Translate

วันเสาร์ที่ 4 มกราคม พ.ศ. 2557

นาซิ จำปู๋ ... ที่ สันกำแพงตัดใหม่ .... เชียงใหม่

 " นาซิ จำปู๋ "    สุดยอด อาหารไทย สไตลส์ฟิวชั่น ที่  เชียงใหม่















 " นาซิ จำปู๋ "    แค่ชื่อร้านก็แปลกแล้วครับ  
คำว่า     " นาซิ "      แปลว่า      " ข้าว " 
คำว่า     " จำปู๋ "      แปลว่า       " กับข้าว "    
แต่  เจ้าของร้านบอกว่า  จริงๆแล้ว จะต้องเป็น  " จำปรู๋ "   ที่แปลว่า  น้ำพริก  ครับ  
แต่ สะกดผิดตั้งแต่ต้น  เลยไม่ได้แก้

ร้านนี้  เป็นอาหารไทย แท้ๆ ครับ   ...  แต่ชื่อร้าน ของร้านนี้  เค้าตั้งเป็น เป็น  ภาษายาวี 
ซึ่งเป็นภาษามาลายู  ที่ดัดแปลงมาจาก ภาษาอาหรับ (อารบิก)    
(คำว่า  " ยาวี "   มาจากคำว่า   Jawa   หมายถึง  ชวา นั่นเองครับ   ...   ในอดีตชวา ชวา อพยพมาตั้งถิ่นฐาน ทางตอนใต้สุดของประเทศไทย  ที่เมือง  มะละกา (ปัจจุบัน อยู่ใน มาเลเซีย)  และ ปัตตานี  ...   ชาว ชวา ได้เอาภาษาอาหรับ มาดัดแปลงและเผยแพร่  จนเป็นที่แผ่หลาย และ กลายเป็นภาษาท้องถิ่น ใน  มาเลเซีย และ ชายแดนไทยที่ติดต่อกัน)      
















เวลาที่ ผมมีเพื่อนๆ ของผม  มาจากกรุงเทพฯ ...  เพื่อนๆ มักจะโทรมาชวนผมให้พาไปชิมอาหารร้านนี้ อยู่เป็นประจำเลยครับ
ส่วนนึง  คงเนื่องจาก การที่เค้าได้เห็น   รูปร่างหน้าตา ของอาหาร ของร้านนี้  จาก รูป  ใน  Blog  ที่ผมเขียน  แนะนำ ร้านอาหารอร่อย  ถึงร้านนี้
ไปบ่อยๆ   จนกลายเป็นลูกค้าประจำ ของร้านนี้   เลยทีเดียวครับ

พอมาเมื่อปีที่แล้ว  (2556)   ช่วงใกล้ๆ วันสงกรานต์
ตอนนั้น  ผมไปทานอาหาร ที่ร้านนี้ (ร้านเดิม)   ที่เคยอยู่บน ถนนเชียงใหม่ - พร้าว ... เลย ริมปิงรวมโชค ไปนิดนึง
คุณเต้ย   เจ้าของร้าน  ก็ บอกผมว่า  ...  "กำลังจะปิดร้าน ซักระยะนึง  แล้วจะย้ายร้านไปอยู่ที่ ใหม่ "
เพราะเจ้าของที่  ที่เค้าเช่าอยู่  กำลังจะขายที่ดินผืนนี้

ตอนฟังครั้งแรกผม ถึงกับตกใจเลยครับ   เพราะคุณเต้ยบอกว่า   จะไปอยู่แถวๆ  ปากทางเข้า  สนามกอล์ฟอัลไพน์   ที่   สันกำแพง โน่นเลยครับ
แอบคิดไปว่า  มันไกลไปหน่อยมั้ย  ....   แต่ ระหว่าง ที่คุณเต้ย กำลังเริ่มก่อสร้างร้านใหม่อยู่    ผมก็ ขับรถผ่านร้านที่กำลังสร้างใหม่  แทบทุกวันเลย   เพราะอยู่ใกล้ๆ บ้านในสวนของผม  ที่กำลังสร้างขึ้นพร้อมๆกันเลยครับ  (ต่อไปคงผูกปิ่นโต ทานกันเลยครับ  5555)
                               
ไม่ไกล ครับ ....  ไม่ไกลเลย จริงๆ ครับ  ....   ร้านนี้อยู่บน ถนนสันกำแพงตัดใหม่  ...  คนที่มาจากจังหวัดอื่น คงไม่ค่อยคุ้นกับชื่อ ถนน นะครับ
ถนนเส้นนี้ หากออกมาจาก สนามบิน  ก็ ตรงมาอย่างเดียวเลยครับ   ...  มาจนข้ามสพานลอย ที่ข้ามถนนซุปเปอร์ไฮเวย์ ก็จะเห็นห้าง  Promenada  นั่นแหละครับ
จุดเริ่มต้น ของถนนสันกำแพงตัดใหม่  ที่กำลังขยายเป็น 4  เลนเสร็จหมาดๆ เลยครับ  ....  และ ถ้าเราเหลือบไปมอง  เสาไฟฟ้าสองข้างทางแล้ว  ...  มีการกันเขต ที่ดิน เพื่อการขยายถนนเส้นนี้อย่างกว้างขวางใหญ่โต มโหฬาร เลยครับ
(ก็เค้าว่ากันว่า   สถานีรถไฟฟ้าความเร็วสูง  และ  สนามบินใหม่  ก็จะอยู่บนเส้นนี้นี่แหละครับ)  
จากห้าง  Promenada  ตรงไปประมาณ  10  กว่ากิโล  ...  ผ่านแยกวงแหวน 1 , 2  ..  ผ่านแยกสันกำแพง  ไปนิดนึง  จนถึงแยกทางเข้าสนามกอล์ฟอัลไพน์  (ขวามือ)  ก็ ชลอรถ  เลยครับ  ... เลยแยกนี้ไปประมาณ 50 เมตร  จะเห็นมีต้นไม้ต้นใหญ่ๆ ปลูกอยู่ทางซ้ายมือ   นั่นแหละครับ  เลี้ยวซ้าย  เข้าไปเลยครับ


  
                                 










อาหารที่ร้านนี้   เป็นอาหารที่เรียกกันว่า    ฟิวชั่น 
เป็นอาหารที่นิยมทำกัน ตามร้านอาหารไทยสมัยใหม่    โดยเป็นการทำอาหารแบบ  ผสมผสาน ระหว่างอาหารไทย  กับ  อาหารฝรั่ง   ให้เป็นแบบ สไตลส์  ที่เป็นที่นิยมกันในโลกของการทำอาหาร ยุคปัจจุบัน  ... โดยเฉพาะ  ร้านอาหารไทยในกรุงเทพฯ   
คุณเต้ย  และ  เชฟปุ๋ย  ช่วยกันบรรจงเลือกสรร วัตถุดิบ  ..  ปรุงอาหาร  ..  ตกแต่ง อย่างประดิษฐ์ ประดอย  และ  ต้องถือว่า เป็นการทำอาหารที่ผสมผสาน  ระหว่างอาหารไทย  อาหารเหนือ และ อาหารฝรั่ง  อย่างลงตัวที่สุดร้านนึงเลยครับ  ....   วัตถุดิบที่ใช้ ก็เลือกสรร มาอย่างดี  บางอย่างถึงขนาดปลูกกันเองเลยทีเดียวครับ  การจัดจานทำให้ผมกล้าบอกได้เลยครับว่า  
" ที่นี่เป็นอาหารฟิวชั่น ที่อร่อย แบบหาตัวจับยากเลยครับ "    
อย่าเพิ่งเชื่อผม  จนกว่าจะได้มาลองชิมนะครับ
                               
การตกแต่งร้านใหม่ ก็โล่ง โปร่งสบาย  ออกแนวทันสมัยที่ผสมผสานอีกเช่นกันครับ  ...   ร้านนี้ตั้งอยู่กลางทุ่งนา  ที่มีทิวทัศน์  ที่โอบล้อม  ไว้ด้วยทิวเขารอบด้าน   ...  บรรยากาศน่าไปนั่งตั้งแต่ตอนเย็นๆเลยครับ   อากาศก็เย็นสบายแบบไม่ต้องใช้แอร์เลยครับ   โดยเฉพาะ  ช่วง ปลายฝนต้นหนาว และ  หน้าหนาว  อากาศดีจริงๆครับ  


         












เวลามาทานร้านนี้  ผมมักจะเริ่มต้นด้วย   เครื่องดื่ม  แปลกๆ  ที่ โดน  เข้าไปเต็มๆ เลยครับ  

น้ำกระเจี๊ยบรู้ทเบียร์  ..........  อร่อยแบบเหลือเชื่อเลยครับ  ....   ไม่น่าเชื่อว่า  น้ำกระเจี๊ยบ ผสมกับ น้ำรู้ทเบียร์  จะเข้ากันได้ดี  เหลือเกินครับ

จากนั้น  ก็เริ่มสั่งอาหารจานเด็ด  ที่อยู่ในเมนูร้านเดิม  มาชิมกันก่อนให้หายคิดถึงครับ


สันนอกรมควัน  กับ ยำผลไม้   ..........   ตอนแรกได้ยินชื่อ  นึกถึงอาหาร  ตามค่าเฟ่ในโรงแรมบ้านนอก แต่พอยกมา .....    โอววว    !!!!  เห็นเค้า จัดอาหารมาบนจานแล้ว    นึกว่า นั่งอยู่ร้านใน  Alian Ducas  ที่  Plaza Antony    ใน    Paris    เลยหละครับ   ....   รสชาติ  ทานแล้วแทบไม่สนใจใครอีกเลยครับ   อร่อยล้ำทั้ง  ยำผลไม้ที่รสชาติ  เป็นแบบ  ลูกครึ่งไทยฝรั่งเศส   เสิร์ฟมาเป็น  side dish   และ  สเต็คแฮมรมควันที่ที่ย่างมาด้านนอก สีเกรียมสวย   ลงตัวดีครับ

กุ้งโสร่ง    ..........   กุ้งแชบ้วย  ขนาดตัว กำลังดี  ...  ชุบแป้ง แล้วพันด้วย  เส้นหมี่  ทอดมาได้สีสันสวย และ สุกกำลังดี   ... จัดวางลงใน จานที่มีรูปแบบ ทันสมัย  ตามสไตลศืของ นาซิ จำปู๋    ...   เสิร์ฟมาพร้อมน้ำจิ้ม  คล้ายๆ บ๊วยเจี่ย   อร่อยถูกใจ  เลยครับ

ยำกระเจี๊ยบแฮมชีส    ..........   ดอกกระเจี๊ยบ  นำมายำ ได้รสชาติกลมกล่อม คลุกเม็ดมะม่วงหิมพานต์ ใส่สมุนไพร ที่ปลูกเองหลังร้าน (ไม่มียาฆ่าแมลง 100%  ครับ)   ไม่เผ็ดเหมือน ยำไทยตามร้านอาหารทั่วไป    ....   เอาเป็นว่า   สล่งสลัด  จากเชฟฝรั่ง ทั่วทุกสารทิศ  ต้องหลบลงไปข้างทางก่อน ได้เลยครับ















ยำมะเขือยาว   ..........   ผมไม่แน่ใจว่า เรียกชื่อรายการอาหาร จานนี้ถูกรึเปล่านะครับ  ...  มะเขือยาว ที่เผาพอสุก  ...   วางมาบนไข่ต้ม ที่ต้มแบบ ยางมะตูม  ...  ราดมาด้วยน้ำยำ รสเด็ด  (ที่ร้านนี้ น้ำยำ ของอาหารแต่ละจาน  รสชาติ และ ส่วนประกอบ ไม่เหมือนกัน นะครับ)    โรยหน้ามาด้วย กุ้งแห้ง โขลกละเอียด  ....   อร่อยลงตัวดีครับ

ปลาช่อนทอดน้ำปลา    ..........   จานนี้แทบ จะเป็นอาหาร ที่มี  ชื่อรายการอาหาร และ รูปร่างหน้าตา  ดูเป็น อาหารธรรมดาๆ  เหมือนร้านอาหารอื่นๆ ทั่วไป มากที่สุด แล้วครับ    ....   แต่รสชาติ  ไม่ธรรมดาแน่นอน ครับ  ...  ปลาทอดมาหนังกรอบ สีสวย เนื้อปลาไม่เค็มมากเกินไป  มีน้ำยำที่ใส่ มะม่วงเปรี้ยว ซอยเป็นเส้นเล็กๆ  ... ราดน้ำยำ พร้อม มะม่วงซอย ลงบนเนื้อปลา  ทานพร้อมๆกันทั้งหมด   .....  อร่อยเลย ครับ

ฮังเลย์ ซี่โครง กับ โรตี    ..........    เป็นการนำเอา อาหารพื้นเมือง มาดัดแปลงได้ลงตัวจริงๆครับ   แทนที่จะเลือกใช้ หมูสามชั้นเหมือนร้านอาหารพื้นเมืองทั่วไป  ..  ซึ่งคนเดี๋ยวนี้ หลีกเลี่ยงการทานอาหารที่ ไขมันเยอะเหมือนหมูสามชั้น  ...   ที่นี่ เค้าเลือกใช้ ซี่โครงหมู มาเป็นแผง  แกงแบบ ฮังเล  เคี่ยว ซี่โครง จนนุ่มเปื่อย   รสชาติ จัดจ้าน และยังคงสัมผัสกลิ่นไอเดิมๆ ของแกงฮังเล ได้อยู่เลยครับ  ...  เหมาะกับ โรตี ที่เสิร์ฟเป็นมาด้วยกัน ได้เป็นอย่างดีเลยครับ


















นอกจาก  รายการอาหาร แบบที่เดิมที่อร่อยถูกใจอยู่แล้ว  ยังมี เมนูใหม่ๆ  เพิ่มมาอีกหลายเมนูเลยครับ

ป่อเปี๊ยะ หอยลายน้ำพริกเผา    ...........    ตอนยกจานนี้มา  ต้องบอกให้น้องๆที่ร้าน ช่วยเปิดไฟ ที่โต๊ะเพิ่มขึ้นมาหน่อย เลยครับ   ....   จัดจานมาซะแบบ   " ไม่ถ่ายรูปไม่ได้เลยครับ "    ...   ไม่ได้สวยเพียงอย่างเดียวนะครับ   ยังอร่อย ซะเว่อร์เลยอีกต่างหากครับ  ...   หอยลายตัวใหญ่  เนื้อหอยล้วนๆ  ผัดกับน้ำพริกเผา รสไทยๆ  ถูกบรรจุลงกลางแป้งป่อเปี๊ยะ   แล้วเอาไปทอดแบบไม่มีน้ำมัน  เหมือนป่อเปี๊ยะทอดทั่วๆไป   ...   จานนี้แนะนำว่า  ต้องลอง   เลยครับ

สลัดยอดถั่วลันเตา  ..........    จานนี้  พิเศษหน่อยครับ  เพราะมีขาย เฉพาะในเฉพาะฤดูหนาว เท่านั้นครับ  ถั่วลันเตาจะออกยอดงามสพรั่ง  สดกรอบ  ถูกเอามา คลุกเคล้า  แบบ ไทยใหญ่  ...  รสชาติแปลกดีครับ  คลุกมาด้วยถั่ว และ เม็ดมะม่วง ที่โขลกจนเล็ก  มี น้ำสลัด รสชาติ แปลกแต่อร่อย  ..  ใส่มาในเหยือก น้อยๆ  วางอยู่ในจาน  ...   โรยหน้าสลัด ด้วย ไข่ดาว  และ ขนมปังกรอบ  ... แอบมี จิ้นส้ม (แหนม)  ชิ้นเล็กๆ    แซมมาใน ยอดถั่วลันเตา   ....  ราดน้ำสลัด แล้วคลูกเค้าให้เข้ากันก่อนทาน นะครับ  .....   จานนี้ แนะนำ ว่า  ต้องลองเลยครับ
















ร้านนี้  เหมาะที่จะใช้เป็นที่รับรองแขก  ที่อยากทานอาหารไทย เป็นอย่างยิ่งครับ
ซึ่งผมว่า ผู้ที่มาเป็นแขก น่าจะชอบ รูปแบบ และ การจัดจาน และ รสชาติ ของอาหารที่นี่
ที่สำคัญ ที่สุด  ของ การคิด ออกแบบ เลือกใช้วุตถุดิบ  และ  การปรุงอาหาร   ของที่นี่
ยังคงเอกลักษณ์ และ รสชาติ ความเป็นอาหารไทยไว้ได้อย่างดี   
เลยครับ

***************

ผมจำได้ว่า  มีอยู่วันนึง  ตอนที่ผมไปทานที่ร้านเก่า ตรงเส้นแม่โจ้   ...  มีลูกค้านั่งทานกันอยู่เต็มร้าน  ...   เห็นลูกค้า  โต๊ะใหญ่อยู่กลุ่มนึง  เป็น ฝรั่งเกือบทั้งโต๊ะ    ทานกันอยู่  ไม่ต่ำกว่า 15 คน  ...  นอกนั้นก็มี  โต๊ะผม   แล้วก็อีก   4-5 โต๊ะ  ที่เป็น คนไทย  
เวลาที่  พนักงาน ยกอาหาร  มาลงในแต่ละโต๊ะ  ...  ผมมสังเกตุ เห็นลูกค้า เกือบทุก โต๊ะ ในร้าน   รวมทั้งโต๊ะ ผมด้วย   ...   ต่างยก กล้องถ่ายรูป  และ โทรศัพท์มือถือ ขึ้นมาถ่ายรูปอาหาร กันแทบทุกโต๊ะเลยครับ  ... ถ่ายแล้วโพสท์  ...  ถ่ายแล้วโพสท์  กันทุกคน ทุกโต๊ะ เลยหละครับ
อาหารแต่ละจาน ตกแต่งมาแบบ  สวยงามจริงๆ ครับ  และ เลือกใช้วัตถุดิบ ที่เป็น ธรรมชาติ  ทั้งหมดที่ทานได้เอามาปรุง และ จัดวางได้แบบ งามไร้ที่ติ  เลยครับ

พอทานเสร็จ  ก็เหลือบไปเห็น  สิ่งที่ผมเชื่อว่า  นานๆ ที  จะเห็นอะไรแบบนี้ ในเมืองไทยซักทีนึง ครับ
คณะของฝรั่ง  ที่ทานเสร็จแล้ว  ลุกขึ้นมาทั้งกลุ่ม   แล้วเดินไปหน้าครัว  ...
" เชิญเชฟออกมายืนหน้าครัว  แล้ว  ปรบมือ ให้เชฟ  "
เห็นแล้ว  ปลื้มใจ   แทนเจ้าของร้านเลยครับ

****************

อย่าเพิ่งเชื่อ  ผม ง่ายๆ นะครับ   ....   ต้องลองไปชิมดู  ด้วยตัวเองครับ    อาหารที่ผสมผสานได้ลงตัว  ทั้งหน้าตา และ รสชาติ เรียกว่า  อร่อยจน ผมกล้าบอก และ ยืนยันว่า    
" ที่นี่เป็นอาหารฟิวชั่น ระดับแนวหน้า ของเมือง เชียงใหม่ "     เลยครับ
ราคาก็ระดับปานกลางครับ  ไม่แพงเลยกับสิ่งที่คุณจะได้รับ  ลองแวะกันไปชิมนะครับ
ร้านนี้  เปิด   2   ช่วงครับ    .....     11.00 - 15.00  และ  17.00 - 22.30 



โทรจองที่นั่ง หรือ สอบถามเส้นทาง   ได้ที่
โทร   081-831-9325   และ  089-851-6118






















แผนที่ ร้านอาหารทั้งหมด ที่ผมเขียนแนะนำไว้ใน   " แนะนำ ร้านอาหารอร่อย โดย ปาปึกส์ "
https://mapsengine.google.com/map/edit?authuser=0&hl=en&mid=zi7qOsZPeff0.kmjHpvkh5cmM




ป๋าปึกส์
4/01/2557


ขอแนะนำ ร้านโปรดของผู้เขียน
 : http://restaurantaroi.blogspot.com/2010/11/tengoku-1.html
 : http://restaurantaroi.blogspot.com/2010/11/tengoku-2.html


ติดตาม คอลัมน์ แนะนำร้านอาหารอร่อย โดย ป๋าปึกส์ ได้ทุกวันใน  Facebook
ได้ที่  : http://www.facebook.com/SuebsaengSun

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น