Translate

วันศุกร์ที่ 30 พฤษภาคม พ.ศ. 2557

ข้าวมันไก่เบตง .... ที่ ... เชียงใหม่

ข้าวมันไก่เบตง  ....  ใกล้ ร.พ. เทพปัญญา  ...  เชียงใหม่


                                   ก่อนที่จะแนะนำ ร้านข้าวมันไก่  ร้านนี้  คงต้องมาทำความรู้จักกับ ที่มาที่ไปของชื่อร้านนี้ ซะก่อนนะครับ      " ข้าวมันไก่ เบตง "
แน่นอนครับ   ข้าวมันไก่ ร้านนี้  คงจะต้องเป็นสูตรของการทำ ข้าวมัน หรือ ไก่ตอน หรือ น้ำราด  หรือ น้ำจิ้ม  แบบ เบตง แน่ๆครับ

แต่    " เบตง "    คืออะไร  .....  เรามาทำความรู้จักกันซักนิดนึง นะครับ
" เบตง "   เป็นอำเภอนึงในจังหวัดยะลา ครับ  ..  เป็นอำเภอที่ตั้งอยู่ใต้สุดของประเทศไทย มีรูปร่างลักษณะ คล้าย หัวหอก ที่ยื่นเข้าไปใน ประเทศมาเลเซีย  ตั้งอยู่ในแนวเททีอกเขา สันการาคีรี
เบตง เป็นอำเภอที่มีขนาดใหญ่ มาห อยู่ห่างจาก ตัวเมืองยะลา ถึง 140 ก.ม.
ภูมิประเทศของ เบตง เป็นภูเขาสูง จึงทำให้มีอากาศดี และ มีหมอกตลอดปี
จนมีคำขวัญประจำอำเภอ ว่า     " เมืองในหมอก  ดอกไม้งาม  ใต้สุดสยาม  เมืองงามชายแดน "  

เดิมที   " อำเภอ เบตง "     มีชื่อว่า   " ยะรม "  
ซึ่ง   " ยะรม "    เป็นภาษา มาลายู  ที่มีความหมายว่า   " เข็บเย็บผ้า "
ต่อมาใน ปี พ.ศ. 2473    จึงมีการเปลี่ยนชื่อ   จาก     " ยะรม "    เป็น   " เบตง "  
" เบตง "  เป็นคำมาจาก ภาษา มาลายู    " Buluh Betong "    หมายถึง     ไม้ไผ่ขนาดใหญ่  (ไผ่ตง)  ซึ่งเป็นพันธ์ไม่ไผ่ ที่มีอยู่มากในในท้องถิ่นนี้   และ  ต้นไผ่ตง  จึงถูกเลือกให้เป็น สัญญลักษณ์อย่างนึง ของ อำเภอ เบตง          

ในอดีต  การเดินทางเข้าออกระหว่าง จังหวัด กับ อำเภอเบตง
  ค่อนข้างลำบาก .. จึงทำให้การติดต่อ ระหว่างประชาชน กับหน่วยงาน ราชการของจังหวัด ค่อนข้างติดขัด และ ไม่สดวก เพราะการต้องเดินทางข้ามเขา และ มีระยะทางไกล  ....  จึงทำให้ อำเภอเบตง มีหน่วยงานต่างๆ ของราชการ ที่ มีอำนาจไม่แตกต่างกับ หน่วยงานราชการของ จังหวัด  และ เป็นอำเภอเดียวในประเทศไทย ที่ ใช้ทะเบียนรถ (ป้ายทะเบียน)  เป็น ชื่อ อำเภอ แทนชื่อ จังหวัด  












อ่านมาซักพักแล้ว  ยังไม่มีอะไรเกี่ยวข้องกับ  ข้าวมันไก่เบตง  เลยใช่มั้ยครับ   
ข้าวมันไก่ ที่เบตง แตกต่างกับ ข้าวมันไก่ที่อื่นอย่างไร ? 
แล้วทำไม ต้อง ข้าวมันไก่ เบตง ?  

ประชากร ที่อาศัย อยู่ในอำเภอเบตง เมื่อ พ.ศ. 2555  มีเพียง  61,080  คนเท่านั้นครับ
โดยมีประชากรส่วนใหญ่เป็น ชาวไทยเชื้อสายจีน ซึ่งมี บรรพบุรุษ ที่เป็น ชาวจีน ที่ส่วนใหญ่ มีเชื้อสาย ไหหลำ และ ฮ้กเกี้ยน
นี่แหละครับ  ... เริ่มเกี่ยวข้องกับ ข้าวมันไก่แล้วครับ
การหุงข้าวมัน แบบ ชาวไหหลำ และ ฮ้กเกี้ยน มีรูปแบบ ที่คล้ายคลีงกันมาก และ เป็นที่นิยมในการ นำเอามาทานคู่กันกับ ไก่ตอน
ซึ่ง ไก่ตอน ก็เป็นอีกหนึ่งประเภทอาหาร ที่ชาวไหหลำ  ได้รับการยอมรับและยกย่อง จากนักชิม นักทาน ทั่วโลกว่า เป็น ไก่ตอนที่อร่อยแบบหาตัวจับยาก
แต่  ไก่ตอน เบตง  แตกต่างกับ ไก่ตอน ในภูมิภาคอื่นๆ ครับ
อันเนื่องด้วยสภาพภูมิประเทศ ที่เป็นภูเขา  ทำให้การเดินทางติดต่อในอดีต ไม่สดวก
ทำให้ การเลือกไก่ เพื่อทำไก่ตอน ของชาวเบตง   จึงนิยมใช้  ไก่พันธ์ท้องถิ่น  ที่  เลี้ยงด้วยวิธีแบบ ธรรมชาติ และ มีการให้อาหาร จากพืชพันธ์ธรรมชาติ  ซึ่งมีผลทำให้ไก่แข็งแรง และไม่มี ไขมัน ใต้หนังมาก  เหมือนไก่ที่เลี้ยงด้วยอาหารเสิรม ในโรงเลี้ยง
อีกหนึ่ง สัญญลักษณ์  ที่แตกต่าง ของ ข้าวมันไก่แบบเบตง   ก็คือ    " น้ำราดข้าวมันไก่ "
นอกเหนือจากการทานข้าวมันไก่ ที่ใช้น้ำจิ้มที่ทำจากเต้าเจี้ยว แบบ ชาวไหหลำแล้ว  ..  ข้าวมันไก่เบตง ยังมีน้ำราดข้าวบนข้าวมันไก่ อีกต่างหากครับ
น้ำราดที่ทำจากกระเทียมเจียว  พริกแห้งคั่วกับงา และ ซีอิ๊วปรุงรส  ... รสชาติกลมกล่อมออกหวานนำเค็ม แถมรสเผ็ดแอบแทรกมาเล็กน้อย  ...  อร่อยแปลกกว่าใครดีครับ












เอาหละครับ  มาเข้าเรื่อง ร้านข้าวมันไก่เบตง ที่ผมจะแนะนำ ในวันนี้เลยดีกว่า ครับ
ผมได้รับการแนะนำ จากเพื่อนว่า มีร้านข้าวมันไก่แบบ เบตง อยู่บนต้น ถนนแม่โจ้ ห่างจากแยก โรงพยาบาล เทพปัญญา มานิดเดียวครับ (ฝั่งเดียวกันครับ)
เมื่อ 2-3 วันก่อนนี่เองครับ  ตื่นเช้ามา ผมก็ขับรถ ไปรอตั้งแต่ร้านเปิดเลยครับ  ร้านเข้าเปิดประมาณก่อน 7 โมงเช้าเล็กน้อยครับ
พอไปถึงร้าน  คนยังว่าง  ก็เลยได้ทักทายถามไถ่ เจ้าของร้าน ที่หน้าตาดูก็พอจะรู้ว่า แกเป็นคนไทยเชื้อสายจีนชาว เบตง แน่ๆเลยครับ  ...  เจ้าของร้านมาอยู่ที่เชียงใหม่ ตั้งแต่มาเริ่มเรียน มหาวิทยาลัยที่แม่โจ้ เลยครับ  .. แล้วหลังจากนั้นก็ตั้งรกราก  โดยอาศัยประสพการณ์ ที่ได้รับการถ่ายทอดมาจาก ญาติผู้ใหญ่ในครอบครัว  โดยการเปิดกิจการ   ทำ ข้าวมันไก่เบตง นี่แหละครับ
ผมไม่พูดพร่ำทำเพลง ครับ  ... จัดแจงสั่ง ข้าวมันไก่ มาทานทันที ครับ
พอข้าวมันไก่ยกมา  ไม่มี ซ้อสราดแบบ เบตง มาให้  ...  ก็เลยต้องสอบถามหน่อยครับ  ...  เจ้าของบอกว่า แต่ก่อนทำน้ำราดแบเบตงทุกวัน แต่คนทางเหนือคงไม่ชอบรสชาติ  เลยไม่ให้ราดลงบนข้าว .. ตอนหลังก็แยก ซ้อสราด .. ก็ไม่ค่อยมีคนชอบอีก  กลับชอบเฉพาะน้ำจิ้มเต้าเจี้ยวแบบไหหลำ มากกว่า
แต่เมื่อทานแล้ว  ....  แค่น้ำจิ้ม  ..  ไก่ตอน และ ข้าวมัน ผมก็ว่า อร่อยเพียงพอเลยครับ














ไก่ตอน   .........   ไก่คัดพันธ์ุ ที่ไม่ค่อยมีมันใต้หนังมากนัก  หนังสวยเด้งอร่อย  เนื้อนุ่ม สีขาวสวย

ข้าวมัน   .........  ข้าวหุงสวยเป็นเม็ด แต่ในนุ่ม  .. ไม่มันมาก หอมกลิ่นกระเทียมและขิง ลอยมาเลยครับ

น้ำจิ้ม เต้าเจี้ยว  .........   น้ำจิ้มเต้าเจี้ยวแบบไหหลำ  รสเค็มนำหน้า มีเปรี้ยวแทรกมาเล็กน้อย  .. วางพริกขี้หนูซอย และ ขิงสับ ไว้ให้เลือกปรุงได้ตามชอบใจ

น้ำซุป   ..........   น้ำซุปใสแจ๋ว แต่รสชื่นใจเลยครับ  ผมสั่งน้ำซุปเพิ่มมาืทานต่างน้ำเลยครับ

ร้านนี้นอกจากมี  ข้าวมันไก่แล้ว  ยังมี อาหารให้เลือกทานอีกหลายอย่างเลยครับ  ทั้ง  ข้าวหมกไก่  ,  เกาเหลา  ฯลฯ
ลองแวะไปชิมกันดูนะครับ



แผนที่ร้านอาหาร ทั้งหมดที่ผมเขียนแนะนำ ไว้ใน   " แนะนำ ร้านอาหารอร่อย โดยป๋าปึกส์ "
https://mapsengine.google.com/map/edit?authuser=0&hl=en&mid=zi7qOsZPeff0.kmjHpvkh5cmM




ป๋าปึกส์
30/05/2557


ขอแนะนำ ร้านโปรดของผู้เขียน
 : http://restaurantaroi.blogspot.com/2010/11/tengoku-1.html
 : http://restaurantaroi.blogspot.com/2010/11/tengoku-2.html
 : http://restaurantaroi.blogspot.com/2011/05/tengoku-de-cuisine.html

ติดตาม คอลัมน์ แนะนำร้านอาหารอร่อย โดย ป๋าปึกส์ ได้ทุกวันใน  Facebook
ได้ที่  : http://www.facebook.com/SuebsaengSun




วันพุธที่ 28 พฤษภาคม พ.ศ. 2557

คุณแม่จู้ .. สุดยอดของฝาก จาก เมือง ภูเก็ต


คุณแม่จู้ .. สุดยอดของฝาก จาก เมือง ภูเก็ต  

ของฝาก  ....  ไมตรีจิต ที่หาได้ยากใน ชนชาติอื่นๆ
คนไทยเรา ได้รับการยอมรับ จาก นานาชาติ ในเรื่อง  การมีน้ำใจ .. ความโอบอ้อมอารีย์ ที่มีต่อคนอื่น
ไม่ว่า เราจะไปเที่ยวไหน ไม่ว่าจะเป็น  ในประเทศ หรือ ต่างประเทศ  สิ่งนึงที่คนไทย ไม่เคยลืมนึกถึง ก็คือ  " ของฝาก "  นี่แหละครับ
ไม่ว่าจะเป็นของใช้ หรือ  ของรับประทาน  คนไทยเรานี่แหละครับ  เป็นนักซื้อ ที่ ติดอันดับโลก เลยหละครับ
สมัยเมื่อ 20 กว่าปีที่แล้ว  ตอนที่ผมยังทำงานเป็นหัวหน้าทัวร์ พาคนไทยไปเที่ยวต่งประเทศ  (ส่วนใหญ่ผมมักจะพาไปแถวๆ ยุโรป)  ... จำได้ว่า ไม่ว่า แวะจอดตรงไหน  ไม่ว่าจะเป็น ปั๊มน้ำมัน เพื่อเข้าห้องน้ำ  โบสถ์วิหาร  สถานที่ท่องเที่ยวต่างๆ ... ไม่มีครั้งไหน ไม่มีเที่ยวไหน หรือ การจอดรถครั้งใด  ที่นักท่องเที่ยวไทย   ไม่หิ้วถุงขึ้นรถ ครับ  ...  สมัยผมเป็นหัวหน้าทัวร์ ผมไม่ค่อยได้ซื้อของจุกจิก มาฝากใครเลยครับ  (ตอนนั้น ไม่มีตังค์ ครับ)   แต่พอเลิกทำทัวร์  ก็คง จะได้เชื้อมาจาก  ลูกทัวร์ เก่าๆ นั่นแหละ มั้งครับ  .... เดี๋ยวนี้ไปเที่ยวไหน ไม่ว่าจะในประเทศ หรือ ต่างประเทศ  .. สิ่งที่ผมเองก็ไม่เคยขาดก็คือ ซื้อของฝาก  เช่นกันครับ














เมื่อ อาทิตย์ที่แล้ว  (19-22  พ.ค.57)   ผมพาครอบครัว และ นัดเพื่อนๆ อีก 3 ครอบครัว ไปเที่ยว ภูเก็ต กันมาครับ  ....  ไปภูเก็ตหน้านี้ โรงแรมถูกกว่าฤดูอื่นครับ  ถ้าไปช่วง  Peak Season   ก็คงสู้ราคาไม่ไหว แน่ๆเลยครับ   ราคาห้องพัก ช่วง Peak Seadon   แพงหูฉี่เลยครับ
เที่ยวนี้  โชคดีครับ  ได้ที่พัก ราคาพิเศษ  และ สดวกสบาย สุดๆ  ... สระว่ายน้ำอยู่หน้าห้องนอนเลยครับ  ..  เลยไม่ค่อยได้ออกไปไหนเท่าไหร่ครับ  ... ส่วนมากก็ หาอะไรทานกันในที่พัก นั่นและครับ
ออกไปทานอาหาร ข้างนอกแค่ 3 มื้อ   ก็อร่อยทุกร้านเลยครับ (กำลังเขียน ตามมา แนะนำครับ)  ... อร่อยจนทานกันแบบไม่ยั้ง  จนน้ำหนักขึ้น กันแทบทุกคนครับ
เดี๋ยวนี้ เวลาจะ เดินทางไปไหนมาไหน ในเมือง ภูเก็ต   ค่อนข้าง ใช้เวลานานมากเลยครับครับ   พอเข้าเมืองไปครั้งนึง   เจอรถติดนานๆ  พวกเราก็เลยไม่ค่อยอยากออกไปไหนกันเลยครับ  เพราะรถติดไม่แพ้ กรุงเทพฯ เลยทีเดียวครับ  ...  น่าจะเป็นสาเหตุ มาจากทางเข้าเมือง  กำลังทำถนน  ขุดอุโมงค์   บนเส้นทาง  ทีตั้งของ ห้างใหญ่ๆ กันอยู่มั้งครับ
พอใกล้จะหมดเวลาแห่งการพักผ่อน   พวกเราก็เริ่ม นึกกันแล้วครับ ว่า  ขากลับ จะซื้ออะไร ไปฝากเพื่อนๆ ญาติๆ  น้องๆ  ของพวกเราที่เชียงใหม่
แน่นอนที่สุดครับ    " ของกิน "    ที่ไม่เหมือนกับ บ้านเรา  น่าจะดีที่สุดครับ
โดยเฉพาะ  ของกิน ขึ้นชื่อของปักษ์ใต้ ครับ

ผมนึกถึง ร้านของฝากร้านนี้ ขึ้นมาทันที เลยครับ   ...   " ร้านคุณแม่จู้ "   ครับ
สดวกที่สุด  และ มีคุณภาพที่สุด ร้านนึง ของ ภูเก็ต เลยทีเดียวครับ
" คุณแม่จู้ "  ทำของฝากลือชื่อ ของเมืองภูเก็ต มายาวนาน กว่า 70 ปีแล้วครับ
ได้รับรางวัลมากมาย จนได้เป็น  ศูนย์จำหน่ายสินค้าภูมิปัญญาไทย เจ้าแรกของภาคใต้ จากกรมส่งเสริมอุสาหกรรม  และ ได้รับรอง มาตรฐานสินค้า อีกมากมาย ทั้ง  GMP , ฮาลาล , OTOP 5 ดาว  .. ฯลฯ
ที่สำคัญ  ที่ร้านแม่จู้  ยังได้รับ การ รับรองความอร่อย จาก  เชลส์ชวนชิม   อีกต่างหากครับ
ร้านนี้ มีอาหารของฝาก จานเด็ด ของภูเก็ต  ที่ผมไม่เคยพลาด หลายอย่าง  เลยครับ













แกงไตปลา   .........   แกงไตปลา แบบ ภูเก็ตแท้ๆ  มี 2 แบบ นะครับ  ...ไตปลาสด  และ ไตปลาแห้ง

แกงไตปลาสด  ... ทำมาแบบสดๆ พร้อมทาน  .. น้ำข้น เข้มข้น จัดจ้าน แต่ไม่เผ็ดมาก  สีไตปลา น้ำตาลเข้ม  หอมกลิ่นไตปลา  ตั้งแต่เปิดฝาเลยครับ มีเนื้อปลา เป็นชิ้นใหญ่ๆ เลยครับ  และ ยังมี  เม็ดมะม่วงหิมพานต์   ลอยหน้ามาตามสไตลส์ แกงไตปลาแบบภูเก็ต   น่าทานมากเลยครับ  ..  เวลาซื้อกลับมาบ้าน ต้องแช่ไว้ในตู้เย็นนะครับ
เวลาผมทาน  ผมก็ทานตามสูตรของผมเองครับ  ..  ผมเท แกงไตปลาลงหม้อ  แล้วเดิม น้ำเปล่า ไปเท่ากับ  กล่องพลาสติคที่บรรจุ แกงไตปลา มานั่นแหละครับ  ...  แล้วผมเอาผัก  อย่าง หน่อไม้ลวก มะเขือ  ลงในหม้อ   ตั้งไฟจนเดือดก็พอแล้วครับ   ...  กลิ่นหอมฉุย มาเลยครับ
แกงไตปลา  ทานกับ ไข่เจียว พร้อมกับ ข้าวสวยร้อนๆ   แกล้มกับผักสด (แตงกวา  บรรจุมาในกล่องเรียบร้อยครับ)     .. โอววววว   หร๋อยจั่งหู๋ เลยครับ
ขอย้ำ  นะครับ  ....   แกงไตปลา   แบบนี้   เวลาเก็บ ต้องแช่ตู้เย็น เท่านั้นนะครับ

แกงไตปลาแห้ง  ...  แกงไตปลา  แบบเดียวกันกับ  แกงไตปลาสด  แต่ทำให้แห้ง ด้วยกรรมวิธีที่ได้รับการรับรอง จาก กรมส่งเสริมอุสหกรรม   ...  ไตปลา แบบนี้ เอาไว้พกติดตัวเวลาไปเที่ยวต่างประเทศ หรือ ที่ไหน ไหนก็ตาม  ช่วยให้เจริญอาหาร และ หายคิดถึงบ้านได้เลยครับ   ...  แกงไตปลาแบบแห้ง  ไม่ต้องแช่ตู้เย็นครับ  ...  เปิดฝา เอามาคลุกกับ  ข้าวสวยร้อนๆ   ...  ทานได้ทุกเมือง ทุกประเทศครับ



น้ำพริกกุ้งเสียบ  ..........  เช่นเดียวกันครับ  ที่ร้านนี้เค้ามี ทั้ง  น้ำพริกกุ้งเสียบแบบสด และ แบบแห้งครับ

น้ำพริกกุ้งเสียบ แบบสด  ... น้ำพริกกะปิ  ตำกันสดๆ ที่ร้าน คุณแม่จู้เลยครับ  ... รสชาติน้ำพริกถูกใจผมจริงๆครับ  ครบรส เปรี้ยวอมหวาน มีเค็มแซกมาแบบแอบๆ นืดนึง ..  กะปิอย่างดีหอมยั่วยวน ซะเหลือเกินครับ  ...  ตอนผมยืนดูเค้าตำน้ำพริก ถึงขั้น ยืนกลืนน้ำลาย  .. เสียงดัง เอื๊อก เอื๊อก  จนแม่ครัวคนตำ ต้องเงยหน้ามาดูเลยครับ  5555
พอตำเสร็จเค้าจะแยกถุง  ให้เรียบร้อยเลยครับ  น้ำพริกถุงนึง กุ้งเสียบถุงนึง แพ็ค ลงในกล่อง แถมยังมี แตงกวา แพ็คมาให้อีกด้วยครับ  แล้วใส่ในกล่องกระดาษสีเขียวลวดลายสวยงาม (Packaging  สุดยอดครับ)    ...  น้ำพริกกุ้งเสียบสด  แบบนี้ เวลาซื้อกลับมาบ้าน หรือ ฝากใคร ต้องบอกเค้าว่า  " ต้องเก็บในตู้เย็นนะครับ "  
หลังจากผมซื้อ และ ผมกลับมาจากภูเก็ต 5 วันแล้ว  ผมเพิ่งเอาออกมาทานวันนี้เองครับ .. น้ำพริก ยังสดและอร่อยเหมือนทานอยู่ที่ร้านอาหารในภูเก็ตเลยครับ  .. ที่สำคัญ กุ้งเสียบที่ใส่มาในกล่อง และ อยู่ในตู้เย็น 5 วันเต็มๆ  พอเอาออกมาจากกล่อง  ทานแล้ว ต้องชม กรรมวิธีการผลิตเลยครับ  ก็  กุ้งเสียบยังกรอบเหมือนตอนยืนทานที่ร้านอยู่เลยครับ  ...  แนะนำเลยครับ อย่างน้อย ต้องคนละ 2 กล่องครับ

น้ำพริกกุ้งเสียบแบบแห้ง  ...  ผมเรียกว่า แบบแห้ง ทั้งๆ ที่น้ำพริกแบบนี้ ไม่ได้แห้งเลยครับ  แต่เค้าทำให้เก็บได้นานขึ้นครับ  บรรจุใน ขวดพลาสติคปากกว้าง  น้ำพริกแบบนี้ไม่ต้องอุ่นเลยครับ
น้ำพริกแบบนี้ ถ้าทานตามสูตรผม  ... ผมก็แค่ เอามือไปลงน้ำ แล้วมาดีดมือ เอาน้ำพรมๆ ไปหน่อยนึง ..  แล้วเอาไปเข้าไมโครเวฟ   แค่พอร้อน  ขอย้ำว่า   แค่พอร้อนนะครับ  ... แล้วผมก็ เอามะนาวบีบ ลงไปนิด (ครึ่งลูกก็พอครับ)   แล้วคลุกให้ทั่ว  จะข้าวทาน หรือ จะทานคู่กันกับ ไข่เจียว ก็อร่อยล้ำแล้วครับ












ยังมี ของฝากอีกมากมาย หลายสิบชนิด  ทั้ง เม็ดมะม่วงหิมพานต์  หลายแบบ หลายชนิด ทั้งอบเกลือ เคลือบน้ำตาง เคลือบงา ฯลฯ  ...  ปลาแห้ง  อาหารทะเลแห้ง  และ ขนมทานเล่น นานาชนิด ให้ได้เลือกกันหลายสิบชนิดเลยครับ  ... เอาเป็นว่า จัซื้อฝากทั้งหมู่บ้านไม่ให้ซ้ำกันทุกบ้าน ยังได้เลยครับ

และ  สิ่งที่ผมชื่นชม สินค้าของ ร้านแม่จู้    อีกอย่างนึง ของ ร้านนี้ก็คือ  
Packaging  ที่ สวยงาม และ ได้ Function  ที่ไม่แพ้ ร้านค้า ร้านของฝากชั้นนำ ใน ประเทศญี่ปุ่น ที่มีชื่อเสียง ในเรื่องแบบนี้เลยครับ

ร้านคุณแม่จู้    ร้านนี้ อยู่บน ถนนเส้นหลัก  ที่ใช้  เดินทางไปสนามบินนานาชาติ ของ ภูเก็ต  ..  อยู่ก่อนถึง  ทางเลี้ยวเข้าสนามบิน    ไม่กี่   ก.ม.  เลยครับ  ... สดวกไม่ต้องไปผจญกัการจราจร ที่ คับคั่งขึ้นทุกวัน  ที่สำคัญ มาขึ้นเครื่องทันเวลา แน่นอน ครับ
ใครไปเที่ยว ภูเก็ต   ...   นึกถึงของฝาก   ก็ต้อง  ร้าน    " คุณแม่จู้ "   เลยครับ
ลองแวะไปซื้อทานดู นะครับ  .... รับรองว่า     " หร๋อย จั่ง หู๋ "     ครับ



แผนที่ร้านอาหาร ทั้งหมดที่ผมเขียนแนะนำ ไว้ใน   " แนะนำ ร้านอาหารอร่อย โดยป๋าปึกส์ "
https://mapsengine.google.com/map/edit?authuser=0&hl=en&mid=zi7qOsZPeff0.kmjHpvkh5cmM



ป๋าปึกส์
28/05/2557

ขอแนะนำ ร้านโปรดของผู้เขียน
 : http://restaurantaroi.blogspot.com/2010/11/tengoku-1.html
 : http://restaurantaroi.blogspot.com/2010/11/tengoku-2.html
 : http://restaurantaroi.blogspot.com/2011/05/tengoku-de-cuisine.html

ติดตาม คอลัมน์ แนะนำร้านอาหารอร่อย โดย ป๋าปึกส์ ได้ทุกวันใน  Facebook
ได้ที่  : http://www.facebook.com/SuebsaengSun




วันศุกร์ที่ 16 พฤษภาคม พ.ศ. 2557

ก๋วยเตี๋ยวหมูเด้ง ไข่ออนเซน ... นิมมานฯ 5-7 ... เชียงใหม่

 ก๋วยเตี๋ยวหมูเด้ง ไข่ออนเซน  ...  ระหว่าง นิมมานฯ 5-7  ... เชียงใหม่  


                               ช่วงนี้ ตั้งแต่ เช้าถึงเที่ยง  ผมไปดูงาน อยู่ แถวๆ นิมมานฯ แทบทุกวัน เลยครับ  ....  พอ ใกล้ๆ เที่ยง  ก็เริ่มคิด เริ่มชวน เพื่อนๆ (หุ้นส่วน ที่กำลังสร้างร้านอาหารใหม่ 2 ร้าน   ที่หัวมุม สี่แยก ใน ซอยนิมมานฯ 5  ด้วยกัน ... ทั้ง 2 ร้าน  ญี่ปุ่น กับ ฝรั่ง  จะเปิดเดือน  ตุลาคม 2557 )  ...  ผมและเพื่อน เริ่มลงมือทำกันมาเกือบเดือนนึงแล้วครับ  
ทุกวัน พอใกล้ถึงเวลา มื้อเที่ยง ก็ไม่อยากออกไปไหนไกลๆ ครับ ... ร้อนก็ร้อน  ที่สำคัญ กลัวเอารถออกไปแล้ว  กลับมาจะไม่มีที่จอดรถ นี่ซิครับ  ...  ก็เลย ฝากท้องไว้แถวๆ นิมมานฯ แทบทุกวันเลยครับ
ส่วนใหญ่ ก็ไปทาน ร้านที่ผมเขียนแนะนำไว้ ทุกร้านเลยครับ  บางร้าน วนไปหลายรอบเลยครับ  ..  แต่ก็ลองร้านใหม่ๆ กันอยู่เรื่อยครับ
เมื่อ 2-3 วันที่แล้ว ไปลองร้านใหม่มาครับ  พวกเราเห็นร้านใหม่ ร้านนี้แทบทุกวัน  (เพราะอยู่ใกล้ กับ ร้านอาหารที่พวกผม กำลังจะเปิด) และ พวกเรา ต้องเดินผ่านร้านนี้ แทบทุกวัน
" เดินผ่านทีไร ก็มีคนนั่งทานทุกที "  เลยครับ

ไอ้คำว่า   " เดินผ่านทีไร มีคนนั่งทานทุกที "   นี่แหละครับ  ผมว่า มันเป็นหัวใจ และ สิ่งที่สำคัญที่สุด  ในการเริ่มต้นทำร้านอาหาร ทุกชนิด เลยก็ว่าได้ครับ
ผมเคยไปเป็น วิทยากร  บรรยายเรื่องราวเกี่ยวกับการทำธุรกิจด้านอาหาร  ในหลายสถาบันการศึกษา  โดยผม มัก เล่าให้ฟังเสมอว่า
" ผมเชื่อว่า  คงไม่มีใครอยากเข้าไปทานอาหารในร้านใหม่ๆ   ที่ไม่มีใคร นั่งทานอาหารอยู่ในร้านแม้แต่คนเดียว แน่นอนครับ   ...  ในร้านที่ประสพความสำเร็จ หลายๆร้าน  ช่วงเปิดใหม่ๆ เค้าต้องเชิญพรรคพวก มาทาน กันตั้งแต่ ร้านเริ่มเปิด แทบทุกวัน กันทั้งนั้นแหละครับ "

แต่ ที่ร้านนี้ เค้าเปิดมาได้ระยะนึงแล้ว  เริ่มมีลูกค้าประจำ แวะเวียนมาทาน โดยไม่ต้อง ชักชวนเพื่อน แล้วหละครับ












 
                              " ชื่อร้าน "  มีส่วนสำคัญ ในการจูงใจ ลูกค้า มากทีเดียวครับ  ...   ผมเข้ามาทานร้านนี้ โดยไม่เคยได้ยิน ใครบอกเล่ามาก่อน
แต่ด้วยชื่อร้านนี้ นี่แหละครับ   " ก๋วยเตี๋ยวหมูเด้ง  ไข่ออนเซน "   ทำให้ผมและเพื่อนๆ  อยากรู้ อยากเห็น ขึ้นมาทันใด เลยครับ
หมูเด้ง  ....  ผมยังพอจินตนาการได้ ครับ เพราะเคยทานมาหลายร้านแล้วครับ
ไข่ออนเซน  .....  เจ้าไข่ออนเซน นี่ซิครับ  ก่อนเข้าไปทาน ก็ จินตนาการคงต้องเป็นอะไร ที่คล้ายๆ ไข่ต้ม ...  แต่ทำไม ต้อง ออนเซน  ..  นีแหละครับ  เลยทำให้ผมอยากรู้ จนต้องเข้าไป ลอง เลยครับ

                              ร้านนี้เป็น ร้านเล็กๆ  อยู่ใน ถนนกลางซอย ที่เชื่อมระหว่าง  นิมมานฯ ซอย 5  และ  นิมมานฯ ซอย 7  ครับ  ถ้าเดินจากซอย 5 ไป ซอย 7  ร้านนี้อยู่ด้านซ้ายมือ ครับ
ตอนไปร้านนี้ ครั้งแรก ผมไปตอน บ่ายโมง ไปกับ น้องๆที่ทำงานด้วยอีก 2 คนครับ  แต่ผมทานอาหารกลางวันมาแล้ว ตั้งใจมานั่งคุยเรื่องงานเฉยๆ  ...  แต่พอ น้องๆ สั่ง ก๋วยเตี๋ยวเส้นเล็กต้มยำไข่ออนเซน มาทั้งคู่ แล้วพนักงานยกมาที่โต๊ะ  ..  แค่เห็น ชามก๋วยเตี๋ยว ที่ มีไข่ออนเซน วางบนหน้าก๋วยเตี๋ยวมา  ก็เกิดอาการ อยากทานขึ้นมาทันที  ...  เลยสั่งมาซะอีก 1 ชามครับ  5555  













ก๋วยเตี๋ยวเส้นเล็กต้มยำ หมูเด้ง ไข่ออนเซน   ..........   ก๋วยเตี๋ยวจานนี้ จัดจานมาแบบ เรียกน้ำย่อย ได้ดีเลยครับ ... น้ำต้มยำมีถั่วลิสงทุบลอยหน้ามา  สีสันน้ำต้มยำ สวยด้วยสี ของ พริกป่น ... วางหน้ามาด้วยหมูเด้ง เป็นแผ่น เกือบเต็มชาม  (หมูสับ หมัก ตีเป็นแผ่น)   ..  แล้ว มี ไข่ออนเซน  (คล้ายๆ ไข่ดาวน้ำ ไข่ขาวนวลสวย ไข่แดงสุกแบบยางมะตูม)   วางด้านข้างมาด้วย แผ่นเกี๊ยวทอด  .. น่าทานเลยครับ
น้ำต้มยำ รสกลมกล่อม ออกหวานนำหน้าเล็กน้อย  แต่ แทบไม่ต้องปรุงเลยครับ  ...  หมูเด้ง อร่อยเลยครับ  เนื้อเด้ง ทานง่าย หมูเด้งแผ่นบางๆ  อร่อยเลยครับ  ทานคู่กับ ไข่ออนเซน  เข้ากันดีครับ

ที่ร้านนี้  มีรายการ ก๋วยเตี๋ยว และ อาหารอีกหลายอย่าง  แต่วันนี้ผมทานอาหารกลางวันมาแล้ว  เลยได้ลองแค่อย่างเดียว  ...  ร้านนี้อยู่ใกล้กับที่ผมไปทุกวัน  กลับไปทานเมื่อไหร่ จะเอามา  update  อีกที นะครับ

ลองแวะไปทาน ร้านใหม่ๆ กันดู นะครับ


แผนที่ร้านอาหาร ทั้งหมดที่ผมเขียนแนะนำ ไว้ใน   " แนะนำ ร้านอาหารอร่อย โดยป๋าปึกส์ "
https://mapsengine.google.com/map/edit?authuser=0&hl=en&mid=zi7qOsZPeff0.kmjHpvkh5cmM



ป๋าปึกส์   16/05/2557

ขอแนะนำ ร้านโปรดของผู้เขียน
 : http://restaurantaroi.blogspot.com/2010/11/tengoku-1.html
 : http://restaurantaroi.blogspot.com/2010/11/tengoku-2.html
 : http://restaurantaroi.blogspot.com/2011/05/tengoku-de-cuisine.html

ติดตาม คอลัมน์ แนะนำร้านอาหารอร่อย โดย ป๋าปึกส์ ได้ทุกวันใน  Facebook
ได้ที่  : http://www.facebook.com/SuebsaengSun



วันพฤหัสบดีที่ 15 พฤษภาคม พ.ศ. 2557

เชียงใหม่โอปา ... ลูกชิ้นหมู ... เชียงใหม่


เชียงใหม่โอปา
หนึ่งในร้าน สุดยอด ลูกชิ้นหมู , ก๋วยเตี๋ยว , เย็นตาโฟ  ...  เชียงใหม่

ร้านนี้ ผมเคยไปทานครั้งแรก เมื่อหลายปีที่แล้วครับ (น่าจะประมาณ 5 ปีที่แล้ว)   ตั้งแต่สมัยที่ยังไม่ได้เขียนแนะนำ ร้านอาหาร เลยครับ  ...  ตอนไปทานครั้งแรก ก็เริ่มติดใจแล้วครับ  แต่สมัยนั้น ยังไม่มี โทรศัพท์ที่มีกล้องถายรูป แล้วก็ยังไม่ค่อยมีใคร เล่น Facebook  และ ผมเองก็ยังเปิด Blog เปิดโน่น เปิดนี่ ยังไม่ค่อยเป็นอยู่เลยครับ  ....  แต่พอเริ่มมาเขียน แนะนำร้านอาหารอร่ย   ก็ ขับรถผ่าน ร้านนี้เกือบทุกวัน  อาจจะเป็นเพราะ ร้านนี้อยู่ไม่ไกล จากที่ทำงาน  ก็เลย พลัดวันประกันพรุ่ง  ...  ว่าจะ  .. ว่าจะ .. มานับสิบๆ ครั้ง  ..  ว่าจะแวะ ถ่ายรูป  แล้วมาเขียนแนะนำมาตั้งนานแล้วครับ  ....  ลืมแวะ เกือบทุกทีครับ  คงเพราะคิดว่าใกล้ มั้งครับ  ...  ต้องขออภัย เจ้าของร้านไว้ ณ ที่นี้ด้วยนะครับ














" เชียงใหม่ โอปา "    ..........   ผมเองก็ไม่ทราบความเป็นมา ของ คำว่า โอปา เหมือนกันครับ  ว่าทำไม ตั้งชื่อว่า  เชียงใหม่ โอปา  ..  ก็เลยลองถาม พี่กุ๊ก (google  ครับ)  ...  เจอคำว่า  โอปา เป็นภาษาเกาหลี  ซึ่งแปลว่า  พี่ชาย  เป็นคำที่น้องสาว ใช้ เรียก พี่ชาย  ...  ซึ่งดูแล้วไม่น่าเกี่ยวกันกับร้านก๋วยเตี๋ยว แต่เห็นว่า ได้ความรู้ใหม่ ก็เลยเอามาเล่าครับ

ร้านนี้อยู่บน  ถนนเจริญเมือง (คนเก่าแก่ จะเรียก ถนนนี้ว่า หนองประทีป)  ...  หากเราขับรถมาจาก สี่แยกไฟแดง ตรง ซุปเปอร์ หรือ อีกชื่อนึงว่า แยกหนองประทีป มุ่งหน้าเข้ามา สถานีรถไฟ  พอ ผ่านธนาคารกสิกร มาไม่นาน จนเกือบถึง โรงเรียน สารสาสน์วิเทศ  ก็ชิดซ้ายเลยครับ  สังเกตุฝั่งตรงข้าม จะเห็น  โชว์รูม Mazda  อยู่เลยไปหน่อย   ..  ร้านนี้ อยู่ใน ตึกแถวด้าน ซ้ายมือ ก่อนถึง โรงเรียน ครับ
                                   
ร้านนี้ นอกจาก มี  " ลูกชิ้นหมู "  ทำเอง ที่ขึ้นชื่อแล้ว ยังมี เย็นตาโฟ ที่อร่อย หาตัวจับ ยากซะด้วยครับ  ..  แถมยังมี ข้าวหน้าต่างๆ ที่อร่อยไม่แพ้ใครอีกเช่นกัน ครับ .. ทั้ง ข้าวผัดกระเพรา , ข้าวผัดพริกแกง , ข้าวหมูทอดกระเียมพริกไท ฯลฯ















ลูกชิ้นหมู
 ..........   ลูกชิ้นหมู ของ ร้านนี้ทำเองครับ  เนื้อหมูล้วนๆ ไม่มีมันแทรกให้ต้องระวังเรื่องไขมันในเส้นเลือดเลยครับ  เนื้อลูกชิ้น เด้ง แต่นุ่มเคี้ยวง่าย   สั่ง ลูกชิ้นลวก เปล่า มาทานแล้ว เหยาะน้ำส้มพริกตำ ที่หอมอร่อย  เหยาะน้ำปลาซักนิด  .... เอาเป็นว่า  ร้อง โอวววววว  กันลั่นร้านเลยทีเดียวเชียวครับ
ลูกชิ้นหมู ที่ร้านนี้ เค้ามีขายแบบ ซื้อกลับบ้านด้วยนะครับ  ใครจะซื้อเอาไปทำก๋วยเตี๋ยว หรือเอาไปปิ้งทาน ก็สั่งได้เป็น กิโล เลยครับ


น้ำส้มพริกตำ  .........   ทีร้านนี้ มีพริกน้ำส้ม วางในถาดเครื่องเคียงอยู่สองแบบ ครับ  มีทั้ง พริกชี้ฟ้าหั่นเป็นแว่น ลอยหน้าบนน้ำส้มสายชู   และ น้ำส้มสายชูกับ พริกตำ  ครับ  ....  ร้านนี้เข้าสูตร ร้านก๋วยเตี๋ยวในใจ ของผมเลยครับ  ร้านก๋วยเตี๋ยวที่พิถีพิถันเกือบทุกร้าน เค้าจะใส่ใจในรายละเอียดแบบนี้ กันเกือบทั้งนั้นเลยครับ   นี่แหละครับ อีกหนึ่งเบื้องหลัง ความสำเร็จ ของร้านขายก๋วยเตี๋ยวครับ  น้ำส้มพริกตำ กลิ่นหอม รสอร่อยที่ไม่ได้มีแต่เปรี้ยวเพียงอย่างเดียว  .. น้ำส้มพริกตำแบบนี้นี่แหละครับ ใส่กับ ก๋วยเตี๋ยวน้ำ อร่อยนักแล เลยครับ


เย็นตาโฟ  ..........   ต้องบอกว่า อร่อยไม่แพ้ เจ้าไหน ในเชียงใหม่ เลยครับ  ... ใส่เครื่องเครามาครบ ทั้ง ปลาหมึกแช่  ลูกชิ้นหมู    เต้าหู้ทอด เห็ดหูหนูขาว  ฯลฯ   ... ราดน้ำเต้าหู้ยี๊ สีแดงสดใส  พร้อมปรุงรส มาแบบ ผมไม่ต้องปรุงอะไร ลงไปอีกแม้แต่น้อยเลยครับ  ...  อร่อยถูกใจ จริงๆ ครับ


ข้าวหมูทอดกระเทียมพริกไทย   ..........   จานนี้ดูหน้าตา ธรรมดาๆ  แต่ ไม่ธรรมดา ครับ  เนื้อหมูหั่นบาง แบบพอดีคำ  หมักมารสชาติดีเลยครับ มีรสเค็มนำหน้ามาเล็กน้อย  เนื้อหมูนิ่มเคี้ยวง่าย  หอมกลิ่นกระเทียม  .. ข้าวสวยก็พุงมาแบบ ไม่แห้ง ไม่แฉะ  สุกกำลังดี  เสิร์ฟมาพร้อมน้ำปลาพริก  ...  จานนี้ หายวับไปกับตาภายใน ไม่กี่นาทีเลยครับ















ยังมีอาหารอีกหลายรายการที่ผม ยังไม่ได้ทาน  .. ก็ลองนึกดูซิครับ  มากัน 2 คนทานไป 4 อย่างซะแล้วครับ  ...   ยังมี อีกจานอร่อย  ที่ผมเคยทานแล้ว แต่วันนี้ไม่ได้สั่งครับ  ก็ คือ  ข้าวกระเพราหมูสับ  ครับ  จานนี้ก็รับรองว่า ไม่เป็นรองใครเช่นกันครับ

ใครไป ร้านนี้ไม่ถูก ก็โทรไปถามได้ที่    053-247-864   นะครับ



แผนที่ร้านอาหาร ทั้งหมดที่ผมเขียนแนะนำ ไว้ใน   " แนะนำ ร้านอาหารอร่อย โดยป๋าปึกส์ "
https://mapsengine.google.com/map/edit?authuser=0&hl=en&mid=zi7qOsZPeff0.kmjHpvkh5cmM 



ป๋าปึกส์  
15/05/2557


ขอแนะนำ ร้านโปรดของผู้เขียน
 : http://restaurantaroi.blogspot.com/2010/11/tengoku-1.html
 : http://restaurantaroi.blogspot.com/2010/11/tengoku-2.html


ติดตาม คอลัมน์ แนะนำร้านอาหารอร่อย โดย ป๋าปึกส์ ได้ทุกวันใน  Facebook
ได้ที่  : http://www.facebook.com/SuebsaengSun