Translate

วันศุกร์ที่ 20 มิถุนายน พ.ศ. 2557

ตำแซบ พันนัว ... หลัง ม.พายัพ ... เชียงใหม่

ตำแซบ พันนัว ... หลัง ม.พายัพ ... เชียงใหม่


" ตำแซบ ตำนัว "   ......   ชื่อร้าน ก็ค่อนข้าง จะบอกชัดเจน อยู่แล้วนะครับ ว่า ต้องมี ส้มตำ เป็นอาหารหลัก ของร้าน
ส้มตำ เป็นอาหารคาว ที่มีถิ่นกำเนิด มาจาก ภาคตะวันออกเฉียงเหนือของ ไทย และ ประเทศลาว
ส้มตำ  หรือ ในภาษาลาว เรียกว่า ตำหมากหุ่ง (หมากหุ่ง หมายถึง มะละกอ)  
ส้มตำ ... ที่เรารู้จักกันในบ้านเรา ส่วนใหญ่  จะนำ มะละกอดิบ มาขูด หรือ มาสับเป็นเส้น แล้วนำมาตำในครก กับ มะเขือเทศลูกเล็ก , ถั่วลิสงคั่ว , กุ้งแห้ง , พริก , กระเทียม
ปรุงรสด้วย น้ำตาลปิ๊บ น้ำปลา ปูดอง ปลาร้า ให้มีรส เปรี้ยว เผ็ด เค็ม
นิยมทานกับ ข้าวเหนียว , ขนมเส้น (ขนมจีน) และ ผักสด
ส่วน  ส้มตำ ... ในประเทศลาว จะเลือกใช้วิธีการทำ มะละกอ ที่แตกต่างกับของไทย ก็ตรง การหั่นมะละกอ โดย ฝานเป็นแผ่น แทน การขูดหรือ สับ เป็นเส้น
ส่วนเครื่องปรุง และ วิธีการทำ ค่อนข้างเหมือนและคล้ายกัน
แตกต่างกันเล็กน้อยที่รสชาติ ที่ ส้มตำไทย โดยเฉพาะ ส้มตำอิสาน  ซึ่ง จะจัดจ้าน และ เข้มข้น และ เผ็ดแบบดุดันมากกว่า














ระยะหลังๆ  ในช่วงประมาณ 10 ปีที่ผ่านมา  ในบ้านเราเกิดความนิยม ทานส้มตำกันอย่างแพร่หลาย โดยเฉพาะในกลุ่มผู้หญิง  โดยเฉพาะ หนุ่มๆ สาวๆ  ที่หันมานิยมรับประทาน เพราะมองว่า ส่วนผสมและเครื่องปรุง ที่ใช้ในการทำส้มตำ ไม่ค่อยมี วัตถุดิบ ที่ทำให้เป็นต้นตอการเกิดของ โรคอ้วน เท่าไหร่นัก
ร้านส้มตำ เริ่มเปิดกันทุกหัวระแหง ทุกมุมเมือง
แต่ ส้มตำ ที่ค่อนข้าง ได้รับความนิยมที่สุด  ก็ น่าจะเป็น   " ส้มตำอิสาน "    รสจัดจ้าน  ที่มี ปูนาดอง และ ปลาร้า
จนมาเมื่อซักประมาณ 5-6 ปีที่ผ่านมา   ...  เริ่มมี  ส้มตำลาว และ ส้มตำหลวงพระบาง เข้ามาได้รับความนิยมมากขึ้น มาเรื่อยๆ  ...  จนในปัจจุบัน มีร้านส้มตำ หลวงพระบาง  ส้มตำลาว เริ่มเปิดกิจการในเมืองหลวง และ ในเมืองใหญ่ๆ  โดยเฉพาะเมืองที่เป็นที่ตั้งของมหาวิทยาลัย  คงเนื่องจาก คนวัยกำลังศึกษา เป็น กลุ่มเป้าหมายหลัก ของ ตลาดส้มตำ มั้งครับ
ผมเอง เคยทานส้มตำลาวครั้งแรก ที่ หลวงพระบาง เมื่อเกือบ 10 ปีที่แล้ว  ...  ครั้งแรกที่เห็น ก็รู้สึกแปลกๆ  กับ เส้นมะละกอ ที่ฝานบางๆ เป็นแผ่นๆ  และ สีของน้ำส้มตำ ที่ค่อนข้างออกสีเทาดำ  แต่สิ่งที่เย้ายวนที่สุดเห็นจะเป็นเรื่องของ กลิ่นส้มตำ  ที่ใส่ปลาร้า













เมื่อซัก อาทิตย์ที่แล้ว มีลูกน้องเก่า คนนึงที่เคยไป หลวงพระบางกับผม มาบอกผมว่า
" ป๋า .... มีร้านส้มตำลาว ร้านนึง เปิดมาไม่นาน อยู่หลัง ม.พายัพ  .. อร่อยเหมือนร้านที่พวกเราไปทาน ที่หลวงพระบาง เลย ครับป๋า "
เท่านั้นเอง ครับ  .....  ผมตรงไปลองเลยครับ
และ เป็นเรื่อง บังเอิญเหลือเกินครับ  ... ก่อนที่ผมจะไปทาน ร้านนี้ สองสามวัน ผมไปเดินหาซื้อสุขภัณฑ์ เพื่อใส่บ้านผม ที่ร้าน โฮมสุขภัณฑ์  บนวงแหวน หลัง ม.พายัพ
ระหว่างเดินซื้อของ  มีผู้ชายคนนึง เดินผ่านแล้ว ยิ้มให้ผม (ตอนแรก นึกว่า เอาละบ๊ะเฮ้ย ..  มีผู้ชายมายิ้มให้ด้วย เฟร้ย 5555)  
แกยิ้มให้ผม แล้วเดินเข้ามาทักเลยครับ   " ป๋าปึกส์ รึเปล่าครับ "  ...  โอวววว   โล่งอกไปครับ  555
แกบอกว่าแกเป็น  Fanclub ของผม อ่าน Facebook ผมเรื่องแนะนำ ร้านอาหารทุกวัน  ...  แกจัดแจงแนะนำ ตัวเองเลยครับ
" ผมชื่อ ช้าง ครับ  .. ผมเป็นคนลาวครับ ติดตามป๋ามาตลอด ตอนนี้มาเปิด ร้านส้มตำอยู่หลัง ม.พายัพ นี่เองครับ  อยากให้ ป๋า ลองไปชิม ซักครั้งนึงครับ อร่อยถูกใจ หรือไม่ ไม่เป็นไร ครับ  แค่อยากให้อยากชิมครับ "
นี่แหละ ครับ  คนลาว ครับ  เว้ากันซื่อๆ  ไม่มีอ้อมค้อม ครับ ... ผมเลยขอเบอร์แก และ บอกแกเลยว่า
" ห้ามเลี้ยงผมนะ เพราะผมมีตังค์ "   ...  แกหัวเราะ ลั่น โฮมสุขภัณฑ์ เลยครับ  
วันรุ่งขึ้น  ผมตรงไปลอง เลยครับ   แล้วเอารูปมา Post  ลงใน Facebook  แต่ยังไม่ได้เขียน

จนมา เมื่อวานตอนเย็น  ผมไปอีกรอบนึงครับ
ผมไปพร้อมกับ  เจ้าโอ๋ (สถาปนิก นักชิม ที่ไปชิมกันมากว่า 50% ของร้านในเชียงใหม่ ที่เขียนมาทั้งหมดครับ)   ก็เลย สั่งกันแบบไม่ยั้งเลยครับ
พอสั่งเสร็จ เหลือบไปเห็น   เสี่ยช้าง  เจ้าของร้าน นั่งอยู่ในร้าน  ผมเลยบอกเด็ก ให้ไปเชิญ  คุณช้าง มานั่งคุย และ นั่งทานด้วยกันเลยครับ
แล้วก็  กำชับบอก เสี่ยช้าง (เจ้าของร้าน) ไว้ว่า  
" ถ้าคุณไม่คิดเงินผม  ต่อให้อร่อยแค่ไหน ผมก็ไม่เขียนครับ "  
เสี่ยช้าง  แกชอบใจใหญ่ครับ แกบอกว่า  " คนไทยก็  คือ คือ กับ คนลาวนะครับ เว้ากัน ซื่อ ซื่อ ดีครับ "   ไปสองวันติดต่อกัน  ขอบอกว่า  อาหารที่สั่งมา  อร่อย แบบไม่ผิดหวังเลยซักจาน เลยครับ













ส้มตำหลวงพระบาง   ..........   ส้มตำที่ใช้มะละกอฝาน เป็นแผ่นบางๆ  คลุกเคล้าและตำ จนน้ำตำสีออกเทาดำ  หอมกลิ่นปลาร้าฟุ้ง มาเลยครับ
หอมจน ผมต้องหันไปถาม   คุณช้าง(เจ้าของ)  ว่า    " ใช้ปลาร้า จากที่ไหน "
แกบอกว่า   " Import ครับป๋า  ส่งตรงจากเวียงจันทร์  เพราะที่นั่นเข้าใช้ปลาจากธรรมชาติ มาทำปลาร้า ไม่ใช้ปลาเลี้ยงครับ รสชาติและกลิ่น จะดีกว่า ปลาเลี้ยงครับ "
ผมเห็นด้วยครับ  หอมและ อร่อยกว่าปลาร้าบ้านเาจริงๆ ครับ
รสชาติ กลมกล่อม แต่ไม่จัดจ้านเข้มข้น เหมือนส้มตำอิสาน บ้านเฮานะครับ  ...  แต่ทางร้านเค้ามี ส้มตำอีกหลายชนิด รวมไปถึง แบบ แซบ สุดๆ  ก็มีครับ

ตำถาด   ...........   ส้มตำ (สามารถเลือกชนิดของ ส้มตำได้ ตามสบายครับ)  ที่วางอยู่กลางถาด รายล้อมด้วยเครื่องเคียง  คล้ายๆ ออร์เดิฟเมือง ของบ้านเรา   ...  แต่จานนี้หลังจากทาน ส้มตำหลวงพระบาง จานแรกแล้วติดใจ เราก็เลยเลือกส้มตำแบบเดิม ซ้ำอีกครับ  ...  ส่วนเครื่องเคียงก็มี  จิ๊นส้ม(แหนม)  ,  หมูยอ , หมูทอด , แคบหมู , ขนมเส้น , หมี่คั่ว , ไข่ต้ม  และ คั่วหมี่
จานนี้ จริงๆแล้ว ถ้าไป สองคน  ก็น่าจะอิ่มเลยครับ  ...  แต่ผมสองคน ไม่อิ่มครับ  สั่งต่ออีกหลายอย่างครับ

พันปลาจุ่ม   ..........   จานนี้ คล้ายๆ จิ้มจุ่ม ผสมกั แหนมเนือง  ...  มีหม้อใส่น้ำซุป รสอร่อยสีน้ำตาลใส หอมกลิ่น สมุนไพร  ... เสิร์ฟมาพร้อม ปลาคัง แล่เป็นชิ้นบางๆ โรยหน้ามาด้วยไข่ไก่  และ เครื่องเคียง ที่มีทั้ง มะม่วงเปรี้ยว กระเทียม ขิง พริก แตงกวา ขนมเส้น ฯลฯ  ...  พร้อม แป้งห่อแบบแหนมเนือง และ ผักสด (เพี๊ยบ และ สดมากครับ)  ... และ น้ำจิ้ม 2 แบบ  .. แบบ original เป็น น้ำจิ้ม สัปปะรดตำ ใส่ ปลาร้า ปรุงรสด้วยพริก กระเทียม  อร่อยแบบ ถ้าไม่ลองต้องถือว่าพลาดเลยครับ  .. ส่วนน้ำจิ้มอีกชนิด เป็น น้ำจิ้มสามรส
วิธีทาน ก็ต้องเอา ปลาคังลงไปลวกในน้ำซุป  แล้วเอาลงมาวาง ในแผ่นแป้ง ใส่เครื่องเคียง ทั้งมะม่วง ขิง พริก กระเทียม  ราดด้วยน้ำจิ้ม สัปปะรด  ทานแกล้มกับผักสด  .....  โอวววววววว  หร๋อยจั่งหู๋ ครับ
ผมชอบน้ำซุป ตอนเราลวกปลาไปหมดแล้ว เอา  ขนมเส้นใส่ลงไป  ราดด้วยน้ำจิ้มสะปะรด  ... แซบอีหลี  จริงๆ ครับ  .. พวกผมสองคน ซดจนไม่มี น้ำซุปเหลือดติดหม้อ เลยครับ

ใส่อั่วตะไคร้  ...........   ไส้อั่วแบบลาว ใส่ใน ต้นตะไคร้ที่ผ่าออก แล้ว ยัดไส้อั่ว ลงไปด้านใน แล้วเอาไปทอด  ....  ความกลมกล่อมของรสชาติของไส้อั่ว กับ กลิ่นหอมๆ ของตะไคร้  ....  ไร้เทียมทานจริงๆ ครับ






ยังมีอาหารน่าทานอีกหลายอย่าง ที่ยังไม่ได้ลอง เที่ยวนี้ทานจนไม่มีพื้นที่ ในกระเพาะเหลืออีกแม้แต่น้อยครับ
ที่ เล็งๆว่า จะต้องมาลอง มีอีกหลายอย่างครับ  ทั้ง บี่บุ๊นหมู , ป่อเปี๊ยทอด , ป่อเปี๊ยสด , เฝอ ฯลฯ
มีอีกหลายรายการ ที่น่าลองครับ
ผมเล่าให้คุณช้าง  ฟังว่าตอนที่ผมมาครั้งแรก แล้วเอารูปมา Post  ลงใน Facebook
มีคนคอมเม้นท์ มาว่า  อาหารที่นี่ช้ามาก   และ   แพง
แต่ครั้งแรกที่ผมไปก็ไม่เห็นช้าอย่างที่เค้าว่ากัน
คุณช้าง   เล่าว่า ช่วงเปิดใหม่ๆ เค้าใช้นักศึกษา ที่มาทำงาน Part time  พอ มหาวิทยาลัย ปิดเทอม  คนก็ขาด อาจช้าไปบ้าง  ตอนนี้เค้าใช้พนักงานประจำ มาทำงานแล้ว  ฝากขออภัยมาด้วย
ส่วนเรื่อง ราคา ที่มีคนบ่นว่าแพง  ... ผมไม่ได้ถามครับ  ...  เพราะเท่าที่ทานแล้ว วัตถุดิบ ที่เค้าเลือกใช้ ผมมองว่า สมกับ ราคาครับ

ร้านนี้อยู่ที่  V-community   บนถนนวงแหวน  หลัง  ม.พายัพ เลยครับ
ร้านนี้เปิดตั้งแต่    10 โมงเช้า  ไปจนถึง  20.30 น.  เลยครับ
ช่วงเที่ยง คนค่อนขางเยอะมากนะครับ  ไปก่อนเที่ยง หรือ หลังเที่ยง น่าจะพอมีที่ว่างนะครับ
หรือ จะโทรไปจองที่นั่ง หน่อยก็ดีครับ     053-126-075   และ   089-758-4408

ลองเปิดดู รายละเอียด ของร้านนี้ ได้ที่
https://www.facebook.com/pages/ตำแซบ-พันนัว

ลองแวะไปชิมกันดู นะครับ


แผนที่ร้านอาหาร ทั้งหมดที่ผมเขียนแนะนำ ไว้ใน   " แนะนำ ร้านอาหารอร่อย โดยป๋าปึกส์ "
https://mapsengine.google.com/map/edit?authuser=0&hl=en&mid=zi7qOsZPeff0.kmjHpvkh5cmM




ป๋าปึกส์
20/06/2557


ขอแนะนำ ร้านโปรดของผู้เขียน
 : http://restaurantaroi.blogspot.com/2010/11/tengoku-1.html
 : http://restaurantaroi.blogspot.com/2010/11/tengoku-2.html
 : http://restaurantaroi.blogspot.com/2011/05/tengoku-de-cuisine.html

ติดตาม คอลัมน์ แนะนำร้านอาหารอร่อย โดย ป๋าปึกส์ ได้ทุกวันใน  Facebook
ได้ที่  : http://www.facebook.com/SuebsaengSun






ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น