลยครับ ไม่รอช้าครับ สั่งทันทีครับ :
พิซซ่า ขนาด 25 นิ้ว ... หน้า Meat Lover เพิ่ม Rib-eye ... ซ้อสก็เลือกตามตำรับของร้าน Pizza N Pasta sauce ครับ ส่วนอีกครึ่งนึง เป็นหน้า Seafood (สำหรับคนที่ไม่ทานเนื้อครับ) ... แป้งบาง
พอยกมาเสิร์ฟ แทบจะเป็นลมเลยครับ ใหญ๋มหึมาเลยครับ แป้งกรอบอย่างที่คาดหวังไว้ครับ หน้ากับซ้อส ลงตัวอร่อย จนชุดแรก ผมจัดการไปสองชิ้นแล้วครับ
สลัด ... เป็นสลัดผักแบบอิตาเลี่ยน ที่ราดด้วย บาซามิควินีการ์ และน้ำมันมะกอก รสกลมกล่อม เหมาะสำหรับ เอาไว้ตัดกับรสของ พิซซ่า ดีครับ
ผักขม อบชีส .... หน้าตาดีเลยครับ รสชาติก็อร่อยดีครับ แต่ ชีส เป็น ชีส เลยครับ คนชอบชีสต้องสั่งเมนูนี้เลยครับ รับรองว่าถูกใจครับ
สปาเก็ตตี้ มีทบอล ... เส้นลวกกำลังดีเลยครับ แต่หน้า มีทบอล ออกเป็นสไตลส์นิวยอร์คมากกว่า อิตาเลี่ยน ครับ
ปีกไก่ Spicy ... รสชาติเอาใจคนไทยครับ
เราสั่งชุดแรกมาแค่นี้ก่อนครับ ผมเหลือบไปเห็น โต๊ะน้องๆด้านข้าง มีเมนูที่ผมไม่ได้สั่งอยู่อย่างนึงครับ
Ravioli หรือ เกี้ยวแบบอิตาเลี่ยน ราดด้วยซ้อสมะเขือเทศสูตรพิเศษ ที่ทางร้าน ทำเอง ... ก็อร่อยดีครับ
เราทานกันแบบ ไม่พูดไม่จากันเลยครับ ตอนแรกที่สั่งเกรงว่า จะทานไม่หมด แต่เผลอแป๊ปเดียวครับ ไม่มีอะไรเหลือครับ แต่ผมแอบสั่ง พิซซ่า Meat Lover เพิ่ม Rib-eye แป้งบาง ขนาด 10 นิ้ว มาเพิ่มอีก 1 ครับ (อร่อยจนต้องแอบสั่งมาเพิ่มเลยครับ)
อาหารเกือบทุกจานที่สั่ง ถือว่าอร่อยเลยหละครับ ส่วนราคาผมว่าสมเหตุผล และคุ้มค่ากับคุณภาพ และ รสชาติที่ได้ทานครับ ... ราคา พิซซ่าทั่วไปของทางร้าน ก็มีดังนี้ครับ
10" = 250 , 14" = 360 , 16" = 480 , 20" = 600 , 25' = 960 ส่วน Topping ที่สังเพิ่มก็คิดราคา เพิ่มเติม ตามสิ่งที่สั่งเพิ่ม (ร้านเค้ามีรายละเอียดของ เมนูต่างๆ อย่างละเอียดครับ)
นอกจากรับประทานที่ร้านแล้ว เค้ายังมีบริการส่ง ในรัศมี 5 ก.ม. อีกด้วยครับ ลองแวะไปชิมกันดูนะครับ พิซซ่า ยักษ์ PIZZA N PASTA : 053-806-077 , 081-883-8977
หรือจะลองเข้าไปดู รายละเอียดได้ที่ www.pizzapastacnx.com
หรือ ใน Facebook : PIZZA N PASTA CHIANG MAI
แผนที่ร้านอาหาร ที่เขียนแนะนำไว้ใน " แนะนำ ร้านอาหารอร่อย โดย ป๋าปึกส์ "
https://mapsengine.google.com/map/edit?authuser=0&hl=en&mid=zi7qOsZPeff0.kmjHpvkh5cmM
ป๋าปึกส์
07/02/2556
ขอแนะนำ ร้านโปรดของผู้เขียน
: http://restaurantaroi.blogspot.com/2010/11/tengoku-1.html
: http://restaurantaroi.blogspot.com/2010/11/tengoku-2.html
: http://restaurantaroi.blogspot.com/2011/05/tengoku-de-cuisine.html
ติดตาม คอลัมน์ แนะนำร้านอาหารอร่อย โดย ป๋าปึกส์ ได้ทุกวันใน Facebook
ได้ที่ : http://www.facebook.com/SuebsaengSun
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น