Translate

วันอาทิตย์ที่ 8 กรกฎาคม พ.ศ. 2555

พัชธนา (แกงปู) ... ที่ เชียงใหม่

พัชธนา   ที่   นิมมานเหมินทร์ ซอย 9 ... เชียงใหม่

















           
                         " แกงปู " (ใบชะพลู)     ก็เพราะ เจ้าแกงปู ที่เป็นอาหารจานโปรดของผมนี่เอง  จึงทำให้ผมต้องมาร้านนี้ ครับ  ...  แกงปู  เป็นแกงกะทิ แบบปักษ์ใต้ (สไตลส์ภูเก็ต)  ที่ใช้เครื่องแกงเผ็ดแบบปักษ์ใต้ ที่มี   " ขมิ้น "  เป็นพระเอก ... จึงทำให้สีสันของ แกงปู  ออกเป็นสีเหลืองนวลสวย  ... รสชาติออกหวานๆ เค็มๆ เผ็ดๆ  จัดจ้านตามสไตลส์ อาหารปักษ์ใต้   ...  ใช้เนื้อปู  .. บางสูตร ก็ใส่ ก้ามปู ก้ามโต ลงไปด้วย  แกงปู มักจะเสิร์ฟ มาพร้อมกันกับ เส้นหมี่ขาว  ... ลักษณะคล้ายๆ กับการทาน ขนมจีนน้ำยา นั่นเองครับ
                            เมื่อซักเกือบเดือนนึงที่ผ่านมา  ผมเห็นเพื่อนใน Facebook ท่านนึง (คุณ Kae Anchalee หรือ คุณเก๋  เจ้าของ ร้าน  De Siam  ... ร้านแอนติค ที่เมืองเชียงใหม่)   Post รูป   " แกงปู ที่เชียงใหม่ "   ...  เพียงแค่ผมเห็นรูป ผมก็ Ment  ไปถามโดยไม่รอช้าเลยครับ ... ว่า  ร้านอะไร ที่ไหน ครับ ? ...  และแล้ว  ผมก็เลยรบกวน  ให้ช่วย จองที่นั่งให้ ซะเลยครับ ....  ขอบคุณมา ณ ที่นี้ด้วยนะครับ


















                            ร้าน  พัชธณา  ใช้ชื่อ ภาษาอังกฤษว่า  Pattana Restuarant  ...   ร้านนี้ เค้า เข้าใจ ตั้งชื่อ ภาษาไทย ดีนะครับ  ... อ่านดูแล้ว  แปลก และ เก๋ไก๋  เลยหละครับ  ...  ร้านนี้ หาไม่ยากครับ อยู่ใน ซอย  นิมมานฯ ซอย 9  ครับ   ...  หากนึกไม่ออกก็ ซอยเดียวกับ  Monkey    ร้านอาหารและผับ ชื่อดังแห่ง ย่านนิมมานฯ นั่นแหละครับ  ....  เข้าซอย 9 มานิดเดียวครับ   ตรงเข้ามาประมาณ 100 กว่าเมตร  ก็จะเห็นร้าน (แบบในรูป)   อยู่ด้านซ้ายมือ  ติดกับที่จอดรถ ข้าง Monkey  นั่นแหละครับ
                            ร้านนี้ หากมองดูด้านหน้าแล้ว  ดูเหมือนจะเล็ก  น่าจะมีไม่กี่โต๊ะ ...  แต่เมื่อเข้าไปด้านในร้าน แล้ว ..  ต้องขอชม อินทีเรีย เลยครับ  ... ออกแบบได้ดีเลยครับ  ในพื้นที่ ที่ค่อนข้างเล็กขนาดนี้  แต่สามารถ  ทำให้ไม่มีความรู้สึกว่า  เราไม่ได้นั่ง  อยู่ในห้องขนาดเล็ก เลยแม้แต่น้อย ...  แถมโล่งโปร่ง จนรู้สึกว่า  นั่งสบายซะด้วยซ้ำครับ  ...  การตกแต่งภายใน ก็แบบ เรียบๆ ง่ายๆ แต่มีสไตลส์ครับ  อุปกรณ์เครื่องใช้  สอาดสอ้าน ดูดีเลยครับ
















                            วันนี้ไม่ได้มาคนเดียวครับ ...  ภรรยา  มาหาที่ทำงานตอนเที่ยง   ก็เลยชวนกันมา พร้อมเจ้าโอ๋ (สถาปนิกนักชิม คนเดิม ที่ไปชิมกับผม เกือบทุกร้าน เลยหละครับ)  ....  เมื่อเข้ามาถึง ในร้าน  เจ้าของร้าน ก็ออกมาต้อนรับอย่างดีเลยครับ  ...  ปรากฏว่า เจ้าของร้าน  ก็อ่าน Blog ที่ผมเขียนแนะนำอาหารด้วยครับ ...  ก็เลยคุยกันถูกคอดีครับ ... พอนั่งได้ซักพัก ก็ได้รายการอาหาร ผมเลยส่งต่อ เมนูให้ ภรรยา และ คุณโอ๋ เป็นคนเลือกรายการอาหาร ... แต่ผมสั่ง   แกงปู   ไปตั้งแต่เดินเข้ามาในร้านแล้วครับ ... ระหว่างรอเค้าเลือกสั่งอาหารกัน ผมก็ตระเวณเดินถ่ายรูปจนทั่วครับ  .... เดินกลับมาเค้าสั่งกันเสร็จแล้วครับ  ... ก็เลยนั่งอ่านสำรวจรายการอาหาร .... อืมมมม ... ราคาไม่แพงเลยครับ ก็เท่าร้านอาหารทั่วๆไปแถวๆนี้นี่แหละครับ ... รายการอาหารมีทั้ง  ไทยแบบภาคกลาง  และ เป็นไทยแบบปักษ์ใต้ ผสมผสานกันครับ  ....  รายการอาหารที่ทานกันวันนั้น  มีรายการดังนี้ครับ
                           
แกงปู   .........  แกงปู ของร้านนี้ เป็น แกงแบบปักษ์ใต้ สไตส์ภูเก็ต  ...   สี  ขมิ้น จากเครื่องแกงเหลืองนวล  สวย ...  รสจัดจ้าน มีเนื้อปูเป็นก้อนๆ  (เนื้อแน่น มากครับ)  ลอยหน้ามาเลยครับ  ... เสิร์ฟมาพร้อมกับเส้นหมี่ขาว  ....  จานนี้ ห้ามพลาดโดยเด็ดขาดเลยนะครับ
หากจะถามว่า   อร่อยมั้ย ?
บอกไม่ถูกเลยครับ   .....   แค่ผมตักเข้าปากคำแรกเท่านั้น   ถึงขนาดต้องหันไปบอกเด็กที่ร้านว่า    " เอามาอีกที่นึงครับ"    ...   จะไม่เบิ้ลได้ยังไงละครับ มาทราบทีหลังว่า   แม่ครัวร้านนี้   มาจาก ร้านดัง แห่งเมืองภูเก็ต เลยหละครับ  

น้ำพริกกุ้งเสียบ    .........   น้ำพริกรสกลมกล่อม เปรี้ยวนำเค็ม ไม่เผ็ดมากเกินไป  ... กุ้งเสียบ สั่งตรงมาจากภูเก็ต  ..   พอตักเข้าปาก  ถึงกับต้องร้อง   โอวววว  อีกแล้วครับ  .. โดน ... โดน ครับ ...อร่อยจน นั่งพริ้มตา  แล้ว นึกว่า กำลังทานน้ำพริกกุ้งเสียบ  อยู่ริมทะเล  แถวๆ อ่าวฉลอง เลยหละครับ

สะตอผัดกะปิใส่กุ้ง   ..........   คนที่  เกิดที่ชายแดนปักษ์ใต้  ที่ระเบิดตูมตามทุกวัน อย่างผม  ...  ยังเกือบจะ  ลุกขึ้นยืนตะโกนกลางร้าน   แล้วร้องออกมาว่า    " หร๋อยจั่งหู๋ "   เลยหละครับ ... สะตอสดกรอบ  ...  หอมกะปิลอยมาเลยครับ  ... ผัดมาพร้อมกุ้ง  รสชาติกลมกล่อม ไม่เผ็ด  อร่อยเลยครับ

หมี่กรอบ   .........  จานนี้  เหมาะที่จะสั่งมาทาน แก้เผ็ด และ รสจัดจ้าน ของอาหารปักษ์ใต้ ครับ  ... หมี่กรอบรส หวานนำ อร่อย ครับ

แกงเหลืองปลาอินทรีย์  ..........   แกงเหลืองรสจัดจ้าน  ใส่ยอดมะพร้าว กับ คูน  ...  อร่อยจน ผมทานหมดเกลี้ยง   ไม่เหลือแม้กระทั่งน้ำแกงครับ  ...   แนะนำว่า ควรสั่งหมี่กรอบ หรือ ไข่เจียว มาแกล้ม  กับแกงเหลือง จะเข้ากันได้ดีเลยครับ

ไก่ตะไคร้  ..........    ไก่หมักมาได้กลมกล่อม  หอมกลิ่น ตะไคร้ นำหน้ามาเลยครับ อร่อย เด็ด ครับ .

แกงไตปลาแห้ง  .........   แกงไตปลา  รสชาติเข้มข้น จัดจ้าน  ร้อนแรง แบบปักษ์ใต้  แท้ๆ  ...  เล่นเอาพวกเรา  ต้องสั่ง ข้าวสวยมาเพิ่มคนละจาน  เลยหละครับ

 ม้าฮ่อ   .........    จานนี้ ชื่อแปลกดีมั้ยครับ ..  ผมเองได้ยินมาชื่อ เมนูนี้ มาตั้งแต่สมัยเด็กๆเลยครับ  สมัยก่อนคุณป้า คุณน้าที่บ้าน เคยทำให้ทาน  ...  ผมกลับไม่ยอมทานก็เพราะชื่อของรายการอาหารนี่เองครับ  ตอนเด็กๆ โดนหลอกว่า ทำจากเนื้อม้า เลยไม่กล้าทานครับ ....  แต่เพิ่งมาทานก็ที่นี่ นี่แหละครับ  แปลกดีครับ อร่อยดีครับ  ลองสั่งมาชิมดู นะครับ


















                               มีเมนูอีกหลายอย่างที่น่าทานทีเดียวเชียวครับ  แต่วันนี้มากันแค่  3 คน เลยสั่งมาชิมไม่ได้เยอะเท่าไหร่ครับ  ....  อีกลายเมนู  ไม่ว่าจะเป็น  แกงเหลือง  ....  แกงส้ม  ....  แกงไตปลา .... หลน   ....  ก๋วยเตี๋ยวผัดไท  ....  ข้าวตังหน้าตั้ง  ....   ผัดโน่นผัดนี่   ....   ยำอะไรต่อมิอะไร  ....   ดูรายการอาหารแล้ว  น่าทานไปหมดเลยครับ ....  แต่คงต้องเป็นเที่ยวหน้าแล้วหละครับ  เพราะเราทั้งสามคน สั่งข้าวเพิ่ม คนละจานเลยครับ ....
อาหารที่ทานวันนี้  อร่อย  รสมือดีทุกจานครับ  ราคาก็ไม่แพงครับ   อาหาร รวม มะพร้าวอ่อน น้ำดื่ม แล้ว ตกประมาณ พันบาทครับ  ...   อร่อยอิ่ม จนต้องลาเจ้าของร้านกลับบ้านไปนอน เลยครับ
                             
ร้านนี้เปิดทุกวันครับ  ตั้งแต่  11.00 น. - 14.00 น.  และ  17.00 น. - 22.00 น. 
ร้านนี้มีโต๊ะไม่มากนะครับ ผมว่า ควรจองที่นั่งก่อนไป น่าจะดีนะครับ  ที่  ...     089-262-2819




ป๋าปึกส์
07/07/2555

ขอแนะนำ ร้านโปรดของผู้เขียน
 : http://restaurantaroi.blogspot.com/2010/11/tengoku-1.html
 : http://restaurantaroi.blogspot.com/2010/11/tengoku-2.html
 : http://restaurantaroi.blogspot.com/2011/05/tengoku-de-cuisine.html

ติดตาม คอลัมน์ แนะนำร้านอาหารอร่อย โดย ป๋าปึกส์ ได้ทุกวันใน  Facebook
ได้ที่  : http://www.facebook.com/SuebsaengSun



ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น