Translate

วันเสาร์ที่ 16 พฤศจิกายน พ.ศ. 2556

โจ๊กศรีพิงค์ ... กาดต้นพยอม ... เชียงใหม่

โจ๊กศรีพิงค์  ...  กาดต้นพยอม  ...  เชียงใหม่


                            " โจ๊ก "   เรียกเป็น ภาษาอังกฤษว่า  Congee   มีรากศัพท์มาจาก คำว่า  Kanji  (ซึ่งเป็น ภาษาอินเดีย)   ...   ส่วน  ที่ในบ้านเราเรียกกันว่า  " โจ๊ก "  ก็เพราะเป็นการเลียนเสียงมาจาก  ภาษากวางตุ้ง  ที่เรียก โจ๊กว่า   " จุ๊ก "  (粥 dzuk)      (ขอบคุณ ข้อมูล จาก  วิกีพีเดีย)
                            " โจ๊ก "    เป็น ข้าวต้มชนิดนึงที่ใช้ ปลายข้าวต้มจนเละ  ...  มีต้นกำเนิดมาจาก ประเทศจีน  ...  นิยม รับประทานกันในหลายๆประเทศในเอเชีย  โดยเฉพาะ ประเทศที่มี คนเชื้อสายจีนอาศัย และ ตั้งรกรากอยู่  ...  โจ๊ก เป็นอาหารที่รับประทานกันเป็น อาหารเช้า  หรือ อาหารมื้อค่ำ
คนจีน ในประเทศจีน  จะไม่นิยมทาน โจ๊ก ในเทศกาลตรุษจีน  เพราะมีความเชื่อว่า  การทานโจ๊ก  ในวันตรุษจีน เปรียบเหมือนกับ การขัดขวางไม่ให้ตัวเอง ร่ำรวย
เนื่องจากในอดีต  โจ๊ก เป็นอาหารของคนจีน ที่มีฐานะไม่ค่อยดี















                            วันนี้ ขอแนะนำ ร้านโจ๊กเก่าแก่ อีกร้านนึงของเมืองเชียงใหม่ ครับ  ...  ความที่ผมเป็นคนที่ ตื่นเช้าจนเป็นนิสัย  และ ทานอาหารเช้าเป็นอาหารหลักทุกเช้า  แถมยังชอบไปเดินตลาดเกือบทุกเช้าอีกต่างหาก  ....  ทุกเช้าก็เลยต้องตระเวนหา อะไรทานเพื่อไม่ให้ซ้ำกับร้านที่เคยไป  อยู่เป็นประจำครับ   .....    ร้านโจ๊ก ศรีพิงค์ เป็นร้านที่ผมทานมานมนานกว่า  10 ปีแล้วครับ  ผมมาทาน โจ๊ก ร้านนี้มาตั้งแต่  ร้านนี้ยังเปิดเป็น ห้องแถวคูหาเดียว  อยู่ปากซอย  ทางด้านซ้ายมือ  ของทางเข้า กองบิน 41  ด้านตลาดต้นพยอม ครับ  (ร้านแรกจากปากซอย ทางเข้า กองบิน  41)
                             บ้านผมอยู่กลางทางระหว่าง 2 ตลาดครับ   ตลาดต้นพยอม และ ตลาดธานินทร์  ... ด้วยความที่เป็นคนชอบไปตลาด  ตอนหลังๆ  ก็เลยไปเดินที่ ตลาดธานินทร์ บ่อยกว่า  คงเป็นเพราะ ร้านค้าในตลาดที่  ตลาดธานินทร์ เค้าตั้งร้านกันตั้งแต่ยังไม่สว่างเลยครับ  ส่วน ที่ตลาดต้นพยอม จะตั้งร้านกันสายหน่อย  ...   ผมเลยห่างหายไปจาก ตลาดต้นพยอม  ไปนานเลยทีเดียวครับ   ...   มาเมื่อวานนี้ นึกขึ้นได้ว่า   ผมยังไม่ได้แนะนำ โจ๊ก ร้านเก่าแก่ ที่ผมเคยทานเกือบทุกเช้า เมื่อหลายปีก่อน  ...  เมื่อวาน  ก็เลยตรงไป   ร้านโจ๊กศรีพิงค์ แต่เช้าเลยครับ















                               เสน่ห์ของร้านนี้ที่ นอกจากมีอาหารอร่อยแล้ว  บุคลิก อัธยาศรัย  ของเจ้าของร้านทั้ง 2 คน เป็นกันเองและ น่ารักดีครับ  ...  ร้านนี้ มีรายการอาหารมากมายเลยครับ   จำมาเขียนแทบไม่ไหวเลยครับ   มีรายการอาหารติดอยู่ตามผนัง ข้างฝา ให้ดูและเลือกสั่งได้ตามชอบใจครับ   ....  แต่ต้องขอบอกว่า ผมเคยทานแค่ 2 อย่างเท่านั้นนะครับ   ...  ก็ทานแต่ที่ผมชอบทาน นั่นแหละครับ

โจ๊กหมูสับ - ตับ ใส่ไข่   .........   จานนี้ขนาด  ผมไม่ได้ไปร้านนี้มานานนับปี  ไปถึงน้องๆ ยังจำได้เลยครับ  ว่าชอบสั่งอะไร (สมัยก่อนไปทานอาทิตย์นึง 3-4 ครั้งเลยทีเดียวครับ)  ....  หมูสับ เป็นหมูล้วนๆ  นุ่มมีรสชาติดี  ... ตับ  ต้องชมเลยครับ   ร้านนี้ลวกตับ ได้สุกกำลังดีเลยครับ  ...  ส่วน ไข่ ที่ตอกใส่มาในโจ๊ก  ก็เป็น ไข่ไก่ที่ลวกมาสุกพอดีเช่นกันครับ  ...   ส่วน  โจ๊ก  เค้าเลือกใช้ ปลายข้าว ของข้าวหอมมะลิใหม่  ที่เมื่อเคียวจนเละแล้ว   จะมียางข้าว จากปลายข้าว ที่ได้รสชาติอร่อยกว่า ปลายข้าวธรรมดา เยอะเลยครับ

เกาเหลาเลือดหมู   .........   สมัยก่อนต้องใส่ทุกอย่างครับ  พอแก่ตัวขึ้นมา เมื่อตัดถุงน้ำดีออกไป ก็ต้องพยายาม เลือกส่วนที่ย่อยง่าย  มากขึ้นครับ  ...  เดี๋ยวนี้ก็เลย ต้องงด กระเพาะ กับ ลำไส้ ออกจากรายการเกาเหลาเลือดหมู ของผมครับ  ....   น้ำซุปจากเกาเหลา ต้มกระดูกมาจนหวานแบบสัมผัสได้ว่า ไม่ได้ใส่น้ำตาลครับ  ... เครื่องใน  ไหลน้ำ มาอย่างดีครับ  (การไหลน้ำ เป็นวิธี ล้างเครื่องในสัตว์ ของคนจีนในสมัยโบราณ   ที่ จะล้างเครื่องใน ด้วยการทำความสอาด ด้วยการคลุกเกลือจนทั่ว แล้ว เหยาะเหล้าจีนไปนิดนึง  วางเครื่องในใน กาละมัง แล้วเปิดน้ำให้ไหลล้นกาละมังไปเรื่อยๆ  ประมาณ ครึ่งชั่วโมง  ตามแบบฉบับ ของเมืองกวางตุ้ง)  
เกาเหลา  เสิร์ฟมาพร้อมน้ำจิ้มพริกตำ   ที่แค่ตักลงในชามเกาเหลา แล้ว เหยาะซีอิ๊วขาว  ซักนิดนึง  โขยกพริกไท ลงไป (ที่ผมบอกว่า โขยก ก็เพราะผมชอบใส่ เยอะๆ ครับ .. 5555)  ...  ทานกับข้าวสวยร้อนๆ   แล้วเอาน้ำปลากับ พริกป่น ลงไปใส่ในถ้วยน้ำจิ้มพริกตำที่เหลืออยู่    เอาไว้จิ้มกับเครื่องใน  .... โอววววว  .. เด็ดจริงๆ ครับ
















                           ร้านนี้ อยู่บน ถนนสุเทพ  (ถนนที่ผ่านหน้า โรงพยาบาล และ วัด สวนดอก ครับ)  ..  ถ้ามาจากประตูสวนดอก  ขับเลยไฟแดงที่ ปากทากเข้า กองบิน 41  แล้วหาที่จอก  หรือ จะเลี้ยวซ้าย เข้าไปจอดปากทางเข้ากองบินก็ได้ครับ  ...  ร้านนี้อยู่ ที่ตึกแถวปากซอยเลยครับ
มีป้ายเวลาเปิดปิด ที่เขียนไว้ที่ร้านว่า      17.00 น.   ถึง   13.00 น.    ....   อ่านแล้วอย่าเพิ่ง งง นะครับ  ตอนผมเห็นตอนแรกก็ งง เหมือนกันครับ  แปลง่ายๆว่า  เค้าเปิดทั้งวัน ยกเว้น หลัง บ่ายโมง ไปจนถึง 5 โมงเย็น นั่นแหละครับ  (ปิดให้พักผ่อน และ เคลียร์ร้าน บ้างครับ)
ไปไม่ถูก    โทรไปสอบถามได้นะครับ     053-275-661  ,   081-531-3026  ,  081-746-0459  
ลองแวะไปชิมกันดู นะครับ




แผนที่ร้านอาหาร ทั้งหมด  ที่ผมเขียนแนะนำไว้ใน    " แนะนำร้านอาหารอร่อย โดย ป๋าปึกส์ "
https://mapsengine.google.com/map/edit?authuser=0&hl=en&mid=zi7qOsZPeff0.kmjHpvkh5cmM





ป๋าปึกส์
16/11/2556  

ขอแนะนำ  ร้านอาหาร ร้านโปรด ของผู้เขียน  
http://restaurantaroi.blogspot.com/2011/05/tengoku.html 
http://restaurantaroi.blogspot.com/2010/11/tengoku-1.html
http://restaurantaroi.blogspot.com/2010/11/tengoku-2.html 




ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น